‘เจี๊ยบ ก้าวไกล’ แรงไม่เคยเปลี่ยน! ชงตัดงบฯศาล รธน. 100 เปอร์เซ็นต์ จวกไม่สมควรถูกเรียกศาล ด่ากราด ‘บิ๊กตู่’ ก่อนเจอ‘ปธ.ชวน’ เบรคใช้คำแรง โดนสวนกลับ หนุนรัฐประหาร หรือ  ด้านส.ส.หญิงพปชร.ลุกอัดสำเนียงส่อภาษากิริยาส่อสกุล

1 มิ.ย.2565 ที่รัฐสภา นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 วงเงิน 3.185 ล้านล้านบาทว่า ตนเห็นด้วยกับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่อภิปรายว่างบประมาณของปี2566 เปรียบเสมือนช้างป่วย แต่ตนคิดว่านอกจากช้างจะป่วยแล้วควาญช้างยังโง่เขลาเบาปัญญา พาช้างเดินไปอยู่เหวลึกเข้าไปทุกทีๆ โดยนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฏร ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้เตือนนางอมรัตน์ให้ระวังถ้อยคำที่มีลักษณะเสียดสีเกินไป ก็ขอเตือนให้และระมัดระวัง

จากนั้นนางอมรัตน์ อภิปรายต่อว่า งบฯรายจ่ายที่ผ่านๆมาแทบจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง หน่วยรับงบฯมากกว่า400หน่วย ขึ้นๆลงๆอย่างละนิดอย่างละหน่อย จัดงบฯไม่แยแสกับปัญหาเฉพาะหน้า จัดแบบอยู่ไปวันวัน โดยเฉพาะงบฯด้านความมั่นคง ทั้งที่ภัยความมั่นคงได้เปลี่ยนรูปแบบไปมากแล้ว แต่งบฯยังเหมือนเดิม บางหน่วยงานมากกว่าเดิม ได้แก่ สภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ในยุคที่3เหล่าประกาศสู้รบกับลาซาด้า วันที่พี่น้องร่วมชาติรู้สึกสิ้นหวัง เหมือนยืนอยู่ก้นขอบเหวลึก เพราะกฎหมายไม่เป็นกฎหมาย ศาลไม่เป็นศาล องค์กรอิสระถูกครอบงำ ดังนั้นต้องใช้งบประมาณแห่งความหวัง ที่เอื้อให้เกิดการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม เริ่มตั้งแต่ตำรวจ อัยการ ศาล เรือนจำ รวมถึงงบฯคณะกรรมการการเลือกตั้ง

นางอมรัตน์ กล่าวต่อว่า เริ่มที่งบฯตำรวจปีนี้ จำนวน1.15แสนล้านบาท 70 กว่าเปอร์เซ็นต์เป็นงบฯบุคลากร หรือเงินเดือน ส่วนที่เหลือเป็นงบฯสร้างกับซื้อ สร้างแฟลต สร้างโรงพัก เหลือเพียง10เปอร์เซ็นต์ ที่เป็นงบฯบริการประชาชน รวมถึงบังคับใช้กฎหมาย ขณะที่งบฯปฏิรูประบบตำรวจ จำนวน 3,781 ล้านบาท เป็นการหลอกตา เพราะเป็นงบฯที่ดินสิ่งปลูกสร้าง แล้วปฏิรูปตำรวจตรงไหน นอกจากนี้เราไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีตำรวจป่าไม้ ตำรวจรถไฟ ตำรวจท่องเที่ยวไว้ซ้ำซ้อน เพราะสถานีตำรวจภูธรมีมากเกินจำเป็นด้วยซ้ำ สามารถใช้บริการได้เลย ดังนั้นต้องปรับลดเพื่อนำงบฯมาสนับสนุนงานสอบสวนที่เป็นหัวใจหลัก แต่ค่าตอบแทนน้อย ทำให้ประสิทธิภาพการสอบสวนน้อยลง ขณะที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.) ต้องวัดผลสัมฤทธิ์กับงบฯที่ได้ไปว่าวันวันหนึ่งนั่งทำไอโอ หรือเลี้ยงไก่ให้เจ้านาย

นางอมรัตน์ กล่าวว่า สำหรับงบฯศาล ต้องยกเลิกหลักสูตรทั้งหลาย เช่น วปอ. บยส. เราทุ่มงบฯเพื่อให้ศาล ตุลาการ มีความเป็นอิสระ แต่กลับมาจัดหลักสูตรสร้างคอนเนคชั่น มันย้อนแย้งหรือไม่ ขณะที่งบฯศาลรัฐธรรมนูญ ตนขอตัดออกไปทั้ง100เปอร์เซ็นต์ จะช่วยลดภาระของประเทศ เพราะไม่เข้าใจคำว่าปฏิรูปกับปฏิเสธ ไม่เข้าใจคำว่าปฏิรูปกับคำว่าล้มล้าง และไม่สามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้ทั้งที่เป็นศาลการเมือง ตนไม่ยอมรับศาลฯแบบนี้ องค์กรนี้ไม่สมควรจะถูกเรียกว่าศาลด้วย

“ผลพวงจากรัฐประหารเมื่อ 8 ปีก่อน ทำลายประเทศนี้อย่างย่อยยับทุกด้าน กฎหมายถูกทุบทิ้งทำลายไม่ละอายต่อคนรุ่นหลัง ไม่ละอายต่อบาปบุญคุณโทษ ความหวังเดียวของประเทศนี้คือการเลือกตั้งใหม่เพื่อเปลี่ยนประเทศ โดยหน่วยงานหลักที่จัดเลือกตั้งคือ กกต. แต่ไม่มีงบฯจัดเลือกตั้งปี 66 หรือว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี คิดว่าจะไม่มีการเลือกตั้ง หรือว่าติดใจวิถีโจรที่เคยทำมาแล้ว ที่เคยทำมาแล้วสำเร็จเมื่อปี 2557” นางอมรัตน์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อนางอมรัตน์ อภิปรายถึงตรงนี้ นายชวนได้เตือนเป็นครั้งที่ 2ให้ระมัดระวังคำพูด ทำให้นางอมรัตน์ ถามกลับว่าผิดตรงไหน ก็เขาเป็นโจรปล้นประชาธิปไตย ท่านประธานจะปกป้องเขาหรือ ท่านประธานเห็นด้วยกับการรัฐประหารหรือ นายชวนจึงชี้แจงว่า ตนมีหน้าที่ควบคุมการประชุมตามข้อบังคับ ถ้อยคำใดที่หนักเกินไป เช่น โจร ก็ไม่เหมาะไม่ควร ไม่ต้องถอน แต่ขอเตือนว่าไม่เหมาะสม

ทำให้นางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ลุกขึ้นประท้วงประธานฯ ว่าผู้อภิปรายกล่าวร้าย โดยประธานฯตักเตือนหลายครั้งแล้ว ขอให้ประธานฯ สั่งให้นางอมรัตน์ถอนคำพูด เพราะรัฐบาลชุดนี้มาจากการเลือกตั้งตามกฎหมาย สุดท้ายขอฝากเตือนผู้อภิปรายถึงสุภาษิตไทย ว่าสำเนียงส่อภาษากิริยาส่อสกุลจริงๆ ก่อนที่นางอมรัตน์ จะพูดว่า “ดิฉันไม่นับญาติกับโจร”

จากนั้น การอภิปรายจึงดำเนินต่อไป โดยนางอมรัตน์ กล่าวต่อว่า รูปแบบการเลือกตั้งต้องมีรายละเอียด เพื่อลดจำนวนบัตรเสีย และให้คนทุกกลุ่มเข้าถึงสิทธิการเลือกตั้ง สุดท้ายขอให้ข้อสังเกตว่า งบสนับสนุนการมีส่วนร่วมสังเกตการณ์การเลือกตั้ง ถูกตัดหายไปหลังการรัฐประหารปี 2557 อยากให้กกต. สร้างองค์กรเครือข่ายสังเกตการณ์เลือกตั้ง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ทั้งนี้ ตนไม่สามารถสนับสนุนร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ฉบับนี้ได้

-001