วันอังคาร ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
‘ไตรรงค์’เลคเชอร์ 7 ข้อ ‘เผด็จการ-คอรัปชั่นกับระบบการเมืองการปกครอง’

‘ไตรรงค์’เลคเชอร์ 7 ข้อ ‘เผด็จการ-คอรัปชั่นกับระบบการเมืองการปกครอง’

วันศุกร์ ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2564, 07.20 น.
Tag : การเมือง คอรัปชั่น ไตรรงค์ สุวรรณคีรี เผด็จการ
  •  

‘ไตรรงค์’เลคเชอร์ 7 ข้อ ‘เผด็จการ-คอรัปชั่นกับระบบการเมืองการปกครอง’

24 กันยายน 2564 ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ โพสต์บทความในเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว “ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี” หัวข้อ “คอรัปชั่นกับระบบการเมืองการปกครอง” มีเนื้อหาดังนี้...


#คอรัปชั่นกับระบบการเมืองการปกครอง

1) ถ้าเราถามคนทั่วๆ ไปที่มิใช่นักวิชาการว่าทำไมเขาจึงเกลียดเผด็จการ เขาก็จะตอบและอธิบายตามความรู้สึกพื้นๆ อยู่ 2 - 3 ประการ เช่น

1.1) เขาไม่ชอบก็เพราะ #เผด็จการมักจะใช้อำนาจตามอำเภอใจ ไม่ต้องกลัวว่าใครจะตรวจสอบ เพราะเป็นระบบที่พยายามไม่ให้มีการตรวจสอบ และไม่อยากให้มีความเห็นต่าง จะหาทางขยี้ ผู้ขัดขวางอำนาจ โดยไม่สนใจหลักมนุษยธรรม

1.2) เมื่อไม่มีการตรวจสอบ เช่น ไม่มีฝ่ายค้านที่ทำงานได้อย่างจริงจัง ไม่มีองค์กรอิสระที่สามารถมีอิสรภาพในการตรวจสอบได้อย่างแท้จริง พวกเผด็จการก็จะไม่ต้องคำนึงถึงกฎหมายและศีลธรรม จะ #รวมหัวกันใช้อำนาจในการกอบโกยโกงกิน (CORRUPTION) สร้างความร่ำรวยให้กับตนเอง ญาติโกโหติกา และผู้สนับสนุนใกล้ชิดบนความซูบผอมและเจริญตามธรรมชาติไม่ได้ของประเทศ

1.3) พวกเขามักจะ #หลงตัวเอง ว่า พวกเขาเท่านั้นที่ฉลาดและเก่งกว่าคนอื่น ไม่ต้องไปฟังเสียงใครไม่ต้องไปสนใจในความเห็นต่าง ฟังแต่ความเห็นของพวกประจบสอพลอก็พอแล้ว จึงมักจะตัดสินใจทำอะไรแบบไม่รอบคอบ ลองผิดลองถูก แม้จะเกิดความเสียหายอย่างมหาศาลต่อชาติบ้านเมืองในบางครั้ง พวกเขาก็ไม่สนใจ ทำเป็นไม่เห็นและแกล้งลืม เขาคิดแต่เพียงว่าเงินงบประมาณของแผ่นดินมันไม่ใช่เงินของกู มันไม่ใช่เงินของแม่กู และมันก็ไม่ใช่เงินของเมียกู (เราลองทบทวนดูว่าในอดีตที่ผ่านมา ชาติได้รับความเสียหายไปเท่าใดกับความคิดเช่นนี้ของนักการเมืองและผู้มีอำนาจ)

2) เผด็จการที่มีความประพฤติดังกล่าวทั้ง 3 ข้อ ย่อมเกิดขึ้นได้ทั้งในรูปของเผด็จการแบบเบ็ดเสร็จของกำลังฝ่ายทหารเช่นที่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทย สมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เผด็จการฮิตเลอร์ในเยอรมัน เผด็จการมุสโสลินีในอิตาลี เผด็จการนายพลปิโนเซ่แห่งประเทศชิลี เผด็จการซูฮาร์โต้แห่งอินโดนีเซีย เคยมีและยังมีเผด็จการเช่นนั้นอยู่ในอีกหลายประเทศทั้งในแอฟริกาและตะวันออกกลาง

ส่วนเผด็จการอีกแบบหนึ่งก็คือเผด็จการพลเรือน (บางที่เรียกว่าเผด็จการรัฐสภา) เพราะเป็นเผด็จการที่ใช้ระบบเลือกตั้งเป็นบันไดไต่เต้าเข้าสู่การมีอำนาจสูงสุด เมื่อได้อำนาจนั้นแล้วก็จะใช้อำนาจนั้นทำลายฝ่ายค้าน สื่อสารมวลชน ทำลายระบบการตรวจสอบความโปร่งใส หลังจากนั้นก็เหลือทางสะดวกให้สามารถทำชั่ว ประพฤติเลวเหมือนพวกเผด็จการทหารที่สมบูรณ์ (บางครั้งทำได้เลวกว่าเสียด้วยซ้ำไป) โลกได้ประสบพบเห็นเผด็จการในรูปแบบนี้มามากมาย เช่น เผด็จการเปรองในอาร์เจนตินา เผด็จการฟูจิมูริในเปรู เผด็จการดิอาซ (DIAZ) และพรรค PRI ตลอด 70 ปี ในเม็กซิโก เผด็จการมาร์คอสในฟิลิปปินส์ เผด็จการชาเวซในเวเนซูเอล่า และเผด็จการทักษิณในประเทศไทย (แม้เผด็จการฮิตเลอร์และเผด็จการมุสโสลินีก็อาจจัดให้อยู่ในกลุ่มนี้ได้เช่นกัน)

ผู้เป็นเผด็จการทั้งสองรูปแบบ อาจจะมิใช่คนชั่วแต่กำเนิด หากระบบการเมืองและราชการที่อ่อนแอเปิดโอกาสให้เขาเป็นเช่นนั้น เพราะการมีอำนาจมากโดยขาดการตรวจสอบสามารถ #ทำให้คนดีเป็นคนเลวได้เสมอ

3) นักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยจริงๆ จึงต้อง #คัดค้านเผด็จการทั้งสองรูปแบบนั้น โดยไม่มีข้อยกเว้น แม้ว่าในโลกนี้ไม่เคยมีประเทศใดที่มีประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ตามอุดมคติที่แท้จริง แต่ก็ควรมีรูปแบบประชาธิปไตยที่พอเหมาะพอสมกับขนบธรรมเนียมประเพณี นิสัยใจคอของประชาชน และประวัติศาสตร์ของประเทศนั้นๆ จะลอกแบบของใครๆ มาใช้อย่างชนิด 100% ย่อมไม่มีทางเป็นไปได้ และไม่มีทางจะทำให้เกิดความสงบ โปร่งใส และมีความเจริญทุกด้านอย่างราบรื่นไปได้อย่างแน่นอน

แน่นอนว่า หลักใหญ่ของระบบประชาธิปไตยอันหนึ่งก็คือผู้มีเสียงส่วนใหญ่ในรัฐสภา (ในระบบอังกฤษและฝรั่งเศส) ต้องเป็นผู้มีสิทธิในการจัดตั้งรัฐบาลบริหารประเทศ (หลัก majority vule) แต่การใช้อำนาจดังกล่าวต้องมีความโปร่งใส ไม่ขัดหลักนิติธรรม และต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์ของชาติและประชาชนเพียงเท่านั้น

ด้วยเหตุนี้ เราจึงไม่เคยได้ยินใครด่าประณามนายลี กวนยู ว่าเป็นเผด็จการของสิงคโปร์ เพราะนายลี กวนยู และพรรคพวกไม่เคยโกงกินคอรัปชั่น ใครมีความประพฤติที่ไม่ดี จะถูกนายลี กวนยู ใช้อำนาจทางการเมืองปลดออกจากตำแหน่งทันที ไม่เว้นแม้แต่ผู้ที่เป็นประธานาธิบดีของประเทศก็เคยถูกปลดมาแล้ว

แต่ใครจะมาคิดลอกแบบการเมืองการปกครองของสิงคโปร์มาใช้กับประเทศไทยนั้นเป็นการคิดผิดเพราะคนไทยไม่ใช่คนสิงคโปร์ นักการเมืองไทยก็ยังห่างมากกับมาตรฐานของนักการเมืองสิงคโปร์หลายเท่า(รวมทั้งเงินเดือนด้วย)

4) กติกาในการกำหนดรูปแบบการเมืองการปกครองของประเทศ จึงต้องมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง #ของใครก็ของมัน ชาติมหาอำนาจใดๆ จะมาบีบบังคับแทรกแซงเพื่อจะให้ประเทศใดๆ ที่อ่อนแอกว่าใช้ระบบและกติกาการเมืองการปกครองให้เหมือนของตนย่อมเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง ไม่ถูกต้องทั้งทางทฤษฎีการเมืองและมารยาทระหว่างประเทศ

ระบบการเมืองการปกครองของสาธารณรัฐประชาชนจีนก็เป็นระบบที่เหมาะสมกับบริบทหลายๆ อย่าง รวมทั้งประวัติศาสตร์ของพวกเขา ประชาธิปไตย (รวมศูนย์) แบบของเขาก็อาจจะดีที่สุดสำหรับประเทศของเขา ใครจะมาพูดว่าประชาธิปไตยแบบอเมริกาดีกว่าของจีน ก็ย่อมไม่ได้และไม่ถูกต้อง คนส่วนใหญ่ของจีนอาจจะพอใจในระบบของเขา แน่นอนว่าก็คงไม่ถึง 100% เช่นกัน มิฉะนั้นจะเกิดมีกบฏเทียนอันเหมิน (ปี พ.ศ. 2532) และกบฏประชาธิปไตยในฮ่องกง เมื่อ 1 - 2 ปีที่ผ่านมาได้อย่างไร

5) การเมืองประชาธิปไตยแบบอเมริกา ถ้ายอมรับความจริง ไม่มีการดัดจริตพูดกันก็เป็นเพียง #การเมืองที่ออกแบบให้คนจนเลือกตัวแทนของคนชนชั้นรวยๆ ขึ้นไปจัดตั้งรัฐบาลปกครองประเทศเท่านั้น อังกฤษก็เหมือนกัน ฝรั่งเศสก็เหมือนกัน เยอรมันก็เหมือนกัน ญี่ปุ่นก็เหมือนกัน ฯลฯ ถ้าจะให้ยกเว้นได้บ้างก็คงจะเป็นประเทศในสแกนดิเนเวีย เพราะคนทั้งประเทศมีรายได้ใกล้เคียงกันมาก รัฐบาลจากการเลือกตั้งของพวกเขา จึงจะพออนุโลมได้ว่าเป็นรัฐบาลที่เป็นตัวแทนของประชาชนส่วนใหญ่อย่างแท้จริง (นั่นแหละคือรัฐบาลของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชน ค่อนข้างจะใกล้เคียงความเป็นจริง แม้จะไม่ 100% ก็ตาม)

6) #ประเทศที่มีความแตกต่างในรายได้ระหว่างชนชั้นสูงมากๆ กล่าวคือ มีคนจนจำนวนมาก มีคนรวยจำนวนน้อย ชนชั้นกลางยังมีความอ่อนแอ การเมืองก็จะถูกควบคุมโดยคนในชนชั้นรวย เพราะยังสามารถซื้อเสียงได้จากคนจนในเขตเลือกตั้งต่างๆ ทั่วประเทศ และเมื่อเข้ามาอยู่ในสภาฯ ได้แล้ว ก็ยังสามารถซื้อเสียงจากนักการเมืองด้วยกันทั้งจาก ส.ส. ในพรรครัฐบาลและ ส.ส. ในซีกของฝ่ายค้านจึงจะสามารถบริหารประเทศได้อย่างราบรื่นและมีเสถียรภาพ ประธานาธิบดีลินคอล์นแห่งสหรัฐอเมริกา ถ้าไม่ใช้วิธีนี้มีหรือจะสามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ยกเลิกการมีทาสได้ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งที่ 13 ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 1865 หรือมีอเมริกันคนหน้าไหนจะกล้าเถียงว่าเรื่องนี้ “ไม่จริง” (อย่าลืมว่าผมเรียนเรื่องนี้มาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Harvard) สหรัฐอเมริกานะครับ)

หมายเหตุ คนมันเหนือกว่าสัตว์ก็ตรงราคาเนื้อของมันต่อกิโลกรัมนั้นแพงกว่าเนื้อของสัตว์หลายเท่า ทั้งๆ ที่เนื้อของคนจะใช้กินสักคำก็ยังไม่ได้เลย

7) กติกาในการกำหนดรูปแบบการปกครองประเทศของแต่ละประเทศจึงต้องมีความละเอียดอ่อนให้ #คล้องจองกับบริบทของประเทศนั้นๆ อย่างแท้จริง ทฤษฎีประชาธิปไตยต่างๆ มันล้วนแต่เป็นอุดมคติ ช่วยเป็นเพียงเข็มทิศชี้ทาง แต่ยังไม่เคยเห็นมีประเทศใดในโลกปฏิบัติได้จริงๆ 100% แน่นอนว่าการบ้าประชาธิปไตยย่อมดีกว่าการบ้าเผด็จการ แต่อย่าบ้าทฤษฎีมากจนลืมไปว่าประเทศของกูไม่ได้เหมือนประเทศของคนอื่น ระบบของกูก็ต้องเหมาะกับประเทศของกู ประเทศอื่นก็ไม่ควรมาเสือก เพราะประเทศของกูไม่ใช่ประเทศของมึง พ่อของพวกมึงก็ไม่ใช่พ่อของพวกกู พ่อของพวกกูก็ไม่ใช่พ่อของพวกมึง

พวกบ้าประชาธิปไตยแบบตะวันตกนั้น ยิ่งเคร่งครัดตามทฤษฎีตะวันตกมากขึ้นเพียงใดก็จะยิ่งอยู่ห่างไกลจากบริบทความเป็นจริง ทั้งในความเป็นคนของคนและความเป็นประเทศของประเทศมากยิ่งขึ้นเพียงนั้น คนที่สอนเรื่องนี้ได้ดีที่สุดคือ ศาสตราจารย์ปิแอร์ เลอกรองค์ (PIERRE LEGRAND) แห่งมหาวิทยาลัยปารีส

ซึ่งเคยได้รับเชิญให้มาสอนเรื่องระบบกฎหมายเปรียบเทียบที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ (Cambridge) ประเทศอังกฤษซึ่งผมได้มีโอกาสเป็นลูกศิษย์ของท่านในปี ค.ศ. 2012 (เมื่อผมไปเรียนเรื่องกฎหมายรัฐธรรมนูญที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์)

สรุป : นักการเมืองใดที่ปากพร่ำพูดว่า #กูรักประชาธิปไตย แต่ไม่มีความกล้าพอที่จะต่อต้านและป้องกันมิให้ชาติต้องมีเผด็จการรูปแบบหนึ่งรูปแบบใดในสองรูปแบบนี้อย่างจริงจังก็ถือว่าเป็นคน #สักแต่พูดให้ตนดูดี แต่ก้นบึ้งของหัวใจเต็มไปด้วยความขี้ขลาดและมีแต่ความโลภอยากได้ผลประโยชน์ ลาภ ยศ สรรเสริญ แก่ตนเองเพียงเท่านั้น หาได้มีความจริงใจต่อชาติและอนาคตของบ้านเมืองแต่อย่างใด เพราะต่างก็รู้กันอยู่แล้วว่า เผด็จการทั้งสองรูปแบบเป็นเหตุให้เกิดการโกงกิน คอรัปชั่นอย่างมหาศาล การโกงกินฉ้อราษฎร์บังหลวงเป็นตัวถ่วงความเจริญของประเทศไทยอย่างแท้จริง การป้องกันการคอรัปชั่นต้องเริ่มจากการป้องกันการเกิดเผด็จการทั้งสองรูปแบบเสียก่อน ถือว่าเป็นความจำเป็นในระดับต้นๆ เลยทีเดียว

-005

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'วิสุทธิ์\'ย้ำเก้าอี้\'รองปธ.สภาฯ คนที่ 2\'เป็นของ\'เพื่อไทย\' คาดเดือนนี้รู้ผล ชี้การเมืองเป็นไปได้หมด 'วิสุทธิ์'ย้ำเก้าอี้'รองปธ.สภาฯ คนที่ 2'เป็นของ'เพื่อไทย' คาดเดือนนี้รู้ผล ชี้การเมืองเป็นไปได้หมด
  • \'ทักษิณ\'คิวทอง!! เตรียมปาฐกถา-ทอดผ้าป่าสร้าง\'หลวงพ่อคูณ\'องค์ใหญ่สุดในโลก 'ทักษิณ'คิวทอง!! เตรียมปาฐกถา-ทอดผ้าป่าสร้าง'หลวงพ่อคูณ'องค์ใหญ่สุดในโลก
  • ‘ธรรมนัส’มั่นใจรัฐบาลไปรอดแม้เสียงปริ่มน้ำ เปรยการเมืองไม่มีมิตรแท้ศัตรูถาวร ‘ธรรมนัส’มั่นใจรัฐบาลไปรอดแม้เสียงปริ่มน้ำ เปรยการเมืองไม่มีมิตรแท้ศัตรูถาวร
  • เปิดหน้า สทร.! สะท้อน‘ทักษิณ’ล้างมือการเมืองไม่ได้ ต่อไปคงไปโผล่ทำเนียบฯ เปิดหน้า สทร.! สะท้อน‘ทักษิณ’ล้างมือการเมืองไม่ได้ ต่อไปคงไปโผล่ทำเนียบฯ
  • ‘อนุดิษฐ์’ประกาศนำทัพ‘กธ.’ฝ่าวิกฤติการเมือง ยกระดับสู่สถาบัน ชู‘การุณ’ขุนพลภาคสนาม ‘อนุดิษฐ์’ประกาศนำทัพ‘กธ.’ฝ่าวิกฤติการเมือง ยกระดับสู่สถาบัน ชู‘การุณ’ขุนพลภาคสนาม
  • \'เจิมศักดิ์\'ไม่ทน!!! จี้ถามแรง หลัง\'ทักษิณ\'โผล่ร่วมประชุมบ้านพิษณุโลก 'เจิมศักดิ์'ไม่ทน!!! จี้ถามแรง หลัง'ทักษิณ'โผล่ร่วมประชุมบ้านพิษณุโลก
  •  

Breaking News

ราชกิจจาฯ เผยแพร่ ประกาศ สธ. ให้ยาทรามาดอล (Tramadol) เป็นยาควบคุมพิเศษ

'ปราชญ์ สามสี' วิเคราะห์กำแพงภาษี 36% ทรัมป์ บททดสอบความ'ศิโรราบ'ไม่ใช่แค่เศรษฐกิจ

'กินเนสส์ฯ'ประกาศสุดยอดบลูชีสจากสเปน ขึ้นแท่น'ชีสที่แพงที่สุดในโลก'ด้วยราคา1.35ล้าน

(คลิป) เจรจาภาษีอย่าหวังได้อะไรจาก'ทรัมป์' อย่าเสีย 'ฐานทัพเรือพังงา' เป็นพอ

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved