‘จุรินทร์’ลุยแก้ไขรธน.
ผนึก3พรรครบ./ฝัน3ฝ่ายจับมือกัน
‘บิ๊กป้อม’ย้ำอยากแก้ก็แก้ไป
ไม่รับปากเสร็จในรัฐบาลนี้
บิ๊กตู่ลั่นไม่ตั้งพรรคสำรอง
“บิ๊กตู่”ลั่น ไม่มีตั้ง“พรรคสำรอง” ขอทำงานรัฐบาลชุดนี้ให้รอดไปก่อน “บิ๊กป้อม”ย้ำ“อยากแก้รธน.ก็แก้ไป เป็นตามศาลรธน.” ไม่รับปากเสร็จสมัยนี้ไม่ซีเรียส“ปชป.-ภท.”ไม่ชวนร่วมแก้รธน. ชี้สุดท้ายพรรคร่วมฯต้องมาคุยกัน ด้าน“จุรินทร์”ลั่นจะฝ่าด่านแก้รธน.ให้ได้ผนึก3พรรค ฝันอยากเห็น3ฝ่ายร่วมมือกัน ให้วิปรัฐบาล ถกแก้รธน.เมิน‘ศรีสุวรรณ’ร้องปปช.เอาผิด208สส.-สว.โหวตรธน.วาระ3 ยันทำตามหน้าที่ สว.จ่อขวางกม.ประชามติยื่นศาล ตีความขัดม.166 ขณะที่ ครม.ไฟเขียวเปิดวิสามัญ7-8เม.ย.ถก กม.ประชามติที่ค้างต่อ
เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2564 ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ถึงกรณีหากจะมีคนนำชื่อมอตโต้”รวมไทยสร้างชาติ”ไปตั้งเป็นชื่อ พรรคการเมืองว่าเรื่องนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน แล้วใครจะเอาไปตั้งเป็นชื่อพรรค มีการสงวนสิทธิ์หรือเปล่า ตนก็ไม่รู้ และไม่ได้สงวนสิทธิ์ ใครก็ได้รวมไทยสร้างชาติ เป็นคนไทยหรือเปล่า ถ้าเป็นคนไทย จะตั้งชื่อไทยสร้างชาติหรือรวมไทยอะไรก็แล้วแต่ก็ตั้งมาเถอะ
‘บิ๊กตู่’ลั่นไม่มีตั้งพรรคสำรอง
เมื่อถามว่ามีการมองว่าการตั้งพรรคการเมืองใหม่โดยใช้ชื่อ’รวมไทยสร้างชาติ’เป็นการผูกโยงพรรคสำรองของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า”เรื่องนี้สื่อ เป็นคนโยงกันเองไม่ใช่หรือ เราไม่ได้โยง และยืนยันว่า ส่วนตัวไม่มีแนวคิดที่จะตั้งพรรคการเมืองสำรอง เรื่องนี้ไม่มีอะไรทั้งสิ้นมัน ไม่ใช่เรื่องของผม ผมขอทำงานรัฐบาลนี้ให้รอดไปก่อน ทำให้ประเทศชาติหลุดพ้นไปจากกับดักต่างๆให้ได้ก่อน ต้องมองตรงนี้ อย่ามองการเมืองด้านเดียว การเมืองก็คือการเมือง ก็ต้องปฏิรูปการเมืองและการปฏิรูปการเมือง ไม่ใช่นายกรัฐมนตรีคนเดียว ทุกคนต้องช่วยกันปฏิรูปทั้งองคาพยพทั้งหมด เพราะประชาชนเป็นคนเลือกพวกท่านเข้ามา นายกฯ ไม่ได้เป็นคนเลือกทุกคนเข้ามา เป็นเรื่องของประชาชนที่เลือกมาเป็นตัวแทนของเขา ต้องเคารพกติกาตรงนี้”
พร้อมกันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังยืนยันถึงการปรับคณะรัฐมนตรี ตู่ 2/4 ครั้งนี้ว่าไม่มีชื่อของข้าราชการประจำที่ลาออกเพื่อจะมาเป็นรัฐมนตรี
‘บิ๊กป้อม’ลั่นพร้อมแก้ไขรธน.
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตสส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เสนอให้รัฐบาลเป็นเจ้าภาพในการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า เป็นเรื่องของสภาอยู่แล้ว จะไปเกี่ยวข้องกับรัฐบาลได้อย่างไร รัฐบาลกับสภาเป็นคนละเรื่องกัน เมื่อถามย้ำว่าแต่รัฐบาลมีสิทธิ์เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญได้พล.อ.ประวิตรตอบว่ารัฐบาลให้แก้อยู่แล้ว จะแก้รายมาตราหรือแก้ทั้งฉบับก็แล้วแต่ ขอให้ทำตามที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไว้ก็แล้วกัน เมื่อถามอีกว่าดูเหมือนว่าพรรคร่วมรัฐบาลมีแนวคิดการแก้ไขรัฐธรรมนูญแตกต่างกับพรรค พปชร.พล.อ.ประวิตรย้ำว่า”ไม่แตกๆก็เหมือนกันนั่นแหละจะแก้หลายมาตราหรือแก้ทั้งฉบับพรรครัฐบาลก็พร้อมอยู่แล้ว”
อยากแก้ก็แก้ไป/ไม่รับเสร็จสมัยนี้
เมื่อถามว่าจุดยืนพรรค พปชร.จะแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างไร พล.อ.ประวิตร กล่าวว่าจะเอายังไงก็ได้ไม่เป็นปัญหา ได้ทุกเรื่อง เพราะเป็นนโยบายของรัฐบาลอยู่แล้ว ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่ต้องถามหรอก
เมื่อถามว่าจะเห็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญเกิดขึ้นในรัฐบาลนี้หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ก็เห็นสิ จะดำเนินการอย่างไร ก็ว่าไปเลย คุณอยากแก้ ก็แก้เลย แก้ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญว่า”
เมื่อถามย้ำว่าการแก้ไขได้รัฐธรรมนูญจะเสร็จสิ้นภายในรัฐบาลนี้หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “จะไปรู้ได้อย่างไร ถ้าไม่ทำตามศาลรัฐธรรมนูญ ก็ไม่ได้”เมื่อถามว่า ความเห็นส่วนตัวอยากเห็นการแก้ไขรายมาตราหรือแก้ไขทั้งฉบับ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า”ผมยังไม่เห็น แล้วแต่สภา”
สุดท้ายพรรคร่วมฯต้องคุยกับ
พล.อ.ประวิตรยังกล่าวถึงที่พรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทยจับมือกันในการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยไม่ได้ชวนพรรคพปชร.เข้าร่วมว่า ถึงอย่างไรก็ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว ในพรรคร่วมรัฐบาลคงต้องพูดคุยกันอยู่แล้ว ขณะนี้ยังไม่เจอกัน เดี๋ยวค่อยคุยกัน ถ้าเจอก็จะคุยกัน เมื่อถามว่าเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญอาจจะทำให้กระทบความสัมพันธ์ในพรรคร่วมรัฐบาล พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า“ไม่มีๆ อะไร”เมื่อถามว่าจะต้องนัดพบกระชับมิตรกันเหมือนในครั้งก่อนๆหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า“ไม่มีอะไร พวกคุณไปคิดกันเองทั้งนั้นเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พรรคการเมืองก็ต่างคนต่างคิดกัน ไม่เป็นไร”
พล.อ.ประวิตรยืนยันว่าไม่มีแนวคิดตั้งพรรคสำรอง ส่วนพรรคพปชร.ก็ตั้งมา 2 ปีกว่าแล้ว ขอยืนยัน ไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ พร้อมปฎิเสธว่า ไม่รู้เรื่องการตั้งพรรคสำรอง
‘จุรินทร์’ผนึก3พรรคดันแก้รธน.
ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2564 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีการพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราจะต้องมีการพูดคุยพรรคพลังประชารัฐด้วยหรือไม่ว่า ในฐานะที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลคงต้องหารือด้วยกัน แต่บังเอิญว่า เริ่มต้นที่ได้คุยกันมี 3พรรคการเมือง จึงทำให้ยังไม่ได้ มีการพูดคุยกับพรรคพลังประชารัฐ แต่ถัดจากนี้ไปจะเป็นหน้าที่ของวิปรัฐบาล ที่จะไปหารือเรื่องรัฐธรรมนูญที่ถือว่าเป็นกฎหมายสูงสุดในการที่จะเข้าสู่สภา
เมื่อถามว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะสามารถทำได้ในรัฐบาลชุดนี้หรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า อย่างน้อยที่สุดในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ จะใช้ความพยายามเพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศ ในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ถือว่าเป็นปัญหาสำคัญ ไม่แพ้ปัญหาการเมือง หากว่าการเมืองนิ่งการเมืองสงบ ทุกอย่างเดินหน้าไปด้วยความเรียบร้อย การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ก็จะราบรื่นขึ้น ที่ผ่านมาก็ได้พิสูจน์แล้วว่าได้ทำหน้าที่จนวาระสุดท้าย นั่นคือการลงมติเห็นชอบร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระที่ 3
ส่วนการจะแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา เป็นทางออกที่ดีที่สุดใช่หรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ในสถานการณ์ขณะนี้การแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ มีเครื่องหมายคำถามและดูเหมือนข้อถกเถียงยังไม่ได้ข้อยุติว่าสุดท้าย ต้องไปทำประชามติก่อนวาระ1หรือไปทำประชามติหลังผ่านวาระ 3 ก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯยังเป็นข้อถกเถียงกันอยู่
ลั่นฝ่าด่านแก้รธน.ไปให้ได้
เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้นายจุรินทร์เคยระบุว่าจะแก้อำนาจ ส.ว.และญัตตินี้เคยถูกตีตกไปแล้วครั้งหนึ่งมั่นใจหรือไม่ว่าในการยื่นครั้งต่อไปจะได้เสียงสนับสนุนจาก ส.ว.นายจุรินทร์ กล่าวว่า เราก็ต้องทำหน้าที่ของเรา ส่วนผลจะเป็นอย่างไร ไม่ได้อยู่ที่พรรคประชาธิปัตย์พรรคเดียว หรือพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง แต่ขึ้นอยู่มติของที่ประชุมร่วมรัฐสภา และขึ้นอยู่กับสมาชิกวุฒิสภาไม่น้อยกว่า1ใน3และเสียงฝ่ายค้านไม่น้อยกว่า20%อันนี้เป็นเงื่อนไขบังคับที่รัฐธรรมนูญฉบับนี้เขียนเอาไว้ทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญทำได้ยากแต่เราก็ต้องฝ่าด่านนี้ไป ไม่เช่นนั้นการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะทำไม่ได้เลย ยืนยันว่าการแก้ไข รัฐธรรมนูญเป็นทางออกของประเทศทางหนึ่ง และจะส่งผลดีต่อการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่ประชาชนอยากเห็นอยู่ด้วย การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและการเมืองต้องไปด้วยกัน
ฝัน3ฝ่ายร่วมมือหาทางออก
เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่ 3 ฝ่าย คือ ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้านและสมาชิกวุฒิสภา จะจับมือกันแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายจุรินทร์ กล่าวว่า อยากให้เป็นอย่างนั้น อยากเห็นสิ่งนี้เกิดขึ้นและตนเคยพูดมาแล้วว่าอยากให้ 3ฝ่ายได้คุยกัน หาทางออกร่วมกันเพื่อนำไปสู่ข้อสรุปซึ่งนำมาซึ่งข้อสรุปในการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยไม่ตัดฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
เมินศรีฯยื่นเอาผิดโหวตวาระ3
ส่วนกรณี นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยยื่น ป.ป.ช.เอาผิด ส.ส.และส.ว.จำนวน 208 คน ที่ลงมติวาระ3 จะส่งผลต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า การลงมติให้ความเห็นชอบแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระที่ 3 เป็นไปตามมติของรัฐสภา เพราะก่อนที่ทุกคนจะลงมติเห็นชอบ ก็เป็นมติของที่ประชุมรัฐสภาว่า จะให้มีการลงมติในวาระที่ 3 ตนถือว่าการลงมติในวาระที่ 3 เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญและเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยชอบทุกประการ ไม่ได้มีปัญหาอะไร
“และถ้ามีปัญหาคงมีปัญหาทุกคน เพราะคนที่ไปร้อง ก็ถูกตั้งข้อสังเกตเหมือนกันว่าทำไมจึงร้องเฉพาะคนที่ลงมติเห็นชอบ แต่ไม่ร้องคนที่ลงมติไม่เห็นชอบ หรือไม่ร้องคนที่มีมติให้รัฐสภาลงมติในวาระที่ 3ทำไมถึงเว้นไว้ แต่ผมไม่ได้หมายความว่า ให้ไปร้องทุกคน เพียงแต่มีข้อสังเกตเพราะไม่เช่นนั้นจะทำให้คนที่ลงมติเห็นชอบในวาระที่ 3 กลายเป็นเป้าหมายในการดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง”นายจุรินทร์ ย้ำ
ปชป.นัดถกยกร่างแก้รธน.24มี.ค.
นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงความคืบหน้าในการยกร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตราว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรค ได้สั่งการให้ฝ่ายกฎหมายพรรคจัดทำการยกร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตราซึ่งข้อมูลทั้งหมดตั้งแต่เริ่มทำเรื่องแก้รัฐธรรมนูญมีครบถ้วนแล้ว ดังนั้น ฝ่ายกฎหมายจะนัดประชุมวันที่ 24มี.ค.เวลา 14.00น.ที่พรรค เพื่อเริ่มต้นทำเป็นต้นร่างโดยไม่มีการแก้ไขในหมวด 1 และ หมวด 2 และเมื่อดำเนินการเสร็จจะได้นำเสนอหัวหน้าพรรคต่อไป ซึ่งฝ่ายกฎหมายคาดว่าจะเสร็จทันก่อนเปิดสมัยประชุมสามัญ
‘วิษณุ’เผยวิปรบ.ถกแก้รธน.อยู่
ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์กรณีนายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)เสนอให้รัฐบาลเป็นเจ้าภาพแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าตนไม่ทราบ แต่คนอื่นจะคุยกันหรือไม่นั้น ตนไม่รู้รวมถึงใครจะเป็นเจ้าภาพ ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ขอให้เขาไปคุยกันก่อน แล้วเสนอมา เราจะไปบอกเขาก่อนทำไม เพราะเราไม่รู้ว่าเขาจะแก้อะไร แล้วแต่ละพรรคก็คิดไม่ตรงกัน ถ้าคิดตรงกันก็จะง่าย ใครจะเป็นเจ้าภาพก็ไม่แปลก แต่ละพรรคคิดเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 279 มาตราไม่ตรงกัน ตนจึงบอกว่าเลือกเอามาตราที่จำเป็น และไม่ต้องทำประชามติก่อน อันนั้นจะง่าย ส่วนประเด็นจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ วิปรัฐบาลเขาทำอยู่ แต่ก็ต้องรอให้เขาเสนอมาก่อน
สว.ขวางกม.ประชามติขัดรธน.
ที่รัฐสภา นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.)กล่าวถึงกรณีที่ประชุมรัฐสภามีมติให้แก้ไขเนื้อหามาตรา9 ร่างพรบ.การออกเสียงประชามติว่าเนื้อหามาตรา9ร่างพ.ร.บ.ประชามติที่ที่ประชุมรัฐสภามีมติให้แก้ไขเนื้อหา โดยเพิ่มอำนาจรัฐสภาและภาคประชาชนสามารถส่งเรื่องให้ครม.จัดทำประชามติได้ จากเดิมให้เป็นดุลยพินิจของครม.ฝ่ายเดียวนั้น อาจขัดกับมาตรา166ของรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นการเพิ่มอำนาจให้ฝ่ายนิติบัญญัติ มีอำนาจเหนือฝ่ายบริหาร ยิ่งถ้าให้ต้องทำประชามติทุกเรื่องตามที่ภาคประชาชนเข้าชื่อเสนอมาก็อาจยิ่งมีปัญหา ไปกันใหญ่ กำลังรอดูว่าผลการแก้ไขเนื้อหามาตรา 9ของ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประชามติ จะไปกระทบกับเนื้อหามาตราอื่นๆเช่นมาตรา10-11 และมาตราอื่นๆ ถ้าแก้แล้วมีเนื้อหาไม่ขัดรัฐธรรมนูญก็อาจไม่ต้องยื่นตีความ แต่ถ้าแก้แล้วมีเนื้อหาไปขัดต่อรัฐธรรมนูญก็จำเป็นต้องยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความร่างพ.ร.บ.ประชามติ ดูแนวโน้มแล้วคิดว่าอาจขัดรัฐธรรมนูญ
จ่อตีความเพิ่มอำนาจสภาขัดรธน.
ด้าน นายวันชัย สอนศิริ ส.ว.ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติกล่าวว่ามีความเป็นไปได้ว่าจะมีสมาชิกรัฐสภายื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความบทบัญญัติที่ถูกเพิ่มเติมเข้ามาในมาตรา9 ของร่างพ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ ที่รัฐสภา มีมติ ให้แก้ไขเพิ่มสิทธิให้รัฐสภาและภาคประชาชน สามารถเข้าชื่อร้องขอให้จัดทำประชามติได้ เกรงว่าจะเป็นการแก้ไขเกินกรอบรัฐธรรมนูญและหลักการร่างกฎหมายที่กำหนดไว้ หากรัฐสภาเห็นชอบให้บัญญัติเนื้อหาดังกล่าว อาจมีผลกระทบ ในชั้นนี้ได้พิจารณารายละเอียดแล้ว เชื่อว่าจะมีผู้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความ
นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.กล่าวว่า การแก้ไขมาตรา9ร่างพ.ร.บ.ประชามตินั้น สมาชิกรัฐสภาบางส่วนและรัฐบาลเห็นว่ามีความขัดหลักการตรวจสอบถ่วงดุลอำนาจและขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญ มาตรา166 แต่หากเนื้อหาที่แก้ไขไปบัญญัติ ให้รัฐสภาหรือประชาชนเข้าชื่อกันให้ ครม.จัดการออกเสียงประชามติได้ อาจเป็นบทบัญญัติที่ขัด หรือ แย้งกับรัฐธรรมนูญได้ ขณะนี้สำนักงานกฤษฎีกาอยู่ระหว่างปรับแก้มาตราต่อเนื่องจากมาตร า9 ให้มีกรอบที่ไม่มัดมือ ครม.เกินไป กมธ.จะนัดพิจารณาวันที่ 1-2 เม.ย.นี้เชื่อว่านอกจากจะพิจารณาเนื้อหาที่กฤษฎีกาเสนอแล้ว อาจมีข้อเสนอจาก กมธ.อาทิ ให้ชะลอการบังคับใช้มาตรา 9
ครม.เคาะเปิดวิสามัญ7-8เม.ย.
บ่ายวันเดียวกัน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกฯ แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ว่าครม.เห็นชอบร่างพระราชกฎษฏีกา(พ.ร.ฎ.)เรียกประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ พ.ศ. …และร่าง พ.ร.ฎ.ปิดสมัยประชุมสภาสมัยวิสามัญ พ.ศ. …ในกรณีนี้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้แจ้งว่าการประชุมสมัยวิสามัญที่เพิ่งผ่านพ้นมาได้มีการพิจารณาเรื่องด่วนที่สำคัญคือเรื่องการแกัไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ร่างพ.ร.บ.การเข้าชื่อกฎหมาย และพ.ร.บ.ออกเสียงประชามติในวาระที่2ซึ่งพิจารณาได้ในบางมาตราเท่านั้นและยังมีร่างพ.ร.บ.ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องยาเสพติดที่ต้องพิจารณาในวาระที่2และ3 แต่ก็ไม่ได้ดำเนินการแต่อย่างใดจึงมีความจำเป็นที่จะต้องเรียกประชุมสมัยวิสามัญอีกครั้ง ในช่วงวันที่ 7-8 เมษายน 64โดยจะมีการประกาศแจ้งให้ทราบอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี