24 พ.ค.65 พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์ผ่านเฟสบุ๊กวิเคราะห์การเมืองในหัวข้อ"ควันหลงจากการเลือกตั้งผู้ว่า กทม. ตอนที่ 1 ระบุว่า เคลื่อนไหวแสดงความดีใจจนเกินกว่าเหตุของพรรคเพื่อไทย เกี่ยวกับชัยชนะของ สก. ถึง 19 คนว่า มีส่วนเกี่ยวกับการส่ง คุณ ชัชชาติขึ้นมาเป็นผู้ว่า กทม. รวมถึงการฝันไปถึงเรื่องแลนด์สไลด์ ในการเลือกตั้ง ส.ส.อีกด้วยนั้น น่าจะเป็นเรื่องฝันที่เกินจริงหรือฝันลำเอียง หรือฝันไปทั้งๆที่ยังตื่นอยู่ มากกว่า เพราะ
(1) เมื่อเอาคะแนนเสียง สก.ทั้ง 19 คน ของพรรคเพื่อไทยออกไปแล้ว คุณชัชชาติก็ยังชนะขาดลอยอยู่ถึงล้านกว่า แต่ถ้ามองในมุมกลับจะกลายเป็นว่า “สก.ของพรรคเพื่อไทย ที่ได้มาก็เพราะเกาะคุณ ชัชชาติ มามากกว่ามั้ง
(2) ความไม่เอาไหนของพรรค พปชร. อีกกรณีหนึ่ง จากหลายๆเรื่องที่ส่ง สก.แต่ไม่เคยออกมาแสดงว่า สก. เป็นของตัวเอง จริงๆ คนก็นึกไปว่า สก.ส่วนนี้เป็นของฝ่าย ร.อ.ธรรมนัสไป คนกรุงเทพฯจึง ไม่ยอมเลือก ซึ่งก็เกิดขึ้นกับฝ่ายคุณอัศวิน เช่นกัน
(3) คะแนนเสียงเด็กส่วนใหญ่ก็เทไปให้พรรคก้าวไกลหมด ส่วนคะแนนเด็ก ที่คุณชัชชาติได้ มานั้น ก็ไม่น่าจะใช่คะแนนนิยมจากพรรคเพื่อไทย
(4) ในภาคอีสาน ก็เริ่มไม่แน่แล้วว่า พรรคเพื่อไทยจะชนะแบบแลนด์ไลด์ได้หรือเปล่า เมื่อมวยหลักอย่าง พรรคภูมิใจไทยซึ่งเป็นพรรคการเมืองพรรคเดียวที่ไม่เคยทะเลาะกันเลยกำลังลงมือทำงานอย่างจริงจัง อยู่ในขณะนี้ ดังนั้นโอกาสที่จะแลนด์สไลด์ของพรรคเพื่อไทย ก็ยังอยู่ห่างไกล อย่า Sleep Walk กันเลยครับ
นอกจากนี้ พล.ท.นันเดช ยังโพสต์ในตอนที่ 2 ว่า คุณชัชชาติ จะบริหารงาน กทม.ต่อไปได้นานแค่ไหนเป็นคำถามที่มากขึ้นทุกที บางคนเลือกแกมาแล้ว ตอนนี้พอสติกลับมาก็เริ่มสงสัย
ผมว่า มันก็ขึ้นอยู่กับเรื่องต่อไปนี้
1 บทบาทในห้วงเวลาต่อไปของคุณชัชชาติเอง ซึ่งจะเป็นเครื่องชี้ว่า “คุณชัชชาติเป็นผู้ว่า กทม.ของคนกรุงเทพฯทุกฝ่ายจริงหรือเปล่า ถ้าจริงก็อยู่ได้สบายๆ ถ้าไม่จริง กระแสร์ตีกลับมา ที่ตัวคุณชัชชาติจะสูงกว่าอดีต ผู้ว่าทุกคน
2 การแย่งชิงตำแหน่งในสภา กทม. ซึ่งจะมี สก.ของเพื่อไทย และก้าวไกล เป็นแกนนำนั้น คุณชัชชาติ จะเอาอยู่ไหม ถ้าเอาไม่อยู่ ก็จะทำให้ 6 เดือนแรกของคุณชัชชาติก้าวไปอย่างเชื่องช้า ไม่สมราคาที่คุยไว้
3 โฉมหน้าผู้สนับสนุน คุณชัชชาตินั้น จะปรากฏตัวออกมาแน่ๆ ทั้งตัวจริง และตัวปลอม จึงขึ้นอยู่กับตัวคุณชัชชาติ เองว่าการเปิดตัวของคนเหล่านั้น จะส่งผลดีหรือเสียต่อตัวเอง แต่ก็ขอให้คิดในทางที่ดีว่า เครือข่ายวิศวะ จุฬาฯในประเทศไทย ซึ่งน่าจะเป็นตัวช่วย สำคัญของชช.อยู่ด้วยนั้นเข็มแข็งกว่า วิศวะ จาก MITหลายสิบเท่าครับ
4 ม็อบทั้งหลายที่จะเกิดขึ้นมาในอนาคตอันใกล้นี้ จะมีมากขึ้นตามลำดับ ซึ่งความจริงแล้วมาจากเรื่องสำคัญ คือ“ ความแตกแยกในพรรค พปชร. “ นั้นเอง ไม่เกี่ยวกับคุณชัชชาติ สักเท่าไร แต่คุณชัชชาติต้องวางน้ำหนัก การจัดการให้ได้สมดุลย์ ระหว่าง“ชาติ ศาสน์ กษัตริย์” ซึ่งจะทำได้หรือไม่
5 นโยบายที่หลากหลายคลอบคลุมไปเกือยทุกเรื่องของคุณ ชัชชาติตินั้น เป็นเรื่องใหญ่ จะต้องถูกทั้งประชาชน และคนที่ไม่ชอบคุณ ชัชชาติ จับจ้องอยู่ “ว่าจะทำได้จริงหรือเปล่า”
เรื่องนี้จึงเป็นแรงกดดันต่อคุณ ชัชชาติ อย่างมากทีเดียวเพราะ “ พูดมันง่ายกว่าลงมือทำแยะทีเดียว” ครับ
เอาแค่นี้พอก่อนครับ ยังมีอีกหลายเรื่องที่ผู้ว่าทุกคนต้องมาเจอแล้ว ทำไม่ได้ เช่น เรื่อง การทุจริต การระบายน้ำ การจราจร ปัญหาหาบเร่แผงลอย เป็นต้น
ตอนนี้ประเทศไทยเราก็โดนกระหน่ำทั้งโควิด ยูเครน การกดดันของสหรัฐฯ/ กลุ่มEU และ “ เรื่องผู้กอง “ อีกก็แย่พออยู่แล้วครับ แต่ไทยก็เป็น 1 ในไม่กี่ประเทศที่อยู่ได้สบายๆท่ามกลาง ความเดือดร้อนของทุกประเทศทั่วโลก
คนที่ทนไม่ได้แหกปากร้องส่วนใหญ่ก็เป็นนายทุน ที่ขาดทุนกำไร ไปนิดหน่อย เป็นผู้ส่งเสียงดังมากที่สุด รองลงมาก็นักการเมือง ส่วนคนธรรมดาทั่วไปอย่างพวกเราก็แค่บ่นว่า “หมู หรือไก่ ในแกงมันน้อยไปหน่อยไหม”เท่านั้นเอง ดังนั้นผมว่า ช่วยกันปล่อยให้ ชช.ทำงานต่อไปสัก 3 เดือนก่อนครับ แล้วค่อยมาทบทวนกันใหม่
-001