‘ปิยบุตร’ชงโละบทเฉพาะกาลม.279-ม.272 เรื่องสว. หนุนแก้รธน.ก่อนยุบสภา
7 สิงหาคม 2563 ที่รัฐสภา นายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้า ในฐานะคณะกรรมาธิการ(กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาหลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขเพิ่มเติม รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 กล่าวว่า ในการประชุม กมธ.วันนี้เป็นการพูดถึงบทเฉพาะกาล ซึ่งตนเห็นว่ารัฐธรรมนูญ 60 มีปัญหาอยู่หลายเรื่อง โดยเฉพาะในบทเฉพาะกาล ซึ่งเป็นบทบัญญัติที่วางอาไว้เพื่อการสืบทอดอำนาจของ คสช. ซึ่งตามความเห็นของตนสิ่งแรกที่จำเป็นจะต้องแก้ไขไปก่อนคือเรื่องการยกเลิกมาตรา 279 ซึ่งรับรองให้บรรดาประกาศ คำสั่งและการใช้อำนาจต่างๆ ของ คสช.ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ทั้งที่มาตรา 279 เหมือนหลุมดำของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เพราะยกเว้นให้กับการใช้อำนาจของ คสช. ตลอดช่วง 6-7 ปีที่ผ่านมา ซึ่งบทเฉพาะกาลควรจะมีผลใช้บังคับชั่วคราว แต่กลายเป็นว่ามาตรา 279 ใช้บังคับตลอดกาล อย่างนี้ไม่ใช่เฉพาะกาล แต่เป็นบทสืบทอดอำนาจและรับรองการใช้อำนาจ บทป้องกันไม่ให้การใช้อำนาจต่างๆ ของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในช่วงที่เป็นหัวหน้า คสช.ขัดรัฐธรรมนูญ
นายปิยบุตร กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังมีจะมีการเสนอให้ยกเลิกมาตรา 269, 270, 271 และ 272 ซึ่งว่าด้วยสมาชิกวุฒิสภาตามบทเฉพาะกาล 250 คนมีเวลา 5 ปี ซึ่งตนเห็นว่าเวลานี้ภารกิจของ ส.ว. ตามบทเฉพาะกาลได้สิ้นสุดลงไปแล้ว คือ ได้เลือก พลเอก ประยุทธ์ เป็นนายกฯ เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นเพื่อความยุติธรรมกับทุกฝ่ายในกรณีที่หากจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นครั้งหน้า ตนคิดว่า ส.ว. ทั้ง 250 คนควรต้องยุติบทบาทตรงนี้ ส่วนคนที่มีความรู้ความสามารถ ความเชี่ยวชาญ สามารถกลับเข้ามาสมัครใหม่เป็น ส.ว. ตามช่องทางปกติได้ และถ้ากังวลใจว่า ส.ว. 250 คนจะคอยประคับประคองรัฐบาลโดยเฉพาะเวลาออกกฎหมายปฏิรูป ตนเห็นว่าเรื่องนี้แทบจะไม่มีความจำเป็นแล้วเพราะเสียงของรัฐบาลเวลานี้ทิ้งขาดฝ่ายค้านไปกว่า 60 เสียงแล้ว
เมื่อถามว่าการแก้มาตรา 256 จำเป็นต้องใช้เสียง ส.ว. สนับสนุนและการแก้มาตราอื่นๆ โอกาสเป็นไปได้แทบไม่มี นายปิยุบตรกล่าวว่ามันเป็นปัญหาไก่กับไข่ว่าอะไรเกิดขึ้นก่อนกัน ในเมื่อรัฐธรรมนูญฉบับนี้วางไว้ว่า ส.ว. จะต้องมีส่วนแก้รัฐธรรมนูญด้วย ถ้าเราไม่มี ส.ว. 84 คนเป็นอย่างน้อยก็ไม่มีทางแก้ไขรัฐธรรมนูญได้สำเร็จ ดังนั้นตนขอความร่วมมือกับ ส.ว. 250 คนว่าถ้าท่านนั่งอยู่แบบนี้ต่อไป นานวันขึ้นความชอบธรรมก็จะลดน้อยถอยลงไปเรื่อยๆ จนทุกวันนี้ตนยังไม่เห็นใครมีความสามารถมาอธิบายเหตุผลการมีอยู่ของ ส.ว. ได้
ดังนั้นแทนที่ท่านจะถูกกดดันและไล่ออกไป ตนคิดว่าท่านควรแก้เรื่องนี้ดีกว่า แล้วกลับมาเป็น ส.ว. ตามปกติ และที่สำคัญก่อนหน้านั้น คนจำนวนมากมักพูดว่า ไม่ให้แก้รัฐธรรมนูญ เพราะแก้รัฐธรรมนูญแล้วเป็นไปเพื่อประโยชน์ของนักการเมืองเอง และคนเหล่านี้จำนวนมากก็เข้ามาเป็น ส.ว. ชุดปัจจุบัน และวันนี้ คนเหล่านี้กำลังมาบอกว่าไม่ให้แก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งก็คือเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง ทั้งนี้ตนเห็นว่าการไม่มี ส.ว. 250 คนไม่เห็นมีใครกระทบกระเทือนนอกจาก ส.ว. เองเท่านั้น ดังนั้นควรมองภาพใหญ่มากกว่าตัวเองได้ตำแหน่ง
เมื่อถามว่ามาตราต่างๆ ที่เสนอมาจำเป็นต้องเข้าไปแก้ในสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) หรือทำเฉพาะประเด็น นายปิบุตร กล่าวว่า มีขั้นตอนในการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญตามขั้นตอนอยู่แล้ว ซึ่งตนเห็นว่าสามารถเสนอไปพร้อมกันทั้ง 3 ฉบับ คือ ยกเลิก ส.ว. ตามบทเฉพาะกาล, ยกเลิกมาตรา 279, และแก้ไขมาตรา 256 แล้วจัดให้มี ส.ส.ร. ซึ่งทั้ง 3 ฉบับนี้กว่าจะผ่านความเห็นชอบต้องใช้เวลา แต่คิดว่า 2 ฉบับแรกจะเร็วกว่าเพราะแก้ง่ายมาก ส่วนการตั้ง ส.ส.ร. ก็ดำเนินการไปซึ่งที่สุดแล้จะเกี่ยวข้องกับการชุมนุมทางการเมืองของนิสิตนักศึกษาว่าอย่างน้อยที่สุดเรื่องเหล่านี้ได้รับการแก้ไข ตนเชื่อว่าจะทำให้อุณหภูมิความร้อนแรงของการชุมนุมบรรเทาเบาบางลงไปบ้าง ดีกว่าปล่อยย่างนี้ไปเรื่อยๆ แล้วไม่มีการแก้ไขอะไรเลย
“ในเมื่อทุกวันนี้เรายืนยันแล้วว่ามีการเลือกตั้งเกิดขึ้น ประเทศไทยกำลังทยอยกลับเข้าสู่ระบบปกติ ดังนั้นอะไรที่เป็นสิ่งผิดปกติอยู่ในรัฐธรรมนูญฉบับนี้ที่ปรากฎอยู่ในบทเฉพาะกาลก็ควรจะต้องยกเลิกออกไป ซึ่งความเห็นของผมคือ 2 เรื่องใหญ่ๆ มาตราสุดท้ายที่รับรองอำนาจของ คสช. และมาตราที่ว่าด้วยอำนาจของวุฒิสภา 250 คน”นายปิยบุตร กล่าว
เมื่อถามว่าต้องแก้รัฐธรรมนูญก่อนยุบสภา เพื่อเลือกตั้งครั้งต่อไปหรือไม่ นายปิยบุตรกล่าวว่า เท่าที่ตนได้ฟังที่คนพูดเรื่อยุบสภา คือ หากยุบสภาตอนนี้ก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร เพราะเป็นไปได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีก โดยกลไก ส.ว. 250 คน ซึ่งการเลือตั้งครั้งที่แล้ว หลายพรรคการเมืองรณรงค์ไว้ว่าจะไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ แต่เมื่อผลกรเลือกตั้งออกมาปรากฎว่ามีบางพรรคการเมืองไปสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ตนเชื่อว่าเพราะกติกาที่ ส.ว. ไปเลือกนายกรัฐมนตรี เพราะหากไม่มี ส.ว. แล้วใช้ระบบปกติ พรรคการเมืองอันดับหนึ่งตั้งรัฐบาลได้แน่ๆ แต่เมื่อมี ส.ว. ทำให้บดผันการตัดสินใจของพรรคการเมืองไปจำนวนมาก หากเรายกเลิก ส.ว. ออกไป
เชื่อว่าหากมีการยุบสภาเกิดขึ้น เชื่อการตัดสินใจของคนที่จะร่วมรัฐบาลจะเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน และที่สำคัญประชาชนมีอำนาจกำหนดตัวรัฐมนตรีและรัฐบาลอย่างแท้จริง ส่วนเรื่องการแก้ไขระบบเลือกตั้งก็สุดแท้แต่ที่จะแก้ แต่ในความเห็นของตนระบบเลือกตั้งขณะนี้มีความแปลกประหลาด แต่ตนพยายามละเว้นไม่พูดเรื่องนี้ เพราะจะมากล่าวหาว่าต้องการแก้เพื่อพรรคพวกตัวเอง
“ส.ว.”เฉ่งยับปมบ่อนพนันลามแพร่โควิด! เย้ยมีแต่ “เสาไฟฟ้า” กับ “ตร.” เท่านั้นที่ไม่รู้ ด้าน “สาธิต” รับเสียงอ่อย ชี้ภาคตะวันออกเริ่มเอาอยู่ ขอควบคุมโรคให้ได้ก่อน จัดหนักคนผิดว่ากันทีหลัง
"จุรินทร์"สั่งกรรมาธิการแก้รธน.ปชป. เร่งดันร่างแก้รัฐธรรมนูญผ่านวาระ 3 ก่อนปิดสมัยประชุมปลายเดือนกุมภาพันธ์ เชื่อ"คกก.สมานฉันท์"ย
กลับบ้านเก่า! ต้นคิดโอทอปผู้ก่อตั้ง “ทรท.” คืนรังสมัครสมาชิกพรรคพท. โยนบาปรธน.อ้างมีเหตุจำเป็นต้องชิ่งหนี
"สุรชัย"เผย กมธ.เร่งปรับแก้"พ.ร.บ.ประชามติ" เสร็จในสิ้นเดือนนี้ ให้คู่ขนานแก้รธน.ม.256 เน้นประเด็นขอออกเสียงนอกราชอาณาจักร
‘ปิยบุตร’ย้อนช่วงตั้งอนค. ‘กลืนเลือด’ไร้นโยบายแก้ม.112 แลกได้เล่นการเมือง
เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2564 นายคำนูณ สิทธิสมาน สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิ) กล่าวว่า จะมีการประชุมวุฒิสภาตามปกติในวันจันทร์และ
เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2564 นายคำนูณ สิทธิสมาน สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว "Kamnoon Sidhisamarn" ระบุว่า ขอแผ่นดินที
ฝีแตก!‘บ่อน-แรงงานผิดกม.’ทำโควิดพุ่ง ‘คำนูณ’บี้นายกฯเร่ง‘ปฏิรูปตำรวจ’กู้วิกฤติ-ปิดช่องวิ่งเต้น
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี