‘บัวแก้ว-การบินพลเรือน’ขานรับ
เปิดประเทศ1พ.ย.
ร่อนสารกวักมือ45ชาติเที่ยวไทย
ย้ำฉีดวัคซีนครบ/ไม่ต้องกักตัว
นายกฯบิ๊กตู่วอนสื่อช่วยตีปี๊บ
ป่วยเพิ่มอีก9,742เสียชีวิต74
‘สงขลา-เมืองคอน’ยังหนัก
กระทรวงการต่างประเทศเร่งประชาสัมพันธ์การลงทะเบียนระบบ Thailand Pass ขณะที่ กพท. ออกประกาศรับเปิดประเทศตามนโยบายรัฐบาล 1 พฤศจิกายนนี้ เพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจ แต่ยังคุมเข้มมาตรการด้านสาธารณสุข ด้านนายกฯบิ๊กตู่วอนสื่อมวลชนช่วยประชาสัมพันธ์สร้างความมั่นใจให้นักท่องเทียว ส่วนยอดผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ของไทย อยู่ที่ 9,742 ราย เสียชีวิต 74 ราย กรุงเทพฯ มีผู้ป่วยต่ำกว่า 1 พันราย เป็นวันที่สองติดต่อกัน ด้านสงขลา-นครศรีธรรมราชยังหนัก
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 23 ตุลาคม ที่พระบรมราชานุสรณ์ พระลานพระราชวังดุสิต พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังวางพวงมาลาเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ถึงความพร้อมในการเปิดรับนักท่องเที่ยว ในวันที่ 1 พ.ย.นี้ ว่า ขอให้อ่านดูคำสั่งแล้วกัน ฝ่ายเกี่ยวข้องชี้แจงไปแล้ว ทำไมนายกฯ ต้องมาพูดอีก
เมื่อถามว่าจะขอความร่วมมือประชาชนอย่างไร นายกฯกล่าวว่า สื่อก็ต้องช่วยขอความร่วมมือ ไม่ใช่นายกฯคนเดียว ช่วยกันขยายความไป ซึ่งก็ขอทุกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสร็จสิ้นพิธี ก่อนนายกฯจะเดินทางกลับได้มีพูดคุยกับ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ คาดว่าเป็นการหารือเรื่องการเปิดประเทศ
บัวแก้วเร่งผลักดัน Thailand Pass
ในขณะที่นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมของสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ของไทยทั่วโลกเพื่อรองรับการเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายเปิดประเทศมากขึ้น กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศจึงร่วมกับสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัลสร้างแพลตฟอร์มใหม่ ชื่อ Thailand Pass ซึ่งจะสร้างความสะดวกแก่ผู้เดินทางมากยิ่งขึ้นและลดขั้นตอนการอนุมัติที่ไม่จำเป็นลง โดยให้ผู้เดินทางลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ tp.consular.go.th ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน เป็นต้นไป โดยตั้งแต่ต้นปี 2563 สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ทั่วโลกได้อำนวยความสะดวกคนไทยและต่างชาติเข้าประเทศไทยกว่า 4.7 แสนคน ผ่านระบบการขอหนังสือรับรองการเดินทางเข้าประเทศไทย (Certificate of Entry-COE) ออนไลน์
“ขณะนี้กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศอยู่ระหว่างการซักซ้อมระบบการลงทะเบียนใหม่นี้กับสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ เพื่อให้เกิดความเข้าใจมากขึ้น โดยบทบาทหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ก็จะปรับจากการเป็นผู้อนุมัติหรือออกใบรับรองเดินทาง ตามรูปแบบของ COE มาเป็นผู้ช่วยประชาสัมพันธ์และให้คำแนะนำในการลงทะเบียนในระบบใหม่ (Thailand Pass) ซึ่งไม่จำเป็นต้องมีขั้นตอนอนุมัติจากสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่อีกต่อไป”นายธานีกล่าว
กพท.ออกประกาศรับเปิดประเทศ
ด้านนายสุทธิพงษ์ คงพูล ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้ลงนามในประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เรื่อง เงื่อนไขในการอนุญาตให้อากาศยานทำการบินเข้าออกประเทศไทย (ฉบับที่ ) พ.ศ.2564 นั้น เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องมีแนวทางการปฏิบัติที่สอดคล้องกับข้อกำหนดออกตามความในมาตรา9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548(ฉบับที่ 36) ประกาศ ณ วันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ.2564 และคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2564 เป็นต้นไป
ยังคุมเข้มมาตราการด้านสาธารณสุข
ทั้งนี้ สำหรับประกาศดังกล่าวได้รับอนุญาตให้บุคคลเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร เพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจ ควบคู่กับความมั่นคงด้านสาธารณสุขตามแผนการเปิดประเทศของรัฐบาล สำหรับบุคคลผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรจะต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของ พนักงานเจ้าหน้าที่หรือเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อและจะต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค สำหรับผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ตามที่กำหนดไว้ในข้อกำหนดออกตามความในมาตรา9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ฉบับล่าสุด และมาตรการป้องกันโรคสำหรับ ผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรและหลักเกณฑ์การดำเนินการในสถานที่ซึ่งทางราชการกำหนด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
เปิดรายชื่อประเทศเข้าไทยไม่ต้องกักตัว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประเทศกลุ่มแรกที่เดินทางเข้ามาโดยไม่ต้องกักตัว ประกอบด้วย ออสเตรเลีย ออสเตรีย บาห์เรน เบลเยียม ภูฏาน บรูไนดารุสซาลาม บัลแกเรีย กัมพูชา แคนาดา ชิลี จีน ไซปรัส สาธารณรัฐเช็ก เดนมาร์ก เอสโตเนีย ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี กรีซ ฮังการี ไอซ์แลนด์ ไอร์แลนด์ อิสราเอล อิตาลี ญี่ปุ่น ลัตเวีย ลิทัวเนีย มาเลเซีย มอลตา เนเธอร์แลนด์ นิวซีแลนด์ นอร์เวย์ โปแลนด์ โปรตุเกส กาตาร์ ซาอุดิอาระเบีย สิงคโปร์ สโลวีเนีย สาธารณรัฐเกาหลี สเปน สวีเดน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สหรัฐอเมริกา และเขตบริหารพิเศษฮ่องกง
โฆษกรบ.เผยภูเก็ตคึกคัก
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา ตนได้เดินทางไปที่จังหวัดภูเก็ต พบว่า บรรยากาศการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตกลับมาคึกคักมากตามโครงการภูเก็ตแซนด์ ตั้งแต่ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ตสังเกตเห็นได้ว่ามีจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเดินทางเข้ามาใช้บริการมากเพิ่มขึ้นทั้งขาเข้าและขาออกด้วย
ขณะเดียวกัน เมื่อสำรวจบรรยากาศโดยรอบแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดภูเก็ตพบเห็นได้กิจการร้านค้า กลับมาเปิดให้บริการเกือบในระดับปกติด้วย จากการลงไปพูดคุยสอบถามกับผู้ประกอบการรายย่อย พ่อค้า-แม่ค้า ฝากขอบคุณรัฐบาลที่ให้ “ภูเก็ต” เป็นจังหวัดนำร่องในการเปิดประเทศ รวมทั้งยังได้ฝากขอบคุณนายกรัฐมนตีที่ยังมีมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ล่าสุดรัฐบาลเพิ่มเงินในโครงการคนละครึ่งเพิ่มอีก 1,500 บาท สนับสนุนการใช้จ่ายในช่วงสองเดือนสุดท้ายปลายปีด้วย ทั้งนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยรายงานว่า จำนวนนักท่องเที่ยวภายใต้โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ตั้งแต่วันที่ 1-21 ตุลาคม นี้ สะสม 113 วัน จำนวน 53,120 คน มียอดเงินใช้จ่ายแล้วกว่า 3,192 ล้านบาท
ชี้จว.ท่องเที่ยวบรรยากาศดีขึ้น
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรียังได้ลงนามคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ 18/2564 เรื่อง พื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 เพิ่มจังหวัดพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว 17 จังหวัด เริ่ม 1 พ.ย.นี้ รวมทั้ง ศบค. ออกข้อกําหนด ฉบับที่ 36 ยกเลิกการห้ามออกนอกเคหสถาน หรือ “ยกเลิกเคอร์ฟิว” ในพื้นที่นําร่องด้านการท่องเที่ยว ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด มีผลต้ังแต่เวลา 23.00 น. ของวันที่ 31 ต.ค.นี้ ซึ่งจะส่งผลบวกต่อบรรยากาศทั้งการ “เปิดประเทศ” และการท่องเที่ยวภายในประเทศ อย่างไรก็ตาม ศบค. ยังคงห้ามจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคในพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว รวมทั้งสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ยังคงปิดให้บริการ และสิ่งสำคัญคือ ทุกคนต้องช่วยกันปฎิบัตตามมาตรการควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
สงขลาติดโควิดพุ่งอีก695ราย
คณะกรรมการโรคติดต่อ จ.สงขลารายงานผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่เพิ่ม 695 คน แต่ไม่มีการเสียชีวิต นับว่าพบติดเชื้อสูงที่สุดในรอบ 2 ปี ส่งผลให้ยอดสะสม 42,392 คน และเสียชีวิตสะสม 176 คน สถิติย้อนหลัง 7 วันคือตั้งแต่วันที่ 16-22 ต.ค. 4135 คน เฉลี่ยผู้ติดเชื้อวันละ 590.7 คน นอนรักษาตัวในโรงพยาบาล 5500 กว่าคน โดยมีรายงานว่าผู้ติดเชื้อรายใหม่พบมากในกลุ่มผู้สัมผัสผู้ติดเชื้อในครอบครัวมากที่สุดร้อยละ 80และติดต่อกับประมาณ 2 เดือน ที่พบมากในชุมชน อ.จะนะ หาดใหญ่ เมือง สิงหนคร รัตภูมิ สะบ้าย้อย สะเดา บางครอบครัวสมาชิกติดเชื้อทั้งหมด จากความบกพร่องในมาตรการส่วนบุคคลและยังไม่ได้รับวัคซีนร้อยละ 90-95 และรองพบในกลุ่มผู้สัมผัสผู้ติดเชื้อในชุมชน โรงงาน ตลาด ร้านค้าและบริษัทเช่นเดียวกับกลุ่มอื่นๆแต่มีแนวโน้มลดลง
ในขณะเดียวกันผู้ที่ได้รับวัคซีนร้อยละ 53.67 ของกลุ่มเป้าหมาย 1.4 ล้าน ได้รับวัคซีนสะสมเข็ม 1 จำนวน 798276 คน วัคซีนสะสมเข็ม 2 ประมาณ 547766 คนหรือร้อยละ 36.83 ในเดือน ต.ค.เปิดให้ลงทะเบียน”สงขลาสปีด”ให้ประชาชนได้รับวัคซีนร้อยละ 70
ปัตตานีปิดสถานที่เสี่ยง5อำเภอ
เฟชบุ๊กสำนักงานประชาสัมพันธ์ จ.ปัตตานี รายงานว่า นายนิพันธ์ บุญหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดปัตตานี ได้ออกคำสั่งจังหวัดปัตตานี ที่ (พิเศษ) 87 /2564 เรื่อง ปิดสถานที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคไวรัสโคโรนา 2019 ดังนี้ 1.ให้ปิดสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เป็นเวลา 14 วันในพื้นที่ 5 อำเภอ 22 ตำบล 49 หมู่บ้าน ประกอบด้วย อำเภอไม้แก่น อำเภอเมืองปัตตานี อำเภอยะหริ่ง อำเภอมายอ และอำเภอสายบุรี เพื่อป้องกันมิให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แพร่ระบาดโดยทางตรงหรือทางอ้อม ไปยังผู้อื่นจึงห้ามประชาชนเข้าไปหรือออกจากพื้นที่ดังกล่าว เว้นแต่เพื่อการรักษาพยาบาล การกู้ชีพ การกู้ภัยการขนส่งยาเวชภัณฑ์ และสินค้าอุปโภคบริโภค การสารารณูปโภค การไปรษณียภัณฑ์ หรือกรณีได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ
2.ให้เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่ดังกล่าว กำหนดจุดตรวจคัดกรองโรคโควิด-19 3. ให้เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่ดังกล่าว พิจารณาตรวจคัดกรองบุคคลที่ผ่านจุดตรวจคัดกรอง ตามข้อ 2 เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ มีความผิดตามมาตรา 52แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับและหรือ เป็นความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
โมเดอร์นาลอตแรกถึงไทยไม่เกิน5พ.ย.
ส่วนความคืบหน้าของการส่งมอบวัคซีนโควิด-19 โมเดอร์นาให้แก่ประเทศไทย แซดพี เทอราพิวติกส์ หน่วยธุรกิจภายใต้ ซิลลิคฟาร์มา พันธมิตรทางธุรกิจอย่างเป็นทางการของโมเดอร์นาในประเทศไทย แจ้งว่า ตามกำหนดการล่าสุดที่ได้รับการยืนยันจากโมเดอร์นา ว่า วัคซีนโควิด-19 โมเดอร์นา จำนวน 560,000 โดส จะจัดส่งถึงประเทศไทยภายในไม่เกินวันที่ 5 พ.ย.2564 โดยบริษัทฯ ได้เตรียมความพร้อมในทุกๆ ด้าน เพื่อรองรับการขนส่งและการกระจายวัคซีนทันทีที่วัคซีนมาถึงประเทศไทย
บริษัทฯ ยังคงยืนยันตามที่ได้รับการยืนยันจากโมเดอร์นา ว่าจะสามารถส่งมอบวัคซีนโควิด-19 โมเดอร์นารวมทั้งสิ้น 1.9 ล้านโดส ให้ประเทศไทยภายในไตรมาสสี่ ปี 2564 สำหรับวัคซีนส่วนที่เหลืออีกจำนวน 6.8 ล้านโดส ซึ่งได้ลงนามในสัญญาการจัดหาวัคซีนกับองค์การเภสัชกรรมไปแล้วนั้น คาดว่ายังคงสามารถส่งมอบได้ในไตรมาสแรกของปี 2565
เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการส่งมอบวัคซีนที่เพียงพอให้แก่ประเทศไทยจะเป็นไปอย่างต่อเนื่อง แซดพี เทอราพิวติกส์ ยังได้ยื่นเอกสารเพื่อขอขึ้นทะเบียนแหล่งผลิตวัคซีนโควิด-19 โมเดอร์นาในประเทศสหรัฐอเมริกาต่อสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แล้วเมื่อวันที่ 20 ต.ค.2564 เพื่อเป็นแหล่งผลิตสนับสนุนเพิ่มเติม ขณะนี้ กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของ อย.
ไทยพบติดเชื้อเพิ่ม9,742เสียชีวิต74
เมื่อเวลา 12.30 น. ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทยมีรายละเอียดดังนี้ ติดเชื้อในประเทศ 9,667 ราย ติดเชื้อในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 70 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 5 ราย รักษาหายเพิ่มขึ้น 10,182 ราย หายป่วยสะสม 1,720,629 ราย (ตั้งแต่ปี 2563) อยู่ระหว่างรักษาตัว 101,803 ราย แบ่งเป็นในโรงพยาบาล 43,498 ราย โรงพยาบาลสนามและอื่นๆ 58,305 ราย ในจำนวนนี้มีอาการหนัก (ปอดอักเสบ) 2,452 ราย ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ 560 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 74 ศพ ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 18,699 ศพ (ตั้งแต่ปี 2563) ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 1,841,131 ราย นับเป็นรายที่ 1,831,390 - 1,841,131 ประเทศไทยเป็นอันดับที่ 24 ของโลก
กทม.ติดเชื้อต่ำกว่าพันเป็นวันที่สอง
สำหรับผู้ติดเชื้อ 9,742 รายใหม่ แบ่งเป็นดังนี้ ผู้ป่วยรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 9,121 ราย ค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 546 ราย เรือนจำ/ที่ต้องขัง 70 ราย ผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 5 ราย ส่วนยอดการตรวจ ATK วันนี้ 37,003 พบผลบวก 890 ราย โดยยอดตรวจสะสมตั้งแต่วันที่ 20 ส.ค. - 23 ต.ค. 2564 รวม 2,855,106 ราย ส่วนยอดรวมผลบวกสะสมในช่วงเวลาเดียวกันอยู่ที่ 179,761 ราย ซึ่งการตรวจด้วย ATK ไม่รวมในการรายงานยอดผู้ติดเชื้อใหม่ซึ่งยืนยันผลด้วย RT-PCR ขณะที่ผู้ติดเชื้อรายจังหวัดมากที่สุด 10 อันดับ ได้แก่ 1.กรุงเทพมหานคร 935 ราย 2.สงขลา 695 ราย 3.นครศรีธรรมราช 660 ราย 4.ปัตตานี 512 ราย 5.ประจวบคีรีขันธ์ 445 ราย 6.ยะลา 434 ราย 7.ชลบุรี 373 ราย 8.เชียงใหม่ 356 ราย 9.สมุทรปราการ 312 ราย 10.สุราษฎร์ธานี 253 ราย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี