'อนุชา'ลงพื้นที่ภูเก็ต ถกแก้ปัญหาความเดือดร้อนสมาคมประมงฯ

'อนุชา'ลงพื้นที่ภูเก็ต ถกแก้ปัญหาความเดือดร้อนสมาคมประมงฯ

วันพฤหัสบดี ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2565, 16.39 น.

"อนุชา"ลงพื้นที่ภูเก็ตตรวจสอบข้อเท็จจริง ประชุมหาแนวทางแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนสมาคมประมงฯ ยืนยันรัฐบาลตั้งใจแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ ให้เกิดความยั่งยืน

เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 7 เมษายน 2565 นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางลงพื้นที่ จังหวัดภูเก็ต เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและประชุมหารือแนวทางในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของสมาคมการประมงแห่งประเทศ โดยมี นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายมงคลชัย สมอุดร รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะทำงานร่วมลงพื้นที่


นายอนุชา และคณะได้เดินทางไปยังท่าเทียบเรือประมงภูเก็ตตําบลรัษฎา เพื่อตรวจติดตามการบริหารจัดการเรือขาวแดงและตรวจสอบระบบติดตามเรือประมง (Vessel Monitoring System: VMS) และการติดตั้งระบบ Automatic Identification System : AIS ในเรือประมง จากนั้นได้ร่วมประชุมหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากกรณีที่สมาคมชาวประมงแห่งประเทศไทย ได้ร่วมประชุมหารือกรณีดังกล่าว เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา โดยนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน

ภายหลังตรวจเยี่ยมและประชุมรับฟังปัญหาฯ นายอนุชา เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยถึงปัญหาการประมงในพื้นที่ ซึ่งการแก้ไขปัญหากรณีดังกล่าว มีความจําเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้ความละเอียด รอบคอบในการดําเนินการแก้ไขปัญหา เนื่องจากบางกรณีปัญหาเป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องด้านกฎหมาย โดยจะต้อง ประสานสอบถามความเห็นจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาให้การแก้ไขปัญหา เป็นไปอย่างถูกต้อง ตามกฎหมายหรือระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันปัญหาใหม่ที่อาจเกิดขึ้นตามมาภายหลัง พร้อมกำชับให้หาทางแก้ไขให้ทั้งภาครัฐและชาวประมงได้รับประโยชน์ 2 ฝ่าย บนพื้นฐานความร่วมมือความเข้าใจที่ดีต่อกัน

นายอนุชา น้นย้ำว่าตลอดเวลาที่ผ่านมารัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจต่อความเดือดร้อนของพี่น้องชาวประมง ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ติดตามปัญหาอย่างใกล้ชิด สั่งการกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาให้ความช่วยเหลือแก้ไขปัญหาที่สะสมและเรื้อรังมานาน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ผู้ประกอบการประมงอย่างเต็มที่ ยืนยันรัฐบาลมีความตั้งใจแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะปัญหาที่ประชาชนได้รับจากการออกกฎ ข้อบังคับ มาตรการต่างๆ ของรัฐบาล ขอให้ประชาชนเข้าใจถึงการออกกฎ ข้อบังคับ มาตรการต่างๆ ด้วย เพราะรัฐบาลต้องการทำทุกอย่างให้เข้าสู่ระบบ และถูกต้องกฎหมาย ให้ได้ตามมาตรฐานสากล แต่รัฐบาลก็ไม่เคยทอดทิ้งประชาชนที่ใช้ชีวิต มีอาชีพมาก่อนจะมีกฎข้อบังคับ ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ในส่วนประเด็นข้อกังวลเรื่องการติดตั้ง AIS จะทำให้ข้อมูลผู้ประกอบการถูกเปิดเผยต่อสาธารณชนนั้น รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ขอให้ผู้ประกอบอย่ากังวลในเรื่องนี้ ซึ่งจะมีการเข้ารหัสเพื่อสามารถให้เข้าถึงข้อมูล ส่วนข้อมูลที่้เปิดเผยนั้นเป็นการเปิดเผยเท่าที่จำเป็นเพื่อใช้ในการติดตามเรือ แต่จะไม่เปิดเผยข้อมูลจริงทั้งหมดของเรือ ส่วนเรื่องอุปกรณ์ปั่นไฟที่ผู้ประกอบการแสดงความเป็นห่วงเรื่องความรับผิดชอบกรณีอุปกรณ์เสียหายนั้น ในส่วนนี้จะเป็นการให้ผู้ประกอบการรับผิดชอบกรณีจงใจทำให้อุปกรณ์เสียหายเท่านั้น ถึงจะให้ผู้ประกอบการรับผิดชอบค่าเสียหาย สำหรับเรื่องวันทำประมงที่ได้เสนออีก 30 วัน ในปีการประมงนั้น ขอให้ทุกคนเข้าใจบริบทของสภาพความสมบูรณ์ของธรรมชาติเพื่อให้เกิดความสมดุลของระบบนิเวศ รวมถึงความปลอดภัยช่วงมรสุม จำเป็นต้องประกาศกำหนดวันเดินเรืออย่างเหมาะสม อย่างไรก็ตามประเด็นปัญหาต่างๆ ที่ได้มีการนำเสนอจะนําไปประชุมหาแนวทางการแก้ไขปัญหา เพื่อให้การแก้ไขปัญหาของสมาคมการประมงแห่งประเทศไทยได้รับการแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป ขอให้ชาวประมงช่วยกันรักษาอาชีพประมง รวมถึงความสมบูรณ์ทางทะเล สภาพแวดล้อม และธรรมชาติให้คงอยู่อย่างสมบูรณ์ตลอดไป

- 006

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top