“ชาญวิทย์-พนัส” ยื่นประกัน 4 แกนนำราษฎร ยันปฏิรูปสถาบันฯ ถูกต้องตามหลักประวัติศาสตร์ - ประกันตัวตามหลักนิติศาสตร์ ปัดไม่เป็นแกนนำม็อบเอง
เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 22 ก.พ.64 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศ.ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ นายพนัส ทัศนียานนท์ อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พร้อมนายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เดินทางมายื่นคำร้องประกันตัวนายอานนท์ นำภา, นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน, นายปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม หรือหมอลำแบงค์ และนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข จำเลยที่ 1-4 แกนนำและแนวร่วมกลุ่มราษฎร หลังจากทั้งสี่ถูกยื่นฟ้องคดีชุมนุม 19 กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร ในความผิดฐานหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ ตาม ป.อาญา ม.112, ยุยงปลุกปั่นฯ ม.116 และข้อหาอื่นๆ
โดย นายกฤษฎางค์ ให้สัมภาษณ์ว่า คณะทนายความได้ขอให้อาจารย์ทั้ง 2 ท่าน มาเป็นนายประกัน เพื่อขอปล่อยชั่วคราวหลังจากเรายื่นไปแล้วหลายครั้ง เหตุที่รบกวนอาจารย์ทั้ง 2 ท่าน เห็นว่าการปล่อยชั่วคราวเป็นประโยชน์ สิทธิในการปล่อยชั่วคราวเป็นสิทธิที่พึงได้รับการพิจารณา เป็นการรักษาไว้ซึ่งหลักการตามรัฐธรรมนูญและกฎบัตรที่ประเทศไทยเป็นสมาชิกอยู่ คนจะเป็นผู้กระทำความผิดเมื่อมีคำพิพากษาถึงที่สุด น่าจะให้โอกาสพวกเขาได้ออกมาต่อสู้
ด้าน นายชาญวิทย์ กล่าวว่า ตนกับอาจารย์พนัส เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก เรียนหนังสือด้วยกัน เรามีความสัมพันธ์ค่อนข้างใกล้ชิด ในแง่วิชาความรู้ที่เราเรียนมา เราสอนคนต้องการยืนยันหลักวิชาการ อย่าง อาจารย์พนัส ระบุถึงหลักนิติศาสตร์สากลควรเป็นอย่างไรในแง่คดีความ ส่วนของตนใช้หลักประวัติศาสตร์สากลว่าด้วยสถาบันพระมหากษัตริย์ ตนเชื่อว่าสิ่งที่คนทั้ง 4 กำลังทำอยู่ และคนรุ่นใหม่กำลังทำอยู่ เป็นเรื่องประวัติศาสตร์สากลของสถาบันพระมหากษัตริย์ทั่วโลกที่ยังคงอยู่เป็นจำนวนไม่มากนัก เมื่อเทียบกับจำนวนสมาชิกขององค์การสหประชาชาติ
นายชาญวิทย์ กล่าวต่อไปว่า สถาบันกษัตริย์ที่มั่นคง เป็นที่เคารพนับถือของประชาชน ยกตัวอย่างที่เป็นอันดับหนึ่งของโลก คือสหราชอาณาจักรอังกฤษ สถาบันกษัตริย์ของอังกฤษนั้นก็ได้ปฏิรูปมาจนกระทั่งมั่นคงอย่างที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน ตัวอย่างที่ใกล้เราที่สุดก็คือญี่ปุ่น สถาบันจักรพรรดินั้นหลังจากที่ได้ถูกใช้อ้างอิง ใช้โหนโดยฝ่ายรัฐบาล รัฐทหารของญี่ปุ่น จนกระทั่งเข้าสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ต้องแพ้สงครามด้วยการโดนระเบิดปรมาณู 2 ลูก อย่างที่เราทราบกันดี ตนคิดว่าสถาบันพระจักรพรรดิของญี่ปุ่นปัจจุบัน ก็คือสถาบันที่ได้รับการปฏิรูปไปแล้ว
“ดังนั้นผมเชื่อว่าข้อเสนอของเยาวชนคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่รวมทั้ง 4 ท่านที่เรากำลังพูดถึง คือข้อเสนอซึ่งถูกต้องตามหลักวิชาการประวัติศาสตร์ ถูกต้องตามประวัติศาสตร์ของสถาบันกษัตริย์ระดับสากล เพราะฉะนั้น ผมจึงต้องพูดว่าทั้ง อ.พนัส และผมยินดีมากที่จะเป็นคนที่ช่วยผลักดันในเรื่องนี้” นายชาญวิทย์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสเรียกร้องให้อาจารย์ออกมานำการชุมนุมเอง นายชาญวิทย์ กล่าวว่า เป็นไปไม่ได้หรอก ตนอายุ 80 ปี แล้ว อ.พนัส ก็เหมือนกัน เราเป็นคนรุ่นสงครามโลกครั้งที่ 2 เพราะฉะนั้นโดยอายุอานามเราแก่เกินไปแล้ว สิ่งที่เราทำได้คือการเอาหลักวิชาการ เอาประสบการณ์ของตัวเองออกมาช่วยชี้แนะ ไม่ใช่พ่อยกนะ ตนก็ชอบดูทราย เจริญปุระ แม่ยกแห่งชาติ เพราะนอกจากจะเก่ง กล้าหาญ แล้วยังสวยอีกต่างหาก แต่เราเล่นบทนั้นไม่ได้ อย่างดีเราก็เป็นผู้ให้กำลังใจ
“ผมคิดว่าคนรุ่นที่กำลังจะหมดอายุขัยไปแล้ว ตั้งแต่เบบี้บูมเมอร์ คนเดือนตุลา แน่นอนบางคนอาจจะยังมีกำลังกาย กำลังใจแข็งแรง ทำงานได้อยู่ แต่ว่าส่วนใหญ่จะหมดรุ่นของตัวเองไปแล้ว ดีที่สุดก็คือสนับสนุนให้กำลังใจ เอาประสบการณ์ของเราเองมาบอกเขาว่าทำได้ไหม อาจารย์ป๋วย อึ๊งภากรณ์ บอกว่าอย่าเป็นไทยมุง อย่าเป็นไทยเฉย จำได้ไหม อาจารย์ป๋วย บอกว่าการต่อสู้จะได้ประชาธิปไตยต้องสันติประชาธรรม” นายชาญวิทย์ กล่าว
เมื่อถามต่อไปว่าอาจารย์ยังดูแข็งแรง อายุอาจไม่น่าใช่อุปสรรค จะมีโอกาสขึ้นเวทีสนับสนุนหรือไม่ นายชาญวิทย์ กล่าวว่า ดูแข็งแรงเป็นภาพลวงตา เป็นคำชมที่ตนก็ชอบใจเหมือนกัน แต่ความจริงแล้วสุขภาพไม่อำนวย ไปไหนมาไหนก็ยาก ขับรถเองก็ลำบาก
นายกฤษฎางค์ กล่าวเสริมว่า ที่อาจารย์มาเป็นนายประกันเป็นคนละเรื่องกับความคิดเห็นทางการเมือง อาจารย์ต้องการจะให้สังคมเห็นว่าระบบยุติธรรมถ้าจะคงอยู่เพื่อจรรโลงให้ประเทศชาติเป็นระบบระเบียบ ต้องว่ากันตามสิทธิเสรีภาพ ถ้าเขาผิดเมื่อขึ้นศาลก็ต้องติด แต่การปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างพิจารณาคดี ถ้าไม่ได้รับการปล่อยชั่วคราวระหว่างพิจารณาคดีก็ต้องติดคุกไปตลอด 3 ปี ระหว่างพิจารณาคดี ซึ่งไม่เป็นธรรม เท่ากับสันนิษฐานไปก่อนว่าเป็นความผิด ในฐานะเป็นทนายความก็อาจไม่เห็นชอบกับสิ่งที่เขาทำ แต่โดยหลักวิชาชีพนักกฎหมาย หรือความเป็นอาจารย์ เราให้โอกาสเด็กออกมาต่อสู้คดี ไม่เกี่ยวพันกับการเคลื่อนไหวทางการเมืองใดๆ
ส่วน นายพนัส เปิดเผยว่า ตามหลักรัฐธรรมนูญและกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา จำเลยมีสิทธิทางกฎหมายในการขอปล่อยชั่วคราว ตามหลักสิทธิมนุษยชนซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน ส่วนความหวังว่าจะได้ประกันตัวหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล ในฐานะที่ตนเป็นนักกฎหมาย เขาควรได้รับการประกันตัว เชื่อว่าไม่หลบหนีไปไหน และพยานหลักฐานก็ไม่ซับซ้อน เป็นอย่างที่รู้กันอยู่แล้ว ส่วนเรื่องการเมืองตนไม่มีความเห็น และคนเรามีอุดมการณ์สำคัญที่สุด ศาลอาญารับคำร้องขอปล่อยชั่วคราวจำเลยทั้งสี่ไว้พิจารณา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี