สวนดุสิตโพลกางมุมมองปชช. เลือกตั้งหลักสี่สะเทือนถึงการเมือง-เลือกตั้ง‘ผู้ว่าฯกทม.’
6 กุมภาพันธ์ 2565 “สวนดุสิตโพล”มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ หัวข้อ “ควันหลงเลือกตั้งซ่อมกับการเมืองไทย” จำนวนทั้งสิ้น 1,067 คน (สำรวจทางออนไลน์) ระหว่างวันที่ 31 มกราคม-3 กุมภาพันธ์ 2565 เพื่อสะท้อนความคิดเห็นกรณีหลังการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม.เขต 9 หลักสี่-จตุจักร เสร็จสิ้นลง หลายฝ่ายต่างมองว่าเป็นผลการเลือกตั้งซ่อมที่น่าสนใจ และอาจส่งผลต่อการทำงานของพรรคการเมืองทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล และยังเป็นการจุดกระแสการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และเลือกตั้งใหญ่อีกด้วย สรุปผลได้ ดังนี้
1. ประชาชนคิดอย่างไร กับ ผลการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม.เขต 9 หลักสี่-จตุจักร
อันดับ 1 เป็นเรื่องธรรมดาของการเมือง มีแพ้มีชนะ 41.30%
อันดับ 2 คนไปใช้สิทธิน้อยกว่าที่คาดไว้ 40.45%
อันดับ 3 พรรคฝ่ายรัฐบาลอาจอยู่ในช่วงขาลง 38.95%
อันดับ 4 ประชาชนให้โอกาสกับพรรคการเมืองใหม่ ๆ มากขึ้น 37.06%
อันดับ 5 พรรคต้องเลือกผู้สมัครที่ดี ถูกใจประชาชน 36.12%
2. จากผลการเลือกตั้งซ่อมหลักสี่-จตุจักร ประชาชนสมหวังหรือไม่
อันดับ 1 เฉยๆ 48.27%
อันดับ 2 สมหวัง 39.64%
อันดับ 3 ผิดหวัง 12.09%
3. ประชาชนคิดว่าผลการเลือกตั้งซ่อมหลักสี่-จตุจักร จะส่งผลต่อการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. อย่างไร
อันดับ 1 ผู้สมัครต้องปรับกลยุทธ์การทำงาน ขยันลงพื้นที่ 67.04%
อันดับ 2 ทำให้มีการแข่งขันสูงขึ้น 53.07%
อันดับ 3 ประชาชนสนใจการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. มากขึ้น 51.56%
อันดับ 4 พรรคการเมืองได้เห็นแนวทางในการส่งผู้ลงสมัคร 39.28%
อันดับ 5 อยากให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. โดยเร็ว 38.15%
4. จากผลการเลือกตั้งซ่อมหลักสี่-จตุจักร ประชาชนคิดว่ามีผลกระทบต่อการเมืองไทยในภาพรวมหรือไม่
อันดับ 1 มีผลกระทบ 60.83%
อันดับ 2 ไม่มีผลกระทบ 39.17%
5. ประชาชนคิดว่าการเมืองไทยหลังการเลือกตั้งซ่อมหลักสี่-จตุจักร จะเป็นอย่างไร
อันดับ 1 ประชาชนจับตาดูผลงานของนักการเมืองมากขึ้น 77.13%
อันดับ 2 การหาเสียงดุเดือด บรรยากาศทางการเมืองร้อนแรงมากขึ้น 60.44%
อันดับ 3 พรรคการเมืองต้องปรับกลยุทธ์การทำงาน 46.30%
อันดับ 4 อาจมีการปรับ ครม. ยุบสภา 39.18%
อันดับ 5 น่าจะมีการซื้อเสียงมากขึ้น 33.59%
นางสาวพรพรรณ บัวทอง นักวิจัย สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยว่า ผลการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้นอกจากจะเป็นการเพิ่มเสียงให้พรรคฝ่ายค้านในสภาอีก 1 เสียงแล้ว ยังช่วยฉายภาพให้เห็นทิศทางของการเมืองไทยชัดเจนมากขึ้น โดยประชาชนก็จะจับตาดูผลงานของนักการเมืองอย่างใกล้ชิด ดังนั้น ส.ส.ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านจึงต้องเร่งทำงานช่วยเหลือประชาชน กอบกู้ภาพ ส.ส.สภาล่ม เพราะสิ่งนี้อาจนำไปสู่การตัดสินใจของประชาชนในวันเลือกตั้งใหญ่ได้
ด้านผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เบญจพร พึงไชย ผู้ช่วยคณบดีโรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งซ่อมเพียง 1 เขต ประกอบกับอยู่ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ยังไม่คลี่คลาย จึงอาจทำให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิลดลง จากผลสำรวจสะท้อนให้เห็นว่าการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ เป็นเพียงการประลองกำลังความนิยมของพรรคการเมือง แต่ถ้าหากว่าพรรคพลังประชารัฐยังไม่มีการปรับกลยุทธ์ทั้งตัวผู้สมัครที่จะต้องลงพื้นที่เพื่อเข้าถึงประชาชน ความสั่นคลอนภายในพรรคที่ดูเหมือนยังหาจุดลงตัวไม่ได้ ประกอบกับความนิยมในตัวนายกรัฐมนตรีลดลง
“หากการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. พรรคพลังประชารัฐไม่สามารถสรรหาคนที่มีราคาเพียงพอที่คนกรุงเทพฯ จะซื้อได้ เกิดพ่ายแพ้ในสนามผู้ว่าฯ กทม.อีก เป็นไปได้ว่าการเลือกตั้งใหญ่ในปีหน้าพรรคพลังประชารัฐอาจไปไม่ถึงการได้เป็นรัฐบาล และอาจล่มสลายแปรเปลี่ยนไปรวมกับพรรคอื่น หรือตั้งพรรคใหม่ นับจากนี้คงต้องห้ามกระพริบตาเพราะการเมืองไทยผันแปรได้เสมอ” ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เบญจพร กล่าว
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี