ด่วน!ศบค.เคาะขยายล็อกดาวน์ถึง 31 ส.ค.นี้ ไฟเขียว ‘ธนาคาร’ ในห้างฯพื้นที่แดงเข้ม 29 จว.เปิดได้
16 สิงหาคม 2564 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงผลการประชุม ศบค.ใหญ่ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะ ผอ.ศบค. เป็นประธาน โดยเบื้องต้น ศบค.มีมติขยายล็อกดาวน์ 14 วัน (ตามพื้นที่เดิม) ตั้งแต่วันที่ 18-31 สิงหาคม นี้ นอกจากนี้ผ่อนปรนในห้างให้เฉพาะสถาบันการเงิน ธนาคาร ของพื้นที่สีแดงเข้มเปิดได้ถึง 20.00 น. โดยต้องมีมาตรการเคร่งครัด 26 ข้อ
สรุปผลการประชุมเบื้องต้น ดังนี้
1. ทุกพื้นที่ คงระดับพื้นที่สถานการณ์ย่อยในพื้นที่ทั่วราชอาณาจักร และตามมาตรการเดิม ตั้งแต่วันที่ 18-31 สิงหาคม 64
2. การเพิ่มมาตรการและการจัดการขององค์กร ดังนี้
2.1 ดำเนินมาตรการ Test - Trace - Isolate อย่างต่อเนื่อง ได้แก่
+ เพิ่มการตรวจค้นหาผู้ติดเชื้อโดยใช้ ATK ใน กทม. และปริมณฑล
+ เตรียมทีม CCRT ให้เพียงพอ และจัดระบบการนำเข้าสู่ Home Isolation (HI) Community Isolation (CI) หรือ รพ.
2.2 มาตรการองค์กร สำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม)
+ เน้น Work Form Home ต่อเนื่อง และพนักงานของภาครัฐ เอกชน ที่จำเป็นต้องมาปฏิบัติงาน ให้มีการคัดกรองด้วย ATK ทุกสัปดาห์ เพื่อให้มีความพร้อมก่อนการคลายล็อกดาวน์
+ เตรียม Company Isolation สำหรับหน่วยงานที่มีพนักงานเกิน 50 คน และเตรียมความพร้อมของงานบุคลากร ในการติดตามการคัดกรองด้วย ATK และลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ HI-CI รวมทั้งกำกับติดตาม DMHTTA
2.3 มาตรการควบคุมโรคเฉพาะสถานที่ สำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด
+ โรงงาน สถานประกอบการที่มีพนักงานเกิน 100 คน พิจารณาดำเนินการ Bubble and Seal เต็มรูปแบบ
+ ตลาด (ค้าส่ง ขนาดใหญ่) ให้คัดกรอง ATK ผู้ค้า แรงงาน ทุกสัปดาห์ และสุ่มตรวจผู้มาใช้บริการเป็นระยะ รวมทั้งกำกับมาตรการ DMHTTA
2.4 มาตรการลดการเสียชีวิต
+ เร่งรัดการฉีดวัคซีน ให้ความครอบคลุมของวัคซีน กลุ่ม 608 (ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป, ผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง และหญิงตั้งครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป) อย่างน้อย 80% ใน กทม. อย่างน้อย 70% ใน 12 จังหวัด และอย่างน้อย 50% ในพื้นที่อื่น
+ เพิ่มอัตราการหมุนเวียนการรับผู้ป่วยสีเหลือง สีแดง เพื่อลด backlog ผู้ป่วยอาการหนักใน รพ./รพ.สนาม และไม่ให้ค้างในชุมชน ควรต้องมีระบบรองรับที่มีประสิทธิภาพ
+ เร่งจ่ายยาฟาวิพิราเวียร์สำหรับผู้ป่วยสีเขียว ทั้งในระบบ HI และ CI
+ ประชาชน องค์กร สถานประกอบการ สามารถตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยตัวเองได้ โดยรัฐควรสนับสนุนให้มีการใช้โดยไม่เป็นภาระประชาชน เช่น จำหน่ายราคาถูก จัดหาได้ง่าย
+ มีระบบการดูแลรักษารองรับเมื่อตรวจพบเชื้อ และเน้นย้ำให้ประชาชนป้องกันตนเองทุกกรณี และสื่อสารให้ทุกคนปฏิบัติตามหลักการ Universal Prevention
+ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแนวทางการดำเนินงานให้สอดคล้องกับข้อกำหนดเดิมที่มีอยู่ต่อไป รวมทั้งพิจารณาร่วมจัดทำ Thai Covid Pass ให้เป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมความพร้อมรองรับการเปิดประเทศ
3. การปรับมาตรการจำหน่ายสินค้าจำเป็น/กิจการจำเป็นในห้างสรรพสินค้า
เพื่อกระจายช่องทางการใช้บริการ และอำนวยความสะดวกให้ประชาชน ขอเปิดกิจการธนาคาร/สถาบันการเงิน โดยมีมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด 26 ข้อ ตามที่สมาคมศูนย์การค้าไทยจัดทำไว้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี