“อนุทิน” ตะโกนดังๆ ฝากหน่วยงานเกี่ยวข้องเช็กบิลพวกลักลอบเข้าเมืองแพร่เชื้อ ย้ำ หน้าที่ สธ.ต้องรักษาทุกคนตามหลักมนุษยธรรม ไม่ปล่อยใครตายหรอก
วันที่ 12 มกราคม 2564 เวลา 13.50 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงข้อสรุปการคิดค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ที่ลักลอบเข้าประเทศและกระทำผิดกฎหมาย ว่า ตนไม่ได้เสนอเรื่องนี้ใน ครม. และไม่ต้องรายงานนายกรัฐมนตรี แต่ให้ไปดูตามข้อกฎหมาย โดยจะต้องมีการแต่งตั้งคณะกรรมการตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อขึ้นมา อย่างไรก็ตาม ที่ตนพูดมายังไม่ได้ให้ปฏิบัติ แต่ให้มาช่วยกันคิดในการบริหารค่าใช้จ่ายว่าจะเอาเงินมาจากไหน ซึ่งต้องไปดูว่าเจตนารมณ์ของกฎหมายเป็นอย่างไร และทำให้คนไม่ไปคิดกันว่าถ้าเข้ามาเมืองไทยแล้วจะทำอย่างไรก็ได้ เพราะคิดว่าเมื่อป่วยแล้วรักษาฟรี
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องไปบริหารจัดการ เราไม่ได้พูดว่าจะไม่รักษาพยาบาล เพียงแต่ว่าหลังจากรักษาแล้วจะดำเนินการอย่างไร ตนต้องบริหารงบประมาณการรักษาพยาบาล เพราะในวันนี้งบของกระทรวงสาธารณสุขใช้ไปกับการจัดการโควิด-19 เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ยังไม่ได้พูดถึงการลงทุนหรือภารกิจอื่นๆ เลย แต่ไม่ได้หมายความว่างบประมาณเราไม่พอ เพราะงบในการดูแลประชาชนไม่มีวันไม่พอ แต่หมายถึงว่าเมื่อเราได้อะไรมาแล้วต้องบริหารให้ได้ประสิทธิภาพ ตอนนี้มีผู้ลักลอบเข้ามา โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ได้มีสัญชาติไทย ผู้ที่ลักลอบที่เข้ามาซึ่งไม่มีเจ้าภาพหรือนายจ้างเข้ามา เราจะรักษาเท่าไหร่ก็ได้เลยหรือ มันไม่ถูกต้อง จึงต้องบริหารจัดการให้ดี
และขอชี้แจงทำความเข้าใจว่าหากเข้ามาแล้วเจ็บป่วยมันไม่ได้ มันต้องมีค่าใช้จ่ายและผิดกฎหมายด้วย ส่วนคนไทยที่ลักลอบเข้ามาและทำผิดกฎหมาย มันมีกฎหมายตรงนั้นที่เขาต้องรับผิดชอบ ส่วนสิทธิที่เขาต้องได้รับการรักษาบัญญัติอยู่ในรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว ซึ่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อกับรัฐธรรมนูญขัดกัน ถ้าตนไม่ทักก็ไม่มีใครเข้าไปดู โดย พ.ร.บ.โรคติดต่อระบุว่าผู้ที่ลักลอบเข้าประเทศต้องดูแลตนเอง แต่รัฐธรรมนูญระบุว่าคนไทยต้องได้รับสิทธิการรักษา แน่นอนว่ารัฐธรรมนูญใหญ่กว่า พ.ร.บ. จบประเด็น ไม่ต้องถามกันอีกแล้ว แต่ต้องไปดำเนินคดีในความผิดอื่นๆ ในฐานะลักลอบเข้าเมือง หากมีค่าปรับถือว่าบ้านเมืองจะได้ค่าปรับตรงนี้แทนค่ายา ตนคิดง่ายๆ อย่างนี้ก่อน แต่ไม่รู้ว่าหลุดออกไปแล้วถูกตีความกันไปมากมายได้อย่างไร
เมื่อถามถึงกรณีคนไทยจากท่าขี้เหล็ก เมียนมา ลักลอบเข้าเมืองทาง อ.แม่สาย จ.เชียงราย ซึ่งรักษาหายแล้ว จะดำเนินคดีตามหลังหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) มีหน้าที่รักษา ซึ่งมีคนถามว่าเมื่อรักษาหายแล้วจะดำเนินคดีหรือไม่ ตนจึงขอพูดดังๆ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินคดี สมควรทำหรือไม่ หรือจะไม่ทำก็ไม่เป็นไร เพราะไม่ใช่หน้าที่ของ สธ.
“สธ.มีหน้าที่รักษาให้หาย แต่ต้องบอกว่าคนพวกนี้แอบออกไป แอบเข้ามา และมีของฝากมาด้วย ทำให้เกิดการแพร่ระบาดมาถึงขนาดนี้ ถ้าไม่มีคนเตือนแล้วจะทำอย่างไร ใครมีหน้าที่อะไรก็ทำ สธ.ทำตามหน้าที่แล้วทุกอย่าง ไม่ต้องกังวลเรื่องมนุษยธรรมอะไรทั้งสิ้น ไม่ต้องมาถามว่าถ้าเกิดเจอคนป่วยต่อหน้าแล้วจะไม่รักษาเขาหรือ ผมรักษาหมด ไม่ปล่อยให้ใครตายหรอก”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี