ขนลุกซู่!!! สงครามครั้งสุดท้าย! ‘ทีมปราบมาร พปชร.’ ไปไกล ถึงขนาดต้องงัด ‘ตำราพิชัยฯ’ มารับมือ ‘ฝ่ายค้าน’ ในสภาฯซะแล้ว จัดดรีมทีม ‘ทัพหลวง-ทัพหลัง-ปีกซ้าย-ปีกขวา’ เป็น ‘องครักษ์พิทักษ์รมต.’ ยึดตามข้อบังคับ เย้ยกลับ อย่าโม้เยอะ สุดท้ายเปิดมาไม่มีอะไร

29 มิ.ย.2565 ที่รัฐสภา นายสายัณห์ ยุติธรรม ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ในฐานะผู้ทำหน้าที่ติดตามการ อภิปรายไม่ไว้วางใจ ให้เป็นไปตามข้อบังคับการประชุม หรือ “ทีมปราบมาร” ของพรรค กล่าวว่า ในการอภิปรายครั้งนี้เราตั้งชื่อว่า  "สงครามครั้งสุดท้าย" และจะใช้ตำราพิชัยสงคราม  โดยวางตัวเองเป็น“ทัพหน้า” และให้ทีมของพรรคประชาธิปัตย์เป็นปีกซ้าย ส่วนพรรคภูมิใจไทยเป็นปีกขวา สำหรับนายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคประชารัฐ ในฐานะประธานวิปรัฐบาล จะเป็นทัพหลวงและนายชินวรณ์  บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ และนายชาดา ไทยเศรษฐ์  ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย เป็นทัพหลัง ตั้งเป้าหมายไม่ปล่อยให้ฝ่ายค้านล่วงล้ำเกินกว่าข้อบังคับกำหนด

นายสายัณห์ กล่าวว่า ตนคาดหวังที่จะฟังการอภิปรายของฝ่ายค้านว่า นายกรัฐมนตรีรัฐมนตรีบริหารประเทศมากว่า 3 ปีผิดพลาดอย่างไร มีทุจริตตรงไหน หรือไม่ก้าวหน้าอย่างไร ไม่ใช่ว่าประกาศมีหมัดเด็ด แต่หลายครั้งเป็นเพียงหมัดแย็บ ขี่ม้าเลียบค่ายตลอดเวลา  เพื่อให้ประชาชนตัดสินใจต่อการบริหารงานรัฐบาล และตัดสินใจในการเลือกตั้งครั้งต่อไป   อีกทั้งในการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลสุดท้ายความจริงก็คือความจริง ว่ารัฐบาลมีผลงาน ทั้งของการพัฒนาและแนวทางแก้ไขปัญหาในช่วงสถานการณ์โควิด-19 รวมถึงการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่นายกรัฐมนตรีไปปฏิบัติภารกิจที่สหรัฐอเมริกาและประธานาธิบดีสหรัฐฯขอความร่วมมือให้ฟื้นฟูสหรัฐฯ ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของรัฐบาล

นายสายัณห์ กล่าวว่า ส่วนกรอบการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า หากอภิปราย 2 วันยังวนอยู่ในอ่าง จะขอเวลา 4-5 วันไปทำไม และ มั่นใจในการปฎิบัติหน้าที่องครักษ์พิทักษ์รัฐบาลหากทำหน้าที่เป็นตัวป่วน    ไม่เป็นตามข้อบังคับก็จะทำให้เสียคนได้เหมือนกัน แต่หากทำหน้าที่ตามข้อบังคับ เชื่อว่าประชาชนจะชื่นชมเข้าใจ ซึ่งถือว่าเป็นการโชว์คุณภาพของฝ่ายค้าน ขณะเดียวกันก็เป็นการโชว์การทำงานของรัฐบาลในคราวเดียวกัน

“ขอให้ประชาชนติดตามอย่ากระพริบตา เพราะการอภิปรายครั้งนี้น่าจะมันส์หยด ซึ่งเป็นสงครามครั้งสุดท้าย เราไม่ต้องการให้ฝ่ายค้านมาหลอกด่านายกรัฐมนตรี หรือสุภาษิตเรียกว่า "ตีหัวเข้าบ้าน" ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้น โดยในการทำหน้าที่ครั้งนี้ไม่ได้มีการพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีแต่เป็นการทำหน้าที่ตามการมอบหมายของหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐฝากไว้ และขอฝากถึงฝ่ายค้านว่าขอให้หาข้อมูลได้เยอะอย่าโม้เยอะ บอกว่ามีข้อมูลเต็มกระเป๋าแต่เปิดมาไม่มีอะไร แล้วจะอายประชาชนทั้งประเทศ” นายสายัณห์ กล่าว

-001