เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2564 ที่รัฐสภา นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ โฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 แถลงว่า กมธ.หลายคน ให้ความสนใจเรื่องหนี้สาธารณะ ประเด็นอัตราส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพี และสถานะทางการเงิน การคลัง ของประเทศไทย สืบเนื่องจากการอภิปรายพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน 5 แสนล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้การให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินโดยการออกเป็นพ.ร.ก. หลักๆมี 5 ฉบับ ได้แก่ ปี 2554 สมัยที่นายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี มีการออก พ.ร.ก.กู้เงิน 7.8 แสนล้านบาท เพื่อฟื้นฟูสถาบันการเงิน 2.ปี 2552 สมัยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกฯ มีการออกพ.ร.ก.กู้เงินไม่เกิน 4 แสนล้านบาท 3.ปี 2555 สมัยน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกฯ มีการออก พ.ร.ก.น้ำ วงเงินไม่เกิน 3.5 แสนล้านบาท ซึ่งกมธ.ต้องถามสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) เพราะ พ.ร.ก.กู้เงินทั้ง 3 ฉบับ เป็นเงินกู้ที่ไม่มีรายละเอียด เพราะนำมาใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉินรวม 1.53 ล้านล้านบาท
นายเรืองไกร กล่าวต่อว่า ส่วนสมัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ที่เมื่อปี 2563 มีการออกพ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท สปน. ชี้แจงว่า ขณะนี้ใช้เกือบหมดแล้ว และล่าสุดรัฐบาลได้ออกพ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท รวม 2 ฉบับ วงเงิน 1.5 ล้านล้านบาท ซึ่งทั้ง 5 ฉบับ ตัวเลขไม่ต่างกัน ทั้งนี้ การออกเป็นพ.ร.ก.เหมือนการตีเช็คเปล่า ซึ่งจะเห็นได้ว่า ไม่ใช่เพิ่งออกแค่สมัยนี้ และตามกฎหมายแล้วสามารถทำได้ ขณะเดียวกันศาลรัฐธรรมนูญก็บอกว่า เป็นอำนาจของรัฐบาลทุกยุคทุกสมัย นอกจากนี้ กมธ. ยังให้ความสนใจเรื่องการคำนวณหนี้สาธารณะต่อจีดีพี ว่าจะใช้ตัวเลขไหนกันแน่ระหว่างหนี้ที่เกิดขึ้นแล้วหรือหนี้ที่กำลังจะเกิด ซึ่งปี 2564 มีเงินที่รัฐบาลเก็บไม่เข้าเป้าอีกตรงนี้จะทำอย่างไรคงต้อง สปน. ชี้แจงต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี