วงเสวนากกต. ‘สาธิต ปิตุเตชะ’ชี้บัตร 2 ใบได้ประโยชน์ ยันกฎหมายลูกเสร็จทันตามกรอบเวลา ด้าน‘อ.เจษฎ์’อัดแก้ไขเพิ่มเติม รธน.60 ไม่สะเด็ดน้ำ ส่งผลทำกฎหมายลูกไม่สมบูรณ์ เชื่อ‘บิ๊กตู่’ชิงยุบสภาฯใกล้ก่อนหมดวาระมากที่สุด เพื่อชิงความได้เปรียบ
9 มิถุนายน 2565 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในวาระครบรอบ 24 ปี ได้จัดการเสวนาวิชาการ เรื่อง “แนวโน้มการเมืองไทยหลังการเลือกตั้งด้วยบัตร 2 ใบ” มีนายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. (ฉบับที่... พ.ศ. … ) นายเจษฎ์ โทณะวณิก นักวิชาการทางกฎหมาย ร่วมเสวนา
นายสาธิต กล่าวถึงข้อห่วงกังวลหลังที่ประชุมรัฐสภาลงมติไม่เห็นด้วยให้เลื่อนร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง 2 ฉบับ ขึ้นมาพิจารณาก่อนร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. … ยืนยันว่าไม่มีผลกระทบ หากดูตามกระบวนการและขั้นตอนต่างๆเชื่อว่าร่างกฎหมายจะเสร็จทันต่อสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น เพื่อเป็นเครื่องมือรองรับการเลือกตั้ง ช่วยให้การเลือกตั้งเป็นที่เข้าใจตรงกันและเป็นที่ยอมรับได้
ส่วนกติกาบัตรเลือกตั้งแบบ 2 ใบ มองว่าจะเป็นประโยชน์และทำให้ประชาชนได้เลือกพรรคการเมืองที่ชอบและนักการเมืองที่เป็นผู้แทนของประชาชนได้ แม้อาจจะถูกมองว่าคะแนนผู้ที่ได้ลำดับที่ 2 ถูกทิ้งน้ำไป แต่จะถูกทดแทนด้วยระบบบัญชีรายชื่อ 100 คน ซึ่งต้องไปคำนวณตามเกณฑ์เฉลี่ยของกฎหมาย ซึ่งสัดส่วนอาจไม่ได้เท่ากับคะแนนที่ตกน้ำไป แต่เชื่อว่าจะช่วยสะท้อนความต้องการของประชาชนได้ระดับหนึ่ง จึงคิดว่าบัตรเลือกตั้งแบบ 2 ใบได้ประโยชน์มากกว่า
ด้านนายเจษฎ์ กล่าวว่า ต้องบอกว่ารัฐธรรมนูญ 2560 ฉบับแก้ไขเพิ่มเติมไม่สมบูรณ์ ยังแก้ไขไม่สะเด็ดน้ำเพียงพอที่จะสามารถนำมาใช้งานได้ในทางปฏิบัติได้จริง โดยเกิดจากข้อน่าเสียดาย คือ พรรคพลังประชารัฐ มั่นใจเกินไปว่าหากเสนอสิ่งใดไป ทางส.ว.และส.ส.ส่วนใหญ่ จะลงมติเห็นด้วยให้เสมอ จึงไปเอารัฐธรรมนูญ มาตรา 144 ว่าด้วยเรื่องงบประมาณ นำไปใส่ไว้ในร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมเพื่อให้ส.ส.ใช้งบได้ แต่เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ต่อสู้กันมานานว่าจะกันไม่ให้ฝ่ายนิติบัญญัติเข้ามาใช้งบประมาณ เมื่อนำไปเขียนไว้ ทางส.ว.ก็ไม่สะดวกใจที่จะลงมติจึงทำให้ร่างนั้นตกไป ส่วนร่างพรรคเพื่อไทย ยกให้เป็นร่างที่ดีที่สุด เปิดให้ประชาชนได้ตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.)
อย่างไรก็ตาม เมื่อเป็นการเมือง ทางส.ว.เขาไม่เอาร่างพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว จึงตีร่างที่ดีตกไป ส่วนร่างพรรคประชาธิปัตย์ เป็นร่างที่ไม่สมบูรณ์ ไม่แก้ระบบเลือกตั้งให้ครบ แต่ปรากฏว่าร่างของพรรคประชาธิปัตย์ผ่าน จึงกลายเป็นปัญหาสืบเนื่องมาจนมีรัฐธรรมนูญ 2560 ที่ไม่สมบูรณ์ และเรากำลังจะมีร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ที่ไม่สมบูรณ์ต่อไปอีก
“เมื่อแม่ไม่สมบูรณ์ ตอนไปปรับแต่งแม่ อยากให้ได้ลูกที่สมบูรณ์กว่านั้นไปคัดเอาเซลล์เอายีนที่ดีของแม่มา แต่ปรากฏว่าหยิบพลาดมาอีก แล้วจะได้ลูกที่ดีได้อย่างไร เป็นไปไม่ได้ สุดท้ายทำอะไรไม่ได้ ต้องนำลูกไปใช้ นี่ยังไม่นับว่าหากยุบสภาตอนนี้จะเกิดอะไรขึ้น ตอนนี้เปรียบเหมือนแม่ตั้งท้องแล้ว เพราะมีร่างพ.ร.ป.มาแล้ว ล้มตอนนี้คือทำแท้งเขา สุดท้ายก็แก้พันธุกรรมแม่ไม่ได้ “นายเจษฎ์ กล่าว
นายเจษฎ์ กล่าวว่า หากออกเป็นพระราชกำหนดก็จะเถียงกันอีก เพราะรัฐธรรมนูญระบุไว้ว่าการออกพระราชกำหนดได้ แต่ประเทศนี้ไม่เคยถกกันว่าตกลงลำดับศักดิ์ว่ารัฐธรรมนูญสูงสุด พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ รองลงมา แล้วตามด้วยพระราชบัญญัติ เขียนไว้ที่ใดและเป็นเช่นนั้นหรือไม่ แต่บ้านอื่นเมืองอื่นเขาเขียนไว้ว่าชัดเจน แถมตอนปฏิวัติรัฐประหาร กลับให้พ.ร.บ.ทั้งหลายคงอยู่ แต่พ.ร.ป.ที่สืบเนื่องกับรัฐธรรมนูญกลับไปหมด แบบนี้ตลกหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงท้ายของการเสวนาได้เปิดให้ผู้ร่วมงานได้สอบถามซึ่งมีคำถามที่น่าสนใจว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ควรยุบสภาหรืออยู่ครบวาระ นายเจษฎ์ กล่าวว่า เพื่อความได้เปรียบทางการเมือง ยุบสภาฯใกล้หมดวาระ เพราะหากรอหมดวาระทุกคนรู้หมดว่าเมื่อใด เพราะฉะนั้น จะใช้เวลาที่กำลังมะรุมมะตุ้มแล้วยุบสภาฯ โดยยุบช่วงที่ได้เปรียบที่สุดและใกล้มากๆที่จะหมดวาระ ทั้งนี้ ยกเว้นกรณีเดียวคือท่านอยากเอาชนะ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่อยู่ครบวาระ 4 ปี หากยุบสภาก่อนจะไม่ได้สถิตินี้ แต่ถ้าจะชิงความได้เปรียบทางการเมืองก็ยุบใกล้ๆที่จะหมดวาระ
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี