“จตุพร-นิติธร”ออกโรงชม“โน้ส-อุดม” เดี่ยว-13 พูดจริง ถูกเวลา มีเหตุผล เปลือยกายนายกฯ 8 ปีล่อนจ้อน เตือนติ่งกองเชียร์ “ประยุทธ์” ตอบโต้เลอะเทอะ อย่าขาดสติรักชอบจนเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์แตะต้องไม่ได้ สวนหมัด"ศรีสุวรรณ" อยากมีเรื่องมาเจอ“นกเขา” ซัดนายกฯ นำงบ 50 ล้านแบล็กเมล์ รมต. ชี้ควรเร่งตรวจสอบให้กระจ่าง เย้ยเพื่อไทยชงเศรษฐาแข่งนายกฯ พลิกประเทศสำเร็จไม่ได้ ระบุแค่ด่านยุทธศาสตร์ 20 ปีก็จบเห่แล้ว ย้ำเร่งร่วมมือ ปชช.แก้ รธน.ก่อนเลือกตั้ง
เมื่อ 14 ต.ค.2565 นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายนิติธร ล้ำเหลือ คณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์"ประเทศไทยต้องมาก่อน" มี อรุโณทัย ศิริบุตร ดำเนินรายการ กรณีปรากฏการณ์ทอล์คออฟเดอะทาวน์ "โน้ส-อุดม แต้พานิช" เดี่ยวไมโครโฟน 13 โดยกล่าวเตือนกองเชียร์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ว่า อย่าแสดงความเห็นเลอะเทอะเพื่อปกป้องนายกฯ ขอให้ใช้เหตุและผล เพราะสิ่งที่โน๊ตพูดคือ ข้อเท็จจริงที่เป็นมากว่า 8 ปีภายใต้การบริหารประเทศของนายกฯที่ชื่อ พล.อ.ประยุทธ์
นายจตุพร กล่าวว่า ความจริง พล.อ.ประยุทธ์ เป็นคนชอบพูด พูดทุกวันและพูดมาก แล้วพูดแขวะโน๊ตมาก่อน เมื่อโน๊ตพูดเดี่ยว-13 ในช่วงนายกฯ 8 ปี จึงถูกเวลา และใช้เวลาไม่กี่นาทีก็ขยี้ 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ จนวายวอดหมด แทบเรียกว่า เปลือยกายล่อนจ้อน เห็นทุกอนูขุมขนชัดเจน นอกจากนี้ ฝ่ายกองเชียร์ พล.องประยุทธ์ พยายามปกป้อง โดยเอาตรรกตามหลังจึงไม่เป็นเหตุผล เพราะพล.อ.ประยุทธ์ ทำผิดหน้าที่มาตลอด แล้วยังกล้าเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจโดยไม่รู้ตัวเอง
“โน้สพูดเอาข้อเท็จจริงมาพูด จึงทำให้ฝ่ายประยุทธ์รู้สึกว่าเสียการเมือง เมื่อหนักข้อขึ้นทำเหมือนประยุทธ์เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์แตะต้องไม่ได้ ดังนั้น ปรากฎการณ์ของประยุทธ์ที่โน้สพูดถึงยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่มืดมิดตั้งแต่วันแรกและคนรู้สึกไม่เห็นความหวัง คือข้อเท็จจริง”
ส่วนนายศรีสุวรรณ จรรยา นักร้องเรียนนั้น ตอนหลังตนมักเห็นร้องเรียนแบบกวนตีนสังคมมากกว่า คือ ทวนกระแสสังคม เช่นกรณีผู้ว่าชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เมื่อสังคมชอบจึงเป็นทำตัวเป็นฝ่ายตรงข้าม และกรณีโน้สพูด ไม่เข้าข่ายความผิดตามกฎหมาย และพูดความจริงทุกอย่าง ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่คนไทยเห็นรับรู้มา จนขณะนี้กลายเป็นความสิ้นหวังกับ พล.อ.ประยุทธ์
"ดังนั้น การผูกขาดความชอบผู้บริหารแบบขาดสติ ถ้าคนที่ชอบไปทำระยำตำบอนอย่างไรก็ชอบ เพราะเป็นคนที่ชอบ ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งจะทำดีอย่างไรก็ไม่ชอบ สิ่งนี้มันใช้ความเป็นอคติตัดสินคน ซึ่งมนุษย์มีทั้งผิดและถูก แต่วันนี้กองเชียร์ทุกฝ่ายทั้งฝ่ายประยุทธ์ และฝ่ายค้าน ฝ่ายทักษิณ (ชินวัตร) ควรเอาเรื่องผิด-ถูกที่เป็นความจริงมาพูด มิฉะนั้นเรากำลังสร้างคนไม่ให้มีความเป็นมนุษย์ แล้วสังคมนี้จะหาความจริงไม่ได้เลย กองเชียร์ประยุทธ์ ต้องฟังผม ประยุทธ์ไม่ได้ทำถูกทุกเรื่อง แต่ทำไม่ถูกเป็นส่วนใหญ่" นายจตุพร ตำหนิ พร้อมเตือนสติกองเชียร์ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งแสดงความชอบอย่างไม่ลืมหูลืมตา
นายจตุพร กล่าวว่า ในข้อเท็จจริง คือ พล.อ.ประยุทธ์ ยึดอำนาจประเทศมา แล้วทำ รธน. ใช้งบประมาณบริหารกว่า 30 ล้านล้าน ตั้งองค์กรอิสระครบถ้วน เมื่อโน๊ตบอกว่า โปร่งใส แต่ไม่ให้ตรวจสอบ จึงเป็นความจริง เพราะช่วง 8 ปีนั้น รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ มีการผสมระหว่างนักการเมืองสีเทาค่อนดำกับทหารแก่มารวมตัวกัน ทั้งที่นักการเมืองสีเทาพวกนี้ไปอยู่รัฐบาลไหนคนจะได้กลิ่นทุจริตคอร์รัปชั่น แต่ 8 ปีผ่านมา ครม.ผสมสีเทาค่อนดำนี้ ยังไม่เคยถูกดำเนินคดีแม้แต่คนเดียว
"กรณีเงิน 50 ล้านเบิกไปช่วยเกษตรกรปลูกใบยาสูบนั้น และไม่ถึงมือเกษตรกร แต่ประยุทธ์ ให้ประวิตร (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ) ไปตรวจสอบ ถ้าประยุทธ์มีความซื่อสัตย์ มีความโปร่งใสจริง ต้องลงมือเอง เพราะคนเป็นนายกฯต้องปฏิบัติการตรวจสอบเชิงลับแล้ว ว่าใครเบิกเงิน และเบื้องต้นต้องจัดการ รมต. ไม่ใช่แต่อยากตบสั่งสอนทางการเมือง เนื่องจากเงิน 50 ล้านเป็นงบประมาณแผ่นดิน แล้วประยุทธ์พูดก็ยังไม่เห็นว่า ได้ทำอะไรอีก ทั้งที่เป็นเรื่องใหญ่มาก เอามาล้อเล่นไม่ได้" พร้อมย้ำว่า สิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ พูดเงิน 50 ล้านนั้น เป็นแค่การปรามทางการเมือง ราวกับจะบอกว่า อย่าทิ้งกันนะ เพราะข้ามีของกำไว้เปิดนะ และกลับเอาเรื่องนี้มาแบล็กเมล์ มาใช้ข่มขู่ ข่มขวัญ จึงใช้ไม่ได้
ดังนั้น สิ่งที่ต้องคิดถึงชะตากรรมต่อไปนี้ คือโน๊ตพูดเป็นเรื่องใหญ่ของประเทศ แต่ลิ่วล้อกลับมาทำเรื่องกวนตีนสังคมกันอีก ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จะพังกับเรื่องเช่นนี้เสมอ ส่วนคนเก่ง ดี ซื้อสัตย์นั้น ไม่หมายความว่า เก่งทุกเรื่อง นายกฯ ก็ไม่ได้เก่งทุกกระทรวง หลักการเป็นนายกฯ คือ การบริหารคนให้เป็น ใช้คนให้ถูกกับงาน ต้องไม่เป็นคนอวดรู้ แต่เรื่องใดไม่รู้ต้องเอาคนที่รู้เข้ามา
ส่วนพรรคเพื่อไทย ชูนายเศรษฐา ทวีสิน นักธุรกิจคนสำคัญด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นแคนดิเดตนายกฯ ไม่ได้เป็นคำตอบว่า จะเป็นผู้นำทำความสำเร็จกับประเทศ แต่สิ่งสำคัญคือ ผู้นำประเทศต้องเข้าใจถึงการรักษาผลประโยชน์ชาติ กล้าในการตัดสินใจ เลือกคนให้ตรงกับงานมาบริหาร ต้องควบคุมไม่ให้เกิดทุจริตขึ้น และต้องยึดมั่นผลประโยชน์ให้ประเทศไทยต้องมาก่อน
นอกจากนี้ นายจตุพร สงสัยสถานการณ์ประเทศในอนาคตว่า จะได้เลือกตั้งจริงหรือไม่ พร้อมมั่นใจว่าถ้าใช้ รธน. 60 ก็นำทางประเทศไม่ได้ ให้มีร้อยนายเศรษฐาก็ทำไม่ได้ เพียงแค่ด่านยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ก็ไม่รอดแล้ว โดยไม่ต้องคิดเรื่องอื่นเลย ดังนั้น ก่อนเลือกตั้งพรรคการเมืองต้องมุ่งแก้ รธน. 60 ให้เป็นกติกาของประชาชน เพื่อทุกพรรคและยึดมั่นประเทศ
ด้านนายนิติธร กล่าวว่า สังคมขณะนี้เป็นสังคมจิตอ่อน แบ่งพรรคแบ่งพวก เป็นการชื่นชอบทางการเมืองแบบไม่มีเหตุผล บ่งชี้สัญญาณบ้านเมืองจะเกิดอาเพศ ยิ่งช่วงกว่า 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ มีพฤติกรรมแบบชังชาติให้ย้ายประเทศเกิดขึ้นบ่อยมาก
โดยเฉพาะ สภาพของผู้นำที่ผู้ใต้ปกครองเยาะเย้ย ถากถางเสียดสี จำเป็นต้องพิจารณาตัวเองได้แล้ว เพราะแสดงถึงการบริหารล้มเหลว อย่างไรก็ตามกรณีของโน้สเป็นเรื่องปกติ แต่ตนไม่เข้าใจกองเชียร์หรือติ่งพวกนี้น่าจะทำให้เป็นเรื่องนี้เป็นปกติของสังคม เนื่องจากการพูดของโน๊ตไม่ร้ายแรง และ พล.อ.ประยุทธ์ คงไม่เครียดเหมือนติ่งที่คอยปกป้องก็ได้
"สิ่งที่โน้สพูด ถ้าใส่สาระแล้วจะเห็นว่า สังคมมั่ว ทั้งที่โน้สบอกว่า คนเก่งอาจไม่ใช่คนดีก็ได้ แต่การเลือกผู้นำมานำทิศทางถ้าได้ทั้งเก่งและดี มันก็ดี ถ้าหาไม่ได้จึงเอาคนดีมา แล้วบอกว่าอะไรก็ได้ขอซื่อสัตย์ไว้ก่อน ก็ฉิบหาย ประเทศก็แย่ เพราะคนดีพวกนี้จะมีอัตตาสูง ผมว่าคำถามจะพากูไปไหน ประชาชนก็อยากรู้ เมื่อคุณเป็นรัฐบาลจะพาประเทศไปตรงไหนอย่างไร”
พร้อมสงสัยกองเชียร์ พล.อ.ประยุทธ์ และถามว่า คนเก่ง ดี และผู้ชำนาญนั้น เป็น 3 คนหรือไม่ หรือคนเดียวกัน โดยตัด พล.อ.ประยุทธ์ ออก อีกอย่างถ้าไปเถียงว่า สิ่งที่โน้สพูดเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า ที่แน่คือ โน้สไม่ได้พูด แต่พวกเถียงแทนกลับยอมรับว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็น รปภ.หรืออย่างไร จึงไม่รู้รักพล.อ.ประยุทธ์ หรืออะไรกันแน่
ส่วนระบุว่า รปภ.มาขับเครื่องบินในช่วงเกิดสงครามการเมืองนั้น นายนิติธร ถามกลับว่า ช่วงนั้นเกิดสงครามขึ้นหรือจะเกิดสงครามหรือยัง เสื้อแดงใช้อาวุธ และเสื้อเหลืองตาย 79 คนหาเจอกันหรือยัง ก็ปั่นกันไปเรื่อย ไม่หาข้อเท็จจริง ซึ่งบางเรื่องอาจสร้างขึ้นมาก็ได้ แล้วที่โน๊ตพูดเก่ง ดี ชำนาญ ผิดตรงไหน
"จะเชียร์ผมไม่ว่า แต่อย่าตอแหล อย่ามาจริตจะก้าน อย่ามาประดิษฐ์ถ้อยคำใส่ สิ่งที่คุณยกขึ้นมามันไม่เข้ากับเรื่องที่โน๊ตพูด มันไปคนละทาง ส่วนศรีสุวรรณ (จรรยา) บอกเดี๋ยวเจอกัน แล้วนัดกับเขา (โน้ส) หรือยังละ”
ในแง่ข้อกฎหมายนั้น นายนิติธร กล่าวว่า เรื่องที่โน้สพูดยังไม่มีอะไรเข้าข้อกฎหมายเลย ตนอยากให้ศรีสุวรรณ เบาหน่อย เพราะไม่ใช่เรื่องขอคอขาดบาดตาย แก่แล้วความรู้ก็มี แต่ทำตัวเลอะเทอะ อยากเจอกับโน้สก็โทรไปนัด อย่ามาเปิดทางโชเชียลราวกับขู่กัน เป็นนักเลงหรืออย่างไร
"ศรีสุวรรณ ถ้าชอบมีเรื่องก็มาหานกเขา (นิติธร) ไม่ต้องไปหาโน้ส ที่โน้สพูดมามันผิดตรงไหน มันเรื่องจริงทั้งหมด เมื่อทำไม่ได้ ประชาชนจะตัดสินใจ ส่วนเซลล์สมอง 8.4 หมื่นนั้น ประยุทธ์ ก็พูดเอง แล้วอาสากู้ชาติมาหลายชาติ ล่าสุดกู้เงินญี่ปุ่น แล้วต้องให้ประชาชนมาช่วยผ่อนหนี้กว่า 10 ล้านล้านอีก ซึ่งล้วนเป็นความจริง"
กรณีเบิกเงิน 50 ล้านบาท ไปช่วยเกษตรกรปลูกยาสูบแต่เงินยังไม่ถึงมือนั้น ตนมีข้อเท็จจริงของเกษตรกรยาสูบ ซึ่งเป็นเรื่องที่ร้ายแรงมาก เพราะรัฐรับซื้อในราคาครึ่งเดียวและซื้อผลผลิตเพียงครึ่งเดียวด้วย โดยปี 2566 จะลดเหลือเพียง 25% ด้วย ทำให้ครอบครัวเกษตรกรเดือดร้อนเป็นแสนครอบครัว แต่คนกลุ่มนี้เงียบตลอดมา เพราะไม่มีพลัง อีกทั้งเกษตรกรเพชรบูรณ์ ยังเดือดร้อนการขยายใช้พื้นที่มาให้ทำเหมืองทองคำ ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ต้องควรเอาเวลาแขวะโน๊ตไปหาข้อเท็จจริงเงินเบิก 50 ล้านจะดีกว่า อย่ามาจะเป็นจะตายกับคำพูดของโน๊ต
นายนิติธร กล่าวถึงนายเศรษฐาว่า แค่ได้ยินชื่อ ทำให้ตนนึกไปถึงชื่อยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แล้วลามไปถึงกรณีโฟร์ซีซั่น และชื่อเอกยุทธ อัญชันบุตร สิ่งเหล่านี้จะกลายเป็นจุดอ่อนของพรรคเพื่อไทย และจะเกิดปรากฎการณ์ความขัดแย้งกัน ขณะเดียวกัน ถ้าไม่จัดการกับ 3 ป.ไม่แก้ รธน. ประเทศก็เข้าสู้วิกฤตเหมือนกันอีก
"ปัญหาของประเทศขณะนี้ คน 750 คนอยู่ในสภา ลองคิดหน่อยว่า ค่าไฟฟ้า ที่ควรต้องจ่ายและไม่ควรจ่ายจะทำอย่างไร ราคาน้ำมันจะทำอย่างไร ทองคำทำอย่างไร สิ่งเหล่านี้ 750 คนในสภาช่วยตอบหน่อย และพรรคจะลงเลือกตั้งเอาเรื่องนี้มาพูดให้ฟังหน่อย มันมี (แนวทางแก้ปัญหา) หรือไม่"
-001
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี