1.ครั้งที่แล้ว เราบอกเล่าเกี่ยวกับเรื่องหนี้เงินนั้นให้คิดดอกเบี้ยในระหว่างผิดนัด ร้อยละเจ็ดกึ่งต่อปี (คือร้อยละ 7.5 ต่อปี)ตามมาตรา 224 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ซึ่งเป็นกรณีทั่วไปหากมิได้มีการกำหนดไว้ในสัญญาก็ตาม นอกจากนั้นมาตรา 206 (ป.พ.พ.) เองก็กำหนดว่าหนี้อันเกิดแต่มูลละเมิด ลูกหนี้ถือว่าผิดนัดมาแต่เวลาที่ทำละเมิด
2.ขณะเดียวกัน กระทรวงการคลังก็ได้กำหนดให้ส่วนราชการเรียกให้เจ้าหน้าที่ซึ่งจงใจทุจริตยักยอกเงินหรือทรัพย์สินของทางราชการไปและมีมูลความผิดทางอาญาด้วย ชำระดอกเบี้ยของเงินหรือทรัพย์สินที่ต้องชดใช้ตั้งแต่วันที่กระทำการทุจริตตามหนังสือกระทรวงการคลังที่ กค 0418.7/ว 105 ลงวันที่ 24 ตุลาคม 2545 ข้อ 2.2
3.ประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นครั้งนี้เป็นกรณีเจ้าหน้าที่ของส่วนราชการได้ยักยอกเงินของทางราชการไป พร้อมกับได้มีการดำเนินคดีอาญากับเจ้าหน้าที่รายนี้ด้วย โดยฟ้องต่อศาลจังหวัดในฐานความผิดปลอมเอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการ และใช้เอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการปลอมด้วย โดยเฉพาะกรณีความรับผิดทางละเมิดนั้น เจ้าหน้าที่ผู้ยักยอกได้นำเงินที่ยักยอกไปมาชำระคืนให้แก่ส่วนราชการครบถ้วนแล้ว แต่ส่วนราชการไม่ได้เรียกดอกเบี้ยผิดนัดด้วยแต่ประการใด เช่นนี้ ส่วนราชการจึงได้หารือคณะกรรมการกฤษฎีกาว่า การให้เจ้าหน้าที่ผู้นี้ชำระดอกเบี้ยของเงินที่ต้องชดใช้ตั้งแต่วันที่ทำการทุจริตนั้น เป็นกรณีที่ขาดอายุความหรือไม่ หากขาดอายุความแล้ว ส่วนราชการยังสามารถมีหนังสือทวงถามให้ชำระหนี้ได้หรือไม่
4.ประเด็นปัญหาดังกล่าว คณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะพิเศษ) พิจารณาเรื่องนี้แล้ว มีความเห็นโดยสรุปว่า การที่เจ้าหน้าที่ได้นำเงินที่ยักยอกไปมาชำระคืนให้แก่ราชการครบถ้วนแล้ว จะมีผลทำให้หนี้เป็นอันระงับและไม่อาจเรียกให้ชำระดอกเบี้ยของเงินดังกล่าวหรือไม่นั้น โดยที่กรณีความรับผิดในมูลหนี้ละเมิดนั้นมี
ความรับผิดในส่วนของดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นตามป.พ.พ. มาตรา 224 และมาตรา 206 ที่ให้คิดดอกเบี้ยในมูลละเมิดนับแต่วันทำละเมิดประกอบหนังสือกระทรวงการคลังที่ กค 0418.7/ว 105 ลงวันที่ 24 ตุลาคม 2545 ข้อ 2.2 หน่วยงานของรัฐที่เสียหายไม่อาจใช้ดุลพินิจพิจารณาเป็นอย่างอื่นได้ แม้ว่าเจ้าหน้าที่ผู้นั้นจะได้นำเงินมาชำระคืนจนครบถ้วนแล้วก็ตาม และไม่มีผลทำให้หนี้เป็นอันระงับและความรับผิดในมูลละเมิดสิ้นสุดลง เพราะยังไม่มีการชำระในส่วนของดอกเบี้ยแต่ประการใด ส่วนราชการจึงต้องเรียกให้เจ้าหน้าที่ชำระดอกเบี้ยในมูลละเมิดดังกล่าว ตั้งแต่วันที่นำเงินไปจนถึงวันที่นำเงินมาชำระคืน
ส่วนกรณีจะขาดอายุความหรือไม่ คงจะต้องไปพิจารณาตามข้อเท็จจริงของกรณีนี้ต่อไป หากขาดอายุความแล้วก็คงไม่อาจเรียกให้ชำระได้ คงจะเรียกได้เฉพาะส่วนที่ยังไม่ขาดอายุความ
(โปรดดูรายละเอียดได้ตามความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา(คณะพิเศษ) เรื่องเสร็จที่ 1619/2563 และเรื่องเสร็จที่ 757/2552)
5.เรื่องอย่างนี้ สงสัยว่าส่วนราชการคงจะต้องกลับไปตรวจสอบหาผู้รับผิดชอบต่อความเสียหายจากดอกเบี้ยที่ขาดไปด้วยนะ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี