ไม่ให้ราคาแผนส่ง‘อุ๊งอิ๊ง’ชิงนายกฯ

‘เทพเทือก’เย้ย‘แม้ว’

ชี้รู้ตับไตไส้พุง-ทำความเสียหายให้ปท.

สถานการณ์หลอกไม่ง่ายเหมือน20ปีก่อน

‘เฉลิมชัย’ปลุกปชป.รวมเป็นหนึ่งเดียว

ดัน‘สุชัชวีร์’ผู้ว่าฯกทม.-ชนะสก.50เขต

ลั่นเป็นวันที่พรรครอคอยมานานแล้ว

‘อัศวิน’ลงชิงผู้ว่าฯประกาศ‘ผมมาแน่’

“บิ๊กตู่”เหน็บนักวิจารณ์รัฐบาลรู้ปัญหาประเทศทุกคน อย่าก่อความขัดแย้ง ไม่เกิดผลดีต่อชาติ ลั่นนายกฯไม่เก่งที่สุด มี รมต.-ขรก.เป็นทีมงาน พร้อมส่งกำลังใจอย่าท้อร่วมฝ่าฟันอุปสรรคทุกปัญหาเพื่อประเทศ“เฉลิมชัย” ปลุกวันที่รอคอย รวมใจปชป.เป็นหนึ่งเดียว ดัน “สุชัชวีร์” นั่งผู้ว่ากทม.-ชนะสก.50เขต มั่นใจหลังเคยส่ง“หม่อมสุขุมพันธุ์”นั่งพ่อเมืองกทม.มาแล้ว‘ดร.เอ้’ขอเดินทุกที่ในกทม.จะกี่ล้านก้าวไม่หวั่น ด้าน‘อัศวิน’ลาออกลงชิง ผู้ว่ากทม. เปิดใจ5ปี5เดือน5วัน ผลงานเยอะ ขอลุยทำงานต่อ จ่อเปิดทีมสก.28มี.ค.นี้ ส่วน‘พปชร’ตั้ง‘เสี่ยโต’นั่งผอ.เลือกตั้ง สก.‘ชัยวุฒิ’ยันผู้สมัคร สก.50 เขตไม่เคว้ง ถึงพรรคไม่ส่งชิงผู้ว่า เชื่อกระแสเลือกตั้งเปลี่ยนเร็ว รอดูโค้งสุดท้าย ย้ำผู้สมัครสก.จะหนุนใครเป็นสิทธิส่วนตัว ‘ชัชชาติ’เตือนผู้สนับสนุน งดจัดกิจกรรมสุ่มเสี่ยง ฝ่าฝืนกม.เลือกตั้ง

เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 65 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์หลังเป็นประธานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงการบูรณาการความร่วมมือ 7 กระทรวง : การพัฒนาคนตลอดช่วงชีวิต(กลุ่มเด็กปฐมวัยและผู้สูงอายุ)พ.ศ.2565-2569ว่าวันนี้เป็นการลงนามร่วมกัน 7 กระทรวง เพื่อดูเด็กปฐมวัยและผู้สูงอายุ ถือเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ชาติที่วางไว้เราต้อดำเนินการให้เกิดความต่อเนื่อง และเข้าเชิงลึกให้มากขึ้นเรื่อยๆโดยต้องเตรียมความพร้อมคนของเรา คนไทยจะต้องมีส่วนร่วมในสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้สูงอายุจะทำอย่างไรไม่ให้เป็นภาระของครอบครัว มีอาชีพที่สามารถดูแลตัวเองได้ หากไม่สามารถประกอบอาชีพได้ ก็ต้องมีมาตรการอื่นในการดูแล เราจะต้องขับเคลื่อนตรงนี้เพราะกำลังก้าวสู่สังคมสูงวัยอย่างเต็มภาคภูมิ เพราะเราดูแลด้านสุขภาพดีจึงทำให้คนอายุยืนมากขึ้นเรื่อยๆขณะที่คนเกิดขึ้นน้อยลง ไม่สร้างคนวัยแรงงานขึ้นมาใหม่ เหลือแต่คนสูงวัย วันนี้ต้องใช้หลายอย่างขับเคลื่อน โดยต้องทำงานอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่ทำวันเดียวเลิก

‘บิ๊กตู่’เหน็บนักวิจารณ์รูปทุกปัญหา

“พูดไป ก็แค่นั้นดูที่การกระทำดีกว่าว่า ได้ทำอะไรไปแล้วบ้าง ทุกคนที่อยู่กับผมก็ร่วมกันทำมาหลายปีแล้วก็ต้องดูว่าผลงานสำเร็จอะไรไปแล้วบ้าง เราคาดหวังว่าถ้าทำต่อเนื่องไปเรื่อยๆอันนี้ไม่เกี่ยวกับการเมือง ถ้าได้ ก็ทำต่อเนื่องไป สานต่อสิ่งที่มันสำเร็จ สิ่งที่กำลังใกล้สำเร็จหรือที่ยังไม่สำเร็จ ทุกคนรู้ปัญหาดีหมด ไม่ว่าใครจะออกมาพูดรู้ปัญหาประเทศไทยหมดทุกคน นั่นแหละแต่มันอยู่ที่จะทำอย่างไรHow to do ?คือสิ่งสำคัญจะทำได้หรือไม่”นายกฯระบุ

นายกฯไม่เก่งที่สุด/มีรมต.-ขรก.ทีมงาน

นายกฯกล่าวอีกว่า สิ่งที่ต้องขอบคุณคือบรรดาพี่น้องคนไทยทั้งประเทศที่ร่วมมือกับเรามาโดยตลอด หลายอย่างมีความก้าวหน้าเห็นได้ชัด การทำงานของรัฐบาล วันนี้ผม ขอเรียนว่าการทำงานทุกคน มีความสำคัญเท่ากันหมด ไม่ใช่นายกรัฐมนตรีเก่งที่สุดมันไม่ใช่ นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ข้าราชการทุกคนคือทีมงาน จะต้องร่วมมือกันในทุกมิติ ทุกระดับ ทุกพื้นที่ ขณะเดียวกัน ยังมีพี่น้องประชาชนอยู่กับเราด้วย ช่วยกันทำงาน รัฐบาลมีจิตปรารถนาแค่นั้น วันนี้หลายๆอย่างเราพยายามแก้ไขให้ดีที่สุด ไม่มีอะไรที่จะสำเร็จได้มาง่ายๆ

ส่งกำลังใจอย่าท้อร่วมฝ่าอุปสรรค

“เราต้องผจญปัญหาฟันฝ่าอุปสรรคหนักมากมาย เพราะผมอยู่มาหลายปี และก็รู้ว่าอะไรเกิดขึ้น และอะไรจะเกิดขึ้นอีก เราก็พยายามป้องกันที่จะไม่ให้เกิดขึ้นมาอีก ในสิ่งที่ทำให้ประเทศเรา พัฒนาช้าไป ก็พยายามอย่างเต็มที่ อย่างยิ่งยวด หน้าที่นายกฯ มีตรงไหน ก็ทำตรงนั้น โดยคณะทำงานทั้งหมดที่ยืนอยู่ข้างหลังผม เป็นผู้ที่จะนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ ดูแลร่วมมือกับพี่น้องข้าราชการทั้งหลาย ต้องให้กำลังใจกัน ถ้ามัวแต่ตำหนิต่อว่ากัน คนทำมันก็หมดกำลังใจ ผมก็ได้แต่บอกว่าอย่าท้อแท้แล้วกัน สิ่งเหล่านี้คือความท้าทายของประเทศไทย”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกฯกล่าวว่า วันนี้สิ่งที่ยังมีปัญหาอยู่อะไรก็แล้วแต่หรือยังเดินไปข้างหน้าไม่ได้ หรือทำไม่ได้นั่นคือ ความท้าทาย เป็นการท้าทายกับประเทศไทย และคนทั้งประเทศว่าท่านจะได้หรือท่านจะไม่ได้ ประเทศไทยจะดีขึ้น หรือไม่ดีขึ้น ทุกคนร่วมรับชะตากรรมกันหมด ถ้าเราไม่รักกัน ไม่ร่วมมือกัน เหมือนอย่างที่ตนบอก ตนรักทุกกคน และพยายามทำให้ทุกคน ดังนั้นขอให้ช่วยกัน สื่อต่างๆก็ช่วยกันนิดนึงก็เห็นอยู่แล้วว่ามันขัดแย้งกัน ก็มีตัวอย่างอยู่แล้ว ขัดแย้งมาก ขัดแย้งน้อย มันเกิดอะไรกับประชาชนในประเทศ ตนไม่ต้องการให้อะไร มันเกิดขึ้นทั้งสิ้น

‘เฉลิมชัย’ปลุกปชป.รวมใจเป็นหนึ่งเดียว

ที่ลานพระแม่ธรณี พรรคประชาธิปัตย์ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)พร้อมด้วย นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค ดูแลกทม. นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่ากรุงเทพมหานคร(กทม.)ร่วมเปิด ศูนย์อำนวยการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครที่มี นายปริญย์ พานิชยภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจทันสมัย เป็นผู้อำนวยการศูนย์ฯ ภายใต้แนวคิด “ประชาธิปัตย์ รวมใจเป็นหนึ่งเดียว”หรือ”All for Democrat”โดยมีว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร(ส.ก.)ทั้ง 50 เขต อดีต ส.ส.กทม.ร่วมเปิดศูนย์ฯอย่างคึกคัก

โดยนายเฉลิมชัยกล่าวว่าวันนี้เป็นวันหนึ่งที่พรรคประชาธิปัตย์รอคอยอยู่ นับตั้งแต่ปี2562วันเลือกตั้ง ส.ส.กทม.ครั้งสุดท้าย ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาพรรคประชาธิปัตย์บ่มทุกอย่างเพาะทุกอย่าง เพื่อรอวันที่เราจะกลับมาเป็นผู้นำกทม.อีกครั้งหนึ่ง เป็นวันที่รอคอยของพรรคและสมาชิกพรรค เคยพูดตั้งแต่วันเปิดตัวนายสุชัชวีร์และว่าที่ผู้สมัครส.ก.ว่านี่คือจุดเปลี่ยนของกทม.จริงๆตนฝันมาตั้งแต่มีโอกาสเป็นเลขาธิการพรรคฯครั้งแรกปี2554 ฝันว่า กทม.จะต้องเป็นเมืองที่ผู้บริหารกทม.คืออนาคตของประเทศไทย แต่วันนั้นฝันของยังไม่เป็นจริง แต่ฝันของตนคือความมุ่งมั่น ไม่ใช่ฝันลอยๆ หรือฝันกลางวัน เพราะต้องการเห็นประเทศไทยเปลี่ยน ไม่ใช่เฉพาะกทม. แม้จะไม่สามารถเปลี่ยนได้ภายในวันเดียวซึ่งนายสุชัชวีร์บอกว่าหากจะต้องเปลี่ยนประเทศไทย ต้องเปลี่ยนกทม.ก่อน คำพูดนี้ตรงกลับเป้าหมายของตน อยากเห็นประเทศเดินไปพร้อมความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น และอยากเห็นคนรุ่นใหม่เข้ามาทำงานการเมืองและเป็นผู้บริหารโดยมีคนรุ่นเก่าเป็นพี่เลี้ยง เพื่อให้ประเทศเดินไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง โดยการคัดเลือกว่าที่ผู้สมัครส.ก.เป็นคนรุ่นใหม่เลือดใหม่เพื่อรองรับการบริหาร กทม.ในวันข้างหน้า

ลั่นวันที่รอคอยเพื่อคว้าชัยชนะ

“วันนี้จึงเป็นวันที่รอคอยและเป็นวันที่ประชาธิปัตย์จะกลับมารวมใจกันอีกครั้ง เพื่อช่วยดร.เอ้เป็นผู้ว่าฯ กทม.ให้ได้ ขอร้องและวิงวอนสมาชิกพรรคฯที่อยู่ทั่วกรุงเทพฯและอยู่ทั่วประเทศไทย ต้องมารวมใจให้เป็นหนึ่งและทำให้ผู้สมัครของพรรคฯเป็นผู้ว่าฯกทม. เป็นส.ก.ให้ได้ผมเชื่อว่า76 ปีที่ผ่านมา ความเป็นสถาบันการเมืองของพรรคฯไม่ได้ผ่านมาโดยเปล่าประโยชน์ แต่ผ่านมาด้วยการสะสมอุดมการณ์ และประสบการณ์ เพื่อพัฒนาตนเอง และวันนี้จุดไหนบกพร่องและคิดว่าไม่เหมาะสมเราก็มาปรับปรุงแก้ไข เพื่อนำมาปฏิบัติ และต่อยอดให้ดียิ่งขึ้น วันนี้จุดไหนต้องเปลี่ยนแปลง เราก็ต้องเปลี่ยนแปลง เพราะนี่คือประชาธิปัตย์ยุคใหม่แต่อุดมการณ์และหลักการคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง”นายเฉลิมชัย กล่าว

ตนเคยพูดแล้วว่าถ้าเราไม่มีหลักการและอุดมการณ์ ก็ไม่มีทางที่เราจะเป็นประชาธิปัตย์ได้วันนี้ทุกคนคือส่วนหนึ่งของประชาธิปัตย์ วิธีการอยู่ที่พวกท่านที่ต้องทำให้ถูกต้องตามกฎหมายและประสบชัยชนะภายใต้กฎหมาย ขอให้ทุกคนทำงานเป็นหนึ่งเดียว ตนไม่มีโอกาสลงไปเดินในพื้นที่กับทุกคน เพราะกฎหมายบัญญัติไว้ แต่ตนยังเป็นเลขาธิการพรรคฯกฎหมายไม่ได้บอกว่าส่งผู้ว่าฯกทม. แล้วตนต้องหลุดออกจากเลขาธิการพรรค ตนจึงจะยังเป็นแมวมองไปมองพวกท่านทุกเขต อยากเห็นว่าเมื่อไปเขตไหนทุกเขตของประชาธิปัตย์ มีทุกอย่างเหมือนกันทั้งหมดเพื่อให้ความรู้สึกว่ากทม.ไม่มีเขต และทุกที่คือประชาธิปัตย์

ประกาศลั่นปลุกส่ง‘ดร.เอ้’นั่งผู้ว่า

“ผมเชื่อมั่นความเป็นหนึ่งเดียวของเราจะเรียกคืนความเป็นประชาธิปัตย์ใน กทม.กลับคืนมาได้ และเชื่อว่าความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อพรรคยังไม่มีวันเสื่อมคลาย เราต้องทำให้เขากลับมามีความศรัทธา และเชื่อมั่นพรรคเราอีกครั้งหนึ่ง นี่คือจุดเริ่มต้น ถ้าเริ่มต้นดี ทุกอย่างก็เดินไปด้วยความราบรื่นผมขอเทใจให้ทุกคนนี่คือวันที่ผมรอคอยเมื่อกลับมาเป็นเลขาธิการพรรคครั้งที่2เพราะครั้งแรกส่งมรว.สุขุมพันธุ์ บริพัตรก็ชนะการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ในครั้งนี้ส่งดร.เอ้ ผมมั่นใจเต็มเปี่ยมว่าประวัติศาสตร์ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง แต่อยู่ที่ทุกคนทั้งหมดจะช่วยกันทำขอให้ทุกคนเริ่มต้นเดินไปข้างหน้า สู้และชนะ”นายเฉลิมชัย ย้ำ

เชื่อกรุงเทพเปลี่ยนได้คนกทมงเปิดใจ

ด้านนายปริญญ์กล่าวว่า ความตั้งใจของทุกคนที่ทำงาน ไม่ใช่ว่าจะมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.และส.ก.ในวันที่ 22 พ.ค.65 ทุกคนทำงานด้วยใจ อยากรับใช้พี่น้องแต่ละเขตที่ไปและเชื่อว่าทุกคนของพี่น้องที่ไปพบเหมือนญาติคนหนึ่งโดยเฉพาะช่วงโควิด ที่ลงไปช่วยด้วยใจ ทำให้มั่นใจมากขึ้นว่ากรุงเทพเปลี่ยนได้ ขอให้คนกรุงเทพเปิดใจ ดูนโยบายและวิสัยทัศน์ของนายสุชัชวัร์และดูผลงานขอผู้สมัครส.ก.ทุกคน เรารู้อยู่แก่ใจว่าทำงานมาตลอดเพื่อคนในเขตเรารอวันนี้มานานมาก9ปีกว่าแล้ว การเลือกตั้งผู้ว่ากทม.วันที่ 22 พ.ค.เชื่อว่าเราเปลี่ยนกรุงเทพได้และคนที่ทำได้ คือ นายสุชัชวีร์ สังคมดี ไม่มีขาย ถ้าอยากได้ ต้องร่วมสร้าง

‘สุชัชวีร์’ขอเดินทั่วกทม.กี่ล้านก้าวไม่หวั่น

ขณะที่ นายสุชัชวีร์ ยืนยันว่าเป็นคนที่โชคดีที่สุด ที่มีครอบครัวอย่างนี้มีบ้านหลังนี้มีผู้ใหญ่มีครอบครัวที่ดีที่สุด มีใครบ้างที่ลงสมัครผู้ว่า แล้วมีความพร้อมมีทีมที่เข้มแข็งที่สุด วันนี้เป็นวันประกาศความพร้อมว่า ไม่ใช่เฉพาะผู้ว่าฯเท่านั้น แต่นี่คือหัวใจ 50 ดวงบวก 1 เพื่อเปลี่ยนกรุงเทพ เราทำได้ที่ผ่านมาเดินมาหมดแล้วจึงรู้ว่าทำไม ผู้ว่าฯกทม.ต้องมี ส.ก.ที่เข้มแข็ง ทำไมผู้ว่าฯต้องสังกัดพรรคการเมือง เพราะแต่ละพื้นที่นั้นมีปัญหาแตกต่างกัน เราจึงมีความพร้อม

“ผมเดินมาแล้ว50เขตจากนี้ไปอีก2เดือนผมจะบอกว่าพี่ๆจะมีผมอยู่ทุกที่ ผมจะเป็นพี่น้องของพี่จะเป็นตัวแทนของพี่ที่ขยันที่สุด ที่ต่อสู้ที่สุดและจะมุ่งมั่นที่สุด เราเดินทางแล้วเดินล้านก้าวเราจะไปเดินอีกกี่ล้านก้าวก็บ่ยั่นแล้ววันนี้ทุกก้าวจะไปบอกกับพี่น้องประชาชนให้มั่นใจพรรคประชาธิปัตย์”นายสุชัชวีร์ย้ำ

‘อัศวิน’ลาออกลงชิงเก้าอี้ผู้ว่ากทม.

ที่ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 1 (เสาชิงช้า) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.)แถลงข่าวภายหลังลงนามหนังสือลาออกจากตำแหน่งผู้ว่าฯกทม.เพื่อยื่นต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย(มท.1.)ภายในวันเดียวกัน

โดย พล.ต.อ.อัศวินกล่าวว่าจนถึงวันนี้ตนเข้ามาเป็นผู้ว่าฯกทม.5ปี5เดือนกับอีก5วัน มีผลงานที่ทำสำเร็จหลายเรื่อง แต่ไม่ได้ประชาสัมพันธ์ เพราะเก่งเรื่องการปฏิบัติมากกว่า และวันนี้จะลาออกในวันนี้โดยเซ็นหนังสือไปแล้วถึง รมว.มหาดไทย โดยสิ่งที่ได้ทำมาแล้วคงจะมีการสานต่อกัน ขณะนี้กรุงเทพฯเปลี่ยนไปเยอะแล้ว นโยบายสวยหรูไม่เคยนำไปสู่ปฏิบัติเลยผ่านมา 10-20ปี ตนก็นำนโยบายสู่การปฏิบัติใน 5 ปีนี้ ส่วนที่ลาออกวันนี้ตนจะไปสมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ถามว่า ติดยึดอำนาจก็ไม่ใช่ แต่จะมาทำงานที่ทำอยู่ให้เสร็จ หรือทำสิ่งดีๆ ใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นในกรุงเทพฯ

ขอลุยทำงานต่อ/เปิดทีมสก.28มี.ค.

พล.ต.อ.อัศวินกล่าวถึงผู้สมัครคนอื่นอาทินายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครอิสระ นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ พรรคประชาธิปัตย์ น.ต.ศิธา ทิวารีจากพรรคไทยสร้างไทย นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร พรรคก้าวไกล นายสกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครอิสระหรือน.ส.รสนา โตสิตระกูล ผู้สมัครอิสระว่าพวกนี้เป็นคนดีคนเก่ง แต่เป็นเรื่องที่ดี ที่คนกรุงเทพจะมีตัวเลือกหลากหลาย ถ้าหมดตัวเลือกให้หันมามองอัศวิน เพราะนโยบายตนกรุงเทพฯต้องไปต่อ ตนเป็นนักปฏิบัติและเป็นนักประสานและจะเปิดรับความคิดเห็นจากคนหนุ่มสาว คนที่มีความรู้ หรือคนพิการ ถ้าเป็นเป็นผู้ว่าฯกทม.โดยครึ่งหนึ่ง จะมาเป็นผู้บริหารกับผมและจะไม่ลงสมัครในนามพรรคการเมือง แต่จะมีกลุ่มรักษ์กรุงเทพฯที่สนับสนุนเพราะเป็นตัวของตัวเอง ส่วนเรื่องหาเสียงเสียงไม่ได้กังวลกับใคร ทุกคนเป็นคนดี ส่วนเรื่องทีมงานสก.จะเปิดตัววันที่ 28มี.ค.นี้

มั่นใจประกาศทิ้งท้าย‘ผมมาแน่’

“5ปีที่ผ่านมาถือว่ายากทุกเรื่อง แต่ผมได้ทำทันทีที่ผ่านมา หากจะประเมินคะแนนตัวเองอย่างน้อยครึ่งหนึ่ง และจะสมัครใหม่เพื่อทำคะแนนให้ได้อีกครึ่งหนึ่ง ยังทำให้ไม่สุดแต่ภูมิใจทุกเรื่องที่ประชาชนปลอดภัย แต่ยังเสียใจที่ ยังทำไม่ได้สมบูรณ์และไม่ได้กังวลอะไรเพราะนโยบายใครๆก็เขียนได้ แต่ผมคัดคนเก่งๆ เข้ามาช่วยผม ผมเลือกใช้คนเก่ง ตอนเป็นตำรวจทำคดีอะไรจะจบได้ผมไม่มักแถลงข่าว ผมไม่ชอบพูด เล็กๆน้อย ผมทำได้ ไม่ได้พูดไม่แถลงข่าว ผมเป็นนักปฏิบัติไม่ใช่นักพูด”พล.ต.อ.อัศวิน กล่าว

หลังแถลงข่าวเสร็จ พล.ต.อ.อัศวินเดินทางไปสักการะพระพุทธนวราชบพิตร พระประจำศาลาว่าการกทม.(เสาชิงช้า)เพื่อเป็นสิริมงคลและขึ้นรถเดินทางออกกลับทันทีโดยกล่าวขอบคุณสื่อมวลชนที่มาติดตามทำข่าวพร้อมกล่าวทิ้งท้ายไว้ด้วยว่า“ผมมาแน่”

‘พปชร’ตั้ง’เสี่ยโต’นั่ง ผอ.เลือกตั้งสก.

น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม. ในฐานะโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)กล่าวว่าพรรค พปชร.มีคำสั่ง แต่งตั้งศูนย์อำนวยการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร(ส.ก.)ของพรรคพโดยมอบหมายให้ นายอภิชัย เตชะอุบล เป็นผู้อำนวยการในการเลือกตั้งครั้งนี้และได้พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น เป็น รอง ผอ.ศูนย์ฯ,ดร.ธวัชชัย ปิยะนนทยา เป็นโฆษกศูนย์ฯ,ดร.บุณณดา สุปิยพันธุ์ เป็นรองโฆษกศูนย์ฯและตั้งทีมงานมาช่วยกันทำงานขับเคลื่อนไปพร้อมๆกับอาสาสมัครและบุคลากรอีกจำนวนมากเพื่อช่วยขับเคลื่อนการทำงานให้ประสบความสำเร็จ ความตั้งใจต่อไปของพรรคพปชร.คือการขยายโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้ามามีบทบาททางการเมืองในระดับท้องถิ่นมากขึ้น อย่าง ส.ก.

พปชร.ส่งสก.ทุกเขตไม่เคว้งถึงไม่ส่งผู้ว่า

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ในฐานะรักษาการรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ให้สัมภาษณ์ถึงการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ทางพรรคพปชร.จะช่วยผู้สมัครคนใดว่า ตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 รัฐมนตรี ส.ส. และผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ไม่สามารถช่วยหาเสียงเลือกตั้งท้องถิ่นได้อยู่แล้ว

แต่ในส่วนของ พปชร.ได้มีการส่งผู้สมัคร สก.เกือบทุกเขต ถือเป็นการทำพื้นที่ของสมาชิกพรรคและทีมงานต่างๆ จะมีผลไปถึงการเลือกตั้ง ส.ส. ทั้งนี้ การไม่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ไม่ได้ ทำให้ผู้สมัครส.ก.ของเราเคว้งเพราะผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.บางคน ก็ไม่ได้ลงสมัครในนามพรรค

กระแสเปลี่ยนแปลงเร็วรอดูโค้งสุดท้าย

“การเมืองวันนี้ เปลี่ยนไปเยอะ คงไม่ต้องคิด คงไม่ต้องยึดรูปแบบในอดีต การเลือกตั้งและความคิดของประชาชนก็เปลี่ยนไป ทุกอย่างอยู่ที่ประชาชน หากเราลงพื้นที่ มีความผูกพันกับประชาชน มีนโยบายที่จะช่วยเหลือชาวบ้าน ผู้สมัครส.ก.ก็น่าจะผ่านการเลือกตั้งไปได้ เช่นเดียวกับผู้สมัครผู้ว่า กทม.ทุกคนที่เปิดตัว ให้ลองดูว่า เขามีนโยบายและแนวทางการหาเสียงอย่างไร สุดท้าย อาจมีการเปลี่ยนแปลงคะแนนนิยมกันได้เพราะยังมีเวลา กระแสของกทม.เป็นกระแสที่เปลี่ยนได้เร็ว ช่วงใกล้ๆเลือกตั้ง อาจจะมีประเด็นอะไรทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ อย่าเพิ่งไปคาดเดาอะไรมาก ใจเย็นๆ”นายชัยวุฒิ กล่าว

ชี้สก.จะหนุนใครเป็นสิทธิส่วนตัว

เมื่อถามว่ามีผู้สมัคร ส.ก.ของพรรค พปชร.หลายคนสนับสนุน นายสกลธี ภัททยิกุล ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. นายชัยวุฒิ กล่าวว่า เป็นสิทธิส่วนตัวเพราะเราไม่ได้ส่งผู้สมัครอยู่แล้ว ใครรักใครชอบใครก็ว่ากันไป พวกใครพวกมัน เมื่อถามว่าในทางลับ พปชร.จะสนับสนุนผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.คนใด นายชัยวุฒิ กล่าวว่า“ผมไม่มีลับ ลับกับเปิดเผย ผมทำเหมือนกัน”

‘ชัชชาติ’เตือนเลี่ยงทำผิดกม.เลือกตั้ง

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กขอความร่วมมือมายังผู้ที่สนับสนุนให้ระมัดระวังการจัดกิจกรรมที่มีการแจกของและมีชื่อตนปรากฎเนื่องจากสุ่มเสี่ยงต่อการฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้งระบุว่า“เนื่องจากวันที่ 25 มี.ค.65 เป็นวันที่ถือว่ากกต.ออกประกาศให้มีการเลือกตั้ง ผู้ว่าฯกทม.และส.ก.ผมจึงขอความร่วมมือมายังผู้ที่สนับสนุนผม ขอให้งดการจัดกิจกรรมใดๆ ที่อาจสุ่มเสี่ยงต่อการฝ่าฝืนกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งทุกประเภท และกรุณางดการแจกเสื้อและสิ่งของใดอันสื่อให้เห็นว่ามีชื่อหรือเป็นการสนับสนุนผม เพราะอาจมีบุคคลนำไปเชื่อมโยงว่าท่านให้ทรัพย์สินเพื่อการหาเสียงได้ การสนับสนุนผมในทางใดๆ ขอให้ท่านดำเนินการให้อยู่ในกรอบของกฎหมายและระเบียบ กกต.อย่างเคร่งครัด

ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงมา ณ โอกาสนี้”

‘สุเทพ’ไม่กังวล’แม้ว’ส่ง’อุ๊งอิ๊ง’ชิงนายกฯง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา15.00น.เฟสบุ๊ค“Suthep Thaugsuban(สุเทพ เทือกสุบรรณ) ของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย (มปท.)ได้เผยแพร่รายการ“คุยกับลุง”EP22 โดยนายสุเทพ กล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯส่งลูกสาวมาเดินเกมการเมืองเพื่อหวังที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงอีกคนของตระกูลชินวัตรว่า เราไม่ต้องไปวิตกกังวลมาก เพราะเราเคยรู้เห็น ประสบกันมาแล้วว่าระบอบทักษิณ ทำให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติอย่างไร

ยุคนี้คนรู้ทันมากขึ้นหลอกไม่ได้

“ผมไม่คิดว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามแผนการ หรือตามความฝันของคุณทักษิณ เพราะสถานการณ์เปลี่ยนไปมากแล้ว ความคิดเห็นของคนก็เปลี่ยนไปแล้ว คุณทักษิณก็ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งในการทำตลาดทางการเมือง เป็นผู้ที่เชี่ยวชาญในเรื่องการสื่อสารโลกยุคใหม่แต่วันนี้คนอื่นๆฝ่ายอื่นๆก็รู้เท่าทัน ความก้าวหน้าการสื่อสารโลกยุคใหม่ ประชาชนทุกฝ่ายรับข้อมูลข่าวสารพร้อมๆกันเร็วเท่ากัน มีการวิเคราะห์ แลกเปลี่ยนความรู้กัน ทุกคนก็รู้ข้อเท็จจริงมากพอๆกัน หลอกไม่ง่าย เหมือนเมื่อ20 ปีก่อนที่คุณทักษิณเคยทำ ผมไม่รู้สึกกังวลใจ” นายสุเทพ กล่าว

ยังหนุน’บิ๊กตู่’เหมาะตั้งใจดีสุจริต

นายสุเทพ ยืนยันอีกว่า จนถึงขณะนี้ยังคงสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯนำประเทศไปสู่ความสงบเรียบร้อย เพราะพล.อ.ประยุทธ์ มีความปรารถนาดี มีความตั้งใจดี ที่จะทำงานให้กับประเทศชาติและประชาชน อีกทั้งเป็นคนสุจริต และมุ่งมั่น ยังไม่เห็นว่ามีอะไรที่เป็นข้อบกพร่อง หรือก่อให้เกิดความเสียหายจึงยังเห็นว่าพล.อ.ประยุทธ์ ยังเป็นบุคคลที่มีเหมาะสมในยุค สมัยนี้ ในช่วงนี้

ชี้เลือกผู้ว่ากทม.สะท้อนเลือกตั้งใหญ่

นายสุเทพ ยังกล่าวถึงการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ว่าทุกการเลือกตั้ง เป็นเครื่องวัดความนิยมของประชาชนที่มีต่อพรรคการเมืองและนักการเมือง เท่าที่ติดตาม วันนี้มีผู้สมัครลงในนามพรรคการเมืองและแบบอิสระ ส่วนอิสระมีทั้งแบบจริงๆบ้างและแบบที่มีพรรคการเมืองคอยบงการอยู่ แต่คงไม่รอดจากหูตาประชาชน คนกทม.ไวต่อข่าวสารและสถานการณ์มาก ทั้งนี้ การเลือกผู้ว่าฯกทม.จะเป็นการแสดงออกว่าประชาชนมีความคิดเห็นทางการเมืองไปในทิศทางของพรรคการเมือง หรือกลุ่มการเมืองใดซึ่งอาจจะมีผลต่อการพิจารณาตัดสินใจของประชาชนที่อาศัยอยู่ต่างจังหวัดด้วยเพราะหลังจากที่มีการเลือกผู้ว่าฯกทม.ในเดือนพ.ค.แล้ว นับไปอีก 9-10เดือนคาดว่าน่าจะมีการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหญ่ ตรงนี้จะเป็นการตัดสินอนาคตของประเทศครั้งสำคัญ