‘หัวหน้าเพื่อไทย’ ค้านหัวชนฝา ‘บัตรเลือกตั้งใบเดียว‘ ซัดทำลายระบบปชต. เตรียมเข้าชื่อยื่น ‘ปธ.สภาฯ‘ ส่งศาลรธน.วินิจฉัยปม ‘นายกฯ 8’ ปี 17 ส.ค.นี้

เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2565 ที่รัฐสภา นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. เปิดประชุมได้หรือไม่ เพราะมีชื่อผู้เข้าร่วมประชุมยังไม่ครบ ว่า  มีการขอเวลาจากที่ประชุมวิปสามฝ่าย เพื่อให้เปิดประชุมในเวลา 10.00 น.  และถ้าหากองค์ประชุมไม่ครบก็เป็นวิธีการทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติ  ซึ่งถือเป็นอีกกลไกหนึ่ง แต่หากการประชุมไม่ครบก็จะต้องกลับไปใช้ร่างของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ที่เป็นสูตรคำนวนส.ส.บัญชีรายชื่อหาร 100 ซึ่งพ้นไปจากวันนี้ประธานสภาจะนำส่งกกต. ซึ่งกกต.มีเวลา 10 วันในการทักท้วง และและความเห็นว่าสามารถปฏิบัติได้หรือไม่ คาดว่าเป็นร่างของกกต.เองไม่น่าจะมีข้อทักท้วง  ซึ่งหากไม่มีข้อทักท้วงก็นำส่งให้นายกฯเพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ  แต่ในระหว่าง 5 วันอาจมีสมาชิกเข้าชื่อร้องศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยความชอบของรัฐธรรมนูญได้  ซึ่งความเสี่ยงของการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมีความเสี่ยงน้อย เมื่อเทียบกับการจะส่งในแบบการหาร 500 เพราะการหาร 500 อย่างไรก็ตาม ถือว่าขัดรัฐธรรมนูญ แต่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยเป็นอื่นไม่ได้ ซึ่งเชื่อว่าสูตรหาร 500 จะคว่ำกลางสภาในวันนี้ แต่ถ้าหากการลงมติคะแนนเกินจะต้องไปตกที่ศาลรัฐธรรมนูญ

เมื่อถามถึงแนวโน้มกลับไปใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียวเป็นไปได้หรือไม่เวลาของสภาที่เหลืออยู่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ความเป็นไปได้ขึ้นอยู่กับเสียงข้างมากเพราะสมัยประชุมสมัยนี้ จะหมดในวันที่ 19 ก.ย.นี้ และจะไปเปิดสมัยประชุมอีกครั้งในวันที่ 1 พ.ย.ยาวไปถึงวันที่ 28 ก.พ.2566  ซึ่งหากจะแก้ไขธรรมนูญให้เป็นบัตรใบเดียวก็สามารถทำได้ ทั้งนี้ในอุดมการณ์และหลักการการแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องการเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย แสดงเจตนารมณ์มาโดยตลอดว่าระบบเลือกตั้งจะต้องสะท้อนการมอบอำนาจของประชาชน ถือเป็นเรื่องที่ดีที่สุด อะไรที่ซับซ้อนและเกิดการบิดเบือน บิดเบี้ยวก็ไม่สะท้อนการมอบอำนาจให้ประชาชนไม่ว่าจะเป็นบัตรเลือกตั้งแบบไหน ซึ่งประสบการณ์การใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียวมีให้เห็นแล้ว จัดสรรปันส่วนผสมแบบเดิมเป็นเครื่องชี้ชัดว่าเป็นการทำลายระบบรัฐสภา และทำลายระบอบประชาธิปไตยอย่างชัดเจน พรรคเพื่อไทยคัดค้านและไม่เห็นด้วยหากจะใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว แต่ถ้าหากจะกลับไปจะต้องมีกติกามารองรับในเรื่องวิธีการคำนวณ

นพ.ชลน่าน กล่าวถึงการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครบ 8 ปีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่า เห็นว่าดำรงตำแหน่งเกิน 8 ปีไม่ได้ แม้ว่าจะดำรงตำแหน่งติดต่อกันหรือไม่ เพราะไม่มีบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญใดมีข้อยกเว้นถ้าไม่ให้นับย้อนหลัง ในบทเฉพาะกาลจะต้องเขียนให้ชัด ทั้งนี้ ในวันที่ 17 ส.ค.พรรคร่วมฝ่ายค้านจากเข้าชื่อยื่นต่อประธานสภา เพื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยการพ้นจากตำแหน่งนายกฯ ตามแล้วธรรมนูญมาตรา 158 วรรคสี่ ประกอบรัฐธรรมนูญ 170 วรรคสอง และเพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งขณะนี้กำลังขอนัดหมายจากประธานอยู่

นพ.ชลน่าน ยังกล่าวต่ออีกว่า หากจะมีการยุบสภาในช่วงนี้ถือว่ามีความสุ่มเสี่ยง เพราะไม่มีกฎหมายเลือกตั้ง และทำให้มีการเลือกตั้งไม่ได้ ซึ่งนายกฯก็จะทำหน้าที่รักษาการยาวได้ และเมื่ออยู่ยาวจะนำไปสู่การผูกขาดอำนาจทางการเมืองและวิกฤติทางการเมืองจะตามมาและสุดท้ายเกิดการต่อต้านจากประชาชน

- 004