ปชป.รุก6จว.อันดามัน
เร่งวางตัวผู้สมัครสส.
ชง6ร่างแก้รัฐธรรมนูญ
ห้ามสภาสูงเลือกผู้นำ
โพลล์ให้‘บิ๊กตู่’นั่งนายกฯ
“ปชป.” เดินหน้าชง 6 ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มความเป็นประชาธิปไตย หั่นอำนาจสภาสูงเลือกนายกฯ ในขณะที่ “จุรินทร์”เคาะผู้สมัคร สส. 6 จังหวัดอันดามันครบ โวหลายจังหวัดมีโอกาสได้ยกทีมซูเปอร์โพลเปิดผลสำรวจปชช.ยังเลือก “บิ๊กตู่” นั่ง นายกฯต่อไป
เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกปชป.กล่าวถึงการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า มีทั้งหมด6ร่าง ยืนยันว่าปชป.ต้องการให้รัฐธรรมนูญ เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น จะไม่มุ่งเน้นเพียง แค่การแก้ไขโครงสร้างทางการเมืองเท่านั้นแต่จะแก้ไขในส่วนของสิทธิความเป็นอยู่ของประชาชนเป็นหลัก
โดยร่างแรก เป็นเรื่องสิทธิของประชาชนเช่น สิทธิชุมชน สิทธิผู้บริโภคเรื่องที่ดินทำกิน สิทธิในกระบวนการยุติธรรม ร่างที่ 2 เกี่ยวกับ ระบบเลือกตั้ง ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เสนอให้มีส.ส.จากเขตเลือกตั้ง 400 คน และอีก 100 คนมาจากบัญชีรายชื่อและกระบวนการใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ส่วนการคำนวณสัดส่วนคะแนนจะกำหนดไว้ในกฎหมายลูก พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
ตัดสว.เลือกนายกฯยึดบัญชี-เป็นสส.
ร่างที่ 3 เกี่ยวข้องกับอำนาจสมาชิกวุฒิสภา เชื่อมโยงกับการเลือกนายกรัฐมนตรีพรรคประชาธิปัตย์เตรียมร่างไว้เพื่อเสนอว่าบุคคลที่จะเสนอตัวเป็นนายกรัฐมนตรีในสภา จะต้องเป็นบุคคลที่อยู่ในบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรี ที่ถือว่าผ่านการตรวจสอบและเลือกมาแล้วส่วนหนึ่งจากประชาชนและพรรคหรือนายกรัฐมนตรี ต้องมาจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หากนอกเหนือจากนี้ ไม่ควรกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ และไม่ให้อำนาจสมาชิกวุฒิสภา เลือกนายกรัฐมนตรีในมาตรา 272
ร่างที่4 การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญมาตรา 256 โครงสร้างเดิมตัดอำนาจของสว.ออกไปในวาระที่ 1 และวาระที่ 3 จำนวน1ใน 3ออกไป โดยใช้จำนวนสมาชิก 3 ใน 5 ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ สำหรับร่างที่5 จะเป็นเรื่องการตรวจสอบทุจริตให้เกิดความเข้มข้นเรื่องการดำเนินคดีกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติหรือป.ป.ช.แก้ไขกระบวนการตรวจสอบ ไม่ควรให้ส.ส.ยื่นเรื่องให้แค่ประธานรัฐสภาเพื่อให้ดำเนินคดีต่อป.ป.ช. ชั้นเดียวเนื่องจากประธานรัฐสภามาจากพรรคการเมืองซึ่งอาจมีการเจรจาต่อรองระหว่างพรรคการเมืองกับประธานรัฐสภาเพื่อไม่ให้ยื่นเรื่องตรวจสอบไปยังศาลฎีกาได้ จึงต้องตั้งคณะกรรมการไต่สวนอิสระขึ้นมาเพื่อป้องกันการแทรกแซงจากหลายฝ่าย ก่อนจะส่งเรื่องไปยังศาลฎีกาและร่างที่6ของประชาธิปัตย์ ต้องการแก้ไขเรื่องระบบการเลือกตั้งองค์ปกครองส่วนท้องถิ่น ต้องมาจากการเลือกตั้งจากประชาชนเพียงอย่างเดียว เพื่อให้เกิดการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นและต้องมีรัฐธรรมนูญเลือกอำนวยให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการปกครองส่วนท้องถิ่นอย่างแท้จริงด้วย
รอถกร่างที่7 กับ‘ภท.-ชทพ.’6มิย.
อย่างไรก็ตาม นายราเมศ กล่าวอีกว่ามีแนวโน้มจะมีร่างที่7 ที่มาจากพรรคร่วมรัฐบาล โดยร่วมกับพรรคภูมิใจไทย(ภท.)และชาติไทยพัฒนา ชทพ.)ซึ่งทางพรรคได้มอบหมายให้ นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานวิปพรรคไปหารือพบว่า มีความเห็นพ้องต้องกันหลายส่วน ซึ่งต้องฟังจากทั้ง 3 พรรคให้เกิดข้อสรุปโดยจะหารือกันในวันที่ 16 มิ.ย.นี้ อีกครั้ง
จุรินทร์เคาะ6จว.อันดามันได้ยกทีม
วันเดียวกัน ที่อําเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความพร้อมในทางการเมืองว่าสำหรับการเลือกตั้งใหญ่ จะมาถึงเมื่อไหร่ ก็สุดแล้ว แต่มาถึงวันนี้ เรามีความพร้อมโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเตรียมการเรื่องผู้สมัครในกรุงเทพ เกือบจะครบทุกเขตแล้ว ได้ตัวผู้สมัครที่เคาะแล้ว ส่วนในภาคใต้ ก็เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดอันดามัน6จังหวัด ได้แก่ ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรังและสตูล มีที่นั่งทั้งหมด ถ้าเป็นรัฐธรรมนูญปัจจุบัน11ที่นั่ง พรรคประชาธิปัตย์ เคาะผู้สมัครครบแล้วทั้ง11เขต ยกเว้น ถ้ามีการแก้รัฐธรรมนูญไปเป็นบัตรสองใบและปรับจาก 350เขต เป็น ส.ส.เขต400เขตและบัญชีรายชื่อ100 คน ตามร่างแก้รัฐธรรมนูญ ที่เตรียมเสนอเกิดประสบความสำเร็จจะมีการขยายเขตเพิ่มเติมเช่นกระบี่อาจมีผู้แทนเพิ่มเป็น3คน พังงา อาจเพิ่มเป็น 3 คน ตรัง อาจเพิ่มเป็น4 คน เป็นต้น ได้มีการเตรียมการไว้ในใจแล้วเช่นเดียวกัน
“วันนี้ผู้สมัครเขตอันดามันในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ครบแล้ว รายชื่อมีทั้งผู้ที่เป็น ส.ส.ในปัจจุบันและคนรุ่นใหม่ที่เข้ามาร่วมอุดมการณ์กับพรรคเมื่อเปิดชื่อแล้ว ผมคิดว่า จะเป็นที่ยอมรับของประชาชน และในอันดามัน ผมเชื่อว่า เราจะได้มากกว่าเดิม หลายจังหวัดก็มีโอกาสยกทีม” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ย้ำ
โพลปชช.ยังเลือก’บิ๊กตู่’นั่งนายกฯ
ด้านสำนักวิจัย ซูเปอร์โพล (SUPER POLL)เปิดเผยผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง “ความนิยม ผู้นำรัฐบาล กับ ประชาธิปไตย” จากกรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research)และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) จำนวน 1,400 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 1–12มิ.ย.2564 พบว่าร้อยละ55.4 มีระดับความวางใจในระบอบประชาธิปไตย ช่วยลดความเดือดร้อนทุกข์ยากของประชาชนได้ค่อนข้างมากถึงมากที่สุด
ขณะที่ร้อยละ28.4วางใจปานกลางและร้อยละ16.2 วางใจค่อนข้างน้อยถึงไม่วางใจเลย, ร้อยละ 88.4 ระบุ ประเทศไทยวันนี้มีความเป็นประชาธิปไตย ในขณะที่ร้อยละ 10.6 ระบุ ไม่มี และเมื่อถามถึงอีก 20 ปีข้างหน้าร้อยละ 96.0 ระบุ ประเทศไทยจะยังคงมีความเป็นประชาธิปไตยอยู่ ส่วน ร้อยละ 4.0 มองว่าจะไม่มี
ทั้งนี้ ร้อยละ 93.4 ระบุ ผู้นำที่เด็ดขาด สั่งการและควบคุมแก้ปัญหาชาติ และประชาชนมีประโยชน์ ช่วยได้ แต่ร้อยละ 6.6 ระบุ ไม่มีประโยชน์ ช่วยไม่ได้เลย , ร้อยละ 98.5 ระบุสิ่งที่เห็นและเป็นประชาธิปไตยบ้านเราคือ ในการแก้ปัญหาวิกฤตชาติ มีคนมือไม่พายเอาเท้าราน้ำ คอยแต่ตำหนิคนทำงาน,ร้อยละ 95.9 ระบุ ประชาชนผู้มีรายได้น้อยยังมีสิทธิเข้าถึงความจำเป็นพื้นฐาน เช่น สวัสดิการแห่งรัฐ และ ร้อยละ 95.8 ระบุ รัฐบาล ถูกวิพากษ์ วิจารณ์ได้จาก สื่อมวลชน นักการเมืองและประชาชนทั่วไป เป็นต้น
เมื่อถามถึงความนิยมต่อนักการเมือง บุคคลสำคัญต่างๆถ้าวันนี้เลือกได้ จะเลือกใครเป็นนายกรัฐมนตรี พบร้อยละ30.8ระบุ เลือก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา,ร้อยละ14.9คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ,ร้อยละ5.3 นายอนุทิน ชาญวีรกูล,ร้อยละ4.8 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์
แรมโบ้ชี้ปชช.ไว้ใจบิ๊กตู่นั่งนายกฯ
นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวเห็นด้วยที่สำนักวิจัยซูเปอร์โพล ได้สำรวจเรื่องความนิยม ผู้นำรัฐบาลกับประชาธิปไตย โดยผลสำรวจ หากวันนี้เลือกได้จะเลือกใครเป็นนายกรัฐมนตรีพบว่าอันดับแรก หรือร้อยละ 30.8 เลือก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถือว่าประชาชนส่วนใหญ่ ยังให้ความไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์อยู่และยังอยากให้นายกฯบริหารประเทศ การที่ประชาชนยังไว้ใจนายกฯนั้นเพราะมาตลอดการบริหารงาน7ปีนายกฯมีความตั้งใจจริงและทำให้ประชาชนได้เห็นแล้วว่า ได้ทำอะไรไปบ้างแล้ว แก้ปัญหาและพัฒนาประเทศในด้านใดบ้าง มีผลงานที่ชัดเจนรวมถึงการบริหารสถานการณ์โควิด-19 ทั้งด้านสาธารณสุข เศรษฐกิจ การบริหารจัดการวัคซีน
มั่นใจนายกฯไม่ลาออก-ยุบสภา
“นายกฯให้ความสำคัญกับประชาชนมากที่สุด อยากให้สถานการณ์การระบาดเชื้อโควิด-19 คลี่คลายและจบลงให้ได้ เพื่อให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติ อยากให้ประชาชนพ้นกับความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น ซึ่งที่ผ่านมานายกฯ รัฐบาล บุคลากรทางการแพทย์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนได้ทำงานอย่างหนักในการช่วยประชาชนในทุกด้านจึงขอให้ประชาชนมั่นใจว่านายกฯรัฐบาลยังจะทำงานเพื่อประชาชนต่อไปจนกว่าจะครบเทอม มั่นใจว่านายกฯจะไม่ลาออกหรือยุบสภาฯอย่างแน่นอน ตามที่มีกระแสข่าวหรือข้อเรียกร้องฝ่ายค้าน ที่ไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์ประชาชนแต่ทำเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของฝ่ายค้านและขอประชาชนอย่าเชื่อข่าวลือข่าวลวงทั้งหลาย ยิ่งประชาชนส่วนใหญ่ ยังเชื่อมั่นในตัวนายกฯให้อยู่บริหารประเทศต่อ ทำให้ฝ่ายค้านอกจะแตกตายที่อยากกลับมามีอำนาจรัฐแต่ไม่ยอมฟังกระแสประชาชนที่เชื่อมั่นในฝีมือ ผลงานพล.อ.ประยุทธ์ และต้องการให้เป็นนายกฯอยู่บริหารประเทศต่อไป”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี