ต้องทำงานการเมืองให้ถูกต้อง
จุดยืน‘บิ๊กตู่’
ยึดสุจริตโปร่งใสและเป็นธรรม
ทำให้เป็นผล/ไม่ใช่มาทำเล่นๆ
‘พท.’เดินหน้าแผนแลนด์สไลด์
เปิดตัว57ผู้สมัครสส.กระหึ่ม
ภท.บุกยึดภูเก็ตหวังปักธง3สส.
นายกฯประยุทธ์ ลั่นต้องทำงานการเมืองให้ถูกต้อง ชี้ทำการเมืองบน 3 อำนาจ “บริหาร-นิติบัญญัติ–ตุลาการ” สุจริต โปร่งใส และเป็นธรรม ชี้เป็นของเดิมที่มีแต่ไม่ทำกัน
ย้ำไม่ใช่มาทำเล่นๆ นายกฯให้กำลังใจผู้พิการสร้างอาชีพสู้ชีวิต ฝากคนครบ 32 ทำสิ่งดีงามที่ถูกต้องบ้าง ยันรัฐบาลไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง บอกทำกุศลกับคนเป็น ชีวิตจะมีความสุขด้าน “เพื่อไทย” รุก “แลนด์สไลด์” เปิดตัว 57 ผู้สมัครเลือกตั้ง สส.ภาคเหนือตอนล่าง-ภาคกลาง มั่นใจเปิดครบ400 เขตสิ้นปีนี้ ส่วน “ภูมิใจไทย” ส่ง แม่ทัพหญิง “นาที รัชกิจประการ” นำยึดพื้นที่ภูเก็ต เปิดตัว 3 ผู้สมัคร สส.อ้อนขอชาวภูเก็ตเทคะแนน
เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม2565 เวลา10.00 น.ที่อาคารรัฐประศาสนภักดี(อาคาร B)ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “วันคนพิการสากล ประจำปี 2565” และมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ ให้แก่คนพิการต้นแบบ และหน่วยงาน องค์กร ที่สนับสนุนงานด้านคนพิการ ประจำปี 2565
โดยนายกฯกล่าวว่า วันนี้ได้เห็นบรรยากาศท่ามกลางพวกเราจำนวนมากมีทั้งคนต่างประเทศ คนไทย ถือเป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่ง ซึ่งเป็นหน้าที่รัฐบาลที่จะต้องดูแลให้มากที่สุด ติดตามมาตลอด วันนี้มีความสุขมีความสบายใจ เป็นเกียรติ ที่ได้มาเปิดงานคนพิการสากลประจำปี 2565 ขอชื่นชมที่ได้เห็นศักยภาพคนพิการหลายท่าน หลายกลุ่มหลายอาชีพที่แสดงออกทั้งในส่วนของตนเองและผู้สนับสนุนต่างๆทั้งเอกชน ภาคธุรกิจ ซึ่งบางทีมีกฎระเบียบเยอะ
“ส่วนสำคัญสุด ไม่มีใครแก้ปัญหาได้โดยลำพัง ทั้งรัฐบาล ภาคเอกชน ทุกกลุ่ม ทุกคนทุกฝ่ายต้องช่วยกันค่อยๆเดินไปข้างหน้าจะเร็วขึ้น หลายๆท่านตนเห็นแล้วสู้ชีวิตจริงๆ วันนี้เป็นวันที่ เห็นแล้วรู้สึกตื้นตันเมื่อมาเจอ แม้พวกท่านมีโอกาสน้อยแต่พยายามสู้ชีวิตมาจนถึงวันนี้ ไม่ใช่จะได้มาง่ายๆคนที่มีครบ 32 ไม่ทำแบบเขาบ้าง ทำสิ่งดีๆงามที่ถูกต้อง ผมขอแค่นั้น”นายกฯย้ำ
บอกให้ทุกคนต้องเข้มแข็ง
นายกฯกล่าวว่าในส่วนนี้ใจเข้มแข็ง ความพิการ ไม่ใช่อุปสรรค แต่ถ้าเราได้รับการดูแลซึ่งกันและกันคิดว่าเขาอยู่ได้ คนปกติก็เผื่อแผ่ให้กำลังใจช่วยเหลือในทุกโอกาสที่เขาทำได้เพื่อก้าวไปสู่ความสำเร็จ วันนี้เราพยายามสร้างโอกาส สร้างความเสมอภาคเท่าเทียมให้ทุกคนทุกฝ่าย มุ่งไปสู่การเป็นสังคม สู่โอกาสหรือสังคมแห่งโอกาสของพวกเราทุกคน เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เรามีคนตั้ง 70 ล้านคน วันนี้ยอดประมาณ3ล้านกว่าเป็นคนพิการ ถือเป็นสัดส่วนที่มากพอสมควร คือไม่อยากให้มีคนพิการ ซึ่งก็มีอย่างอื่นมาเพิ่ม ทั้งสังคมผู้สูงวัย เพราะทุกคนแข็งแรงขึ้น อายุยืน อยู่นานขึ้น ซึ่งระบบสุขภาพเราก็ทำได้ดีขึ้น ทำอย่างไรจะเป็นประโยชน์ให้กับตัวเองและประเทศชาติ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ยกระดับคนพิการคือการขึ้นทะเบียนคนพิการเพื่อพัฒนาให้รวดเร็วขึ้น ทั้งนี้เพื่อให้ทุกท่านได้รับสวัสดิการครอบคลุมอย่างทั่วถึง
ช่วงนี้เราได้มีการทบทวนแก้ไขระเบียบให้สามารถเข้าถึงระเบียบได้รวดเร็วขึ้น การพัฒนาศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จซึ่งมีการจัดนำร่องอย่างน้อยจังหวัดละ 1 แห่ง สามารถเลือกรับสิทธิ์สวัสดิการผ่านบัตรดิจิตอล นอกจากนี้ส่งเสริมให้คนพิการมีงานทำกว่า 70,000ราย ปรับปรุงคุณภาพที่อยู่อาศัย 30,000 กว่าราย ซึ่งรัฐบาลได้เริ่มมาแล้ว และจะทำให้ดีมากขึ้นเรื่อยๆขอแสดงความยินดีกับคนพิการต้นแบบและหน่วยงานที่ได้รับรางวัลในการสนับสนุนคนพิการที่ร่วมกันส่งเสริมคนพิการให้ได้รับประโยชน์อย่างเท่าเทียม เราจะทำให้ดีขึ้น วันพรุ่งนี้ต้องดีกว่าวันนี้ อาทิตย์หน้าต้องดีกว่าอาทิตย์นี้ ปีหน้าต้องดีกว่าปีนี้ นั่นคือสิ่งที่ตนตั้งใจทำงานด้วยความร่วมมือของรัฐบาลทุกท่านเราทำงานเพื่อประชาชน เพื่อประเทศชาติ นั่นคือ หลักการของรัฐบาล ไม่ได้มุ่งหวังอะไรทั้งสิ้น ยินดีที่ได้เห็นรอยยิ้มหลายๆท่านในวันนี้
ย้ำไม่มีการทิ้งใครไว้ข้างหลัง
“ผมถึงสะท้อนใจว่าถ้าคนปกติไม่ทำอะไรเลย คิดว่าใช้ไม่ได้ เขายังมีกำลังใจในการที่จะทำนู่นทำนี่หาอาชีพบางคนเป็นข้าราชการ รับราชการ บางคนทำงานบริษัท ขอชื่นชมจริงๆด้วยใจจริง ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคอะไรทั้งสิ้น ขอบคุณบรรดาผู้ประกอบการร้านค้า อุตสาหกรรมต่างๆที่ได้ดูแลช่วยเหลือรัฐบาลในการดูแลคนเหล่านี้ การทำเพื่อคนทำให้คนมีความสุข มีความเป็นอยู่ที่ดี ท่านได้กุศล วันนี้เรามีทั้งบุญและกุศล บุญก็ทำทางศาสนา พระ วัดว่ากันไป นี่คือกุศลทำให้คนเป็น ทำให้คนที่มีชีวิตในวันนี้อยู่ได้ นั่นคือกุศล เพราะผมก็ตั้งใจแบบนี้ ทำกุศลให้คนอื่น เราจะได้ไปด้วยกันได้ ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ขอฝากเอาไว้ด้วยแล้วกัน” นายกฯย้ำ
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ เดินเยี่ยมชมภายในงาน โดยให้กำลังใจบูทของผู้พิการต่างๆที่มาแสดงผลงานในบริเวณงาน ก่อนที่จะร่วมถ่ายติ๊กต็อกด้วย
ยึดทำงาน สุจริต-โปร่งใส
ต่อเวลา 11.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดงาน “วันคนพิการสากล ประจำปี 2565” และมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ ให้แก่คนพิการต้นแบบ และหน่วยงาน องค์กรที่สนับสนุนงานด้านคนพิการ ประจำปี 2565 ว่าวันนี้ส่งกำลังใจให้คนพิการทั้งหมด ขอบคุณทุกภาคส่วนและภาคเอกชนที่รับคนพิการเข้าทำงาน แม้จะพิการส่วนใดส่วนหนึ่งแต่สมองก็ยังดี ก็ขอเป็นกำลังใจ
จากนั้นผู้สื่อข่าวถามว่าได้มอบหมายงานให้ นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในด้านใด พล.อ.ประยุทธ์ มองหน้า แต่ไม่ตอบคำถามแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวถามว่าที่นายกฯบอกทำการเมืองแต่ไม่เล่นการเมือง ในความหมายคืออะไร พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ทำการเมืองให้ถูกต้อง สุจริต โปร่งใส เป็นธรรม ให้เป็นผลเป็นรูปธรรม ไม่ใช่มาทำเล่นๆเข้าใจไหม เล่นเขาใช้ไปทำอย่างอื่น เขาเรียกว่า ทำงาน คือ ทำการเมือง ซึ่งวันนี้มี 3 อำนาจ คือ ฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ และอำนาจตุลาการ แล้วจะเล่นตรงไหนได้ล่ะ”
เมื่อถามว่านายกฯจะเป็นการทำการเมืองแบบใหม่ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ไม่ใช่แบบใหม่ แต่มันเป็นหลักการที่ต้องทำให้ได้อย่างนี้ แต่ไม่ทำกันเอง”
‘ธนกร’เข้าทำงานทำเนียบวันแรก
ก่อนหน้านี้ เวลา 07.45น.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าสักการะท้าวมหาพรหม บนตึกไทยคู่ฟ้า และศาลพระภูมิ และศาลตายาย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล เพื่อเป็นสิริมงคล ก่อนเข้าปฎิบัติงานเป็นทางการวันแรก
จากนั้นนายธนกรให้สัมภาษณ์ว่าไม่ได้ถือฤกษ์ในการทำงานวันแรก ปกติเวลาทำงานที่ไหนหรือมีอะไรใหม่เข้ามาในชีวิต จะโทรศัพท์ถามแม่ ซึ่งแม่ให้คำแนะนำว่า วันดีที่สุด คือ วันพฤหัสบดี และได้ให้พรให้ทำหน้าที่ให้กับประเทศชาติและประชาชน และวันนี้ เป็นฤกษ์ดีที่เข้ามาทำงานวันแรก ต้องขอบคุณพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม รวมถึงพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ให้โอกาสและเมตตาตนมาตลอด
นายธนกร กล่าวว่า สำหรับการเข้าทำงานในวันแรกวันนี้ นายกฯยังไม่ได้มอบหมายงานอะไร แต่จะทำงานให้ดีที่สุด แม้ว่าเวลาที่เหลือของคณะรัฐมนตรีจะครบวาระในเดือนมีนาคม 2566 จะใช้เวลาที่เหลือให้มีค่าที่สุดในการทำงานรับใช้ประชาชน
เมื่อถามว่าได้คุยกับนายกฯอย่างไรบ้างก่อนที่จะได้รับตำแหน่ง เนื่องจากเก้าอี้นี้เป็นโควต้าของนายกฯ นายธนกร กล่าวว่า สื่อจะถามตลอดว่าอยู่ตรงไหน ความจริงแล้ว ไม่เคยไปไหนก็อยู่กับนายกฯมาตลอดตั้งแต่เป็นโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แม้เป็น ส.ส.ก็ยังมาแวะเวียนพูดคุยและหารือกับนายกฯโดยนายกฯด้แนะนำการทำงานตลอด ถือได้ว่าเป็นคนที่นายกฯให้ความเมตตาให้มาทำหน้าที่ตรงนี้โดยดูจากองค์ประกอบหลายๆอย่าง
ปัดปูทางสานต่อ‘บิ๊กตู่’ขึ้นนายกฯ
เมื่อถามว่าได้รับแบ่งงานให้มากำกับดูแลสื่อหรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า ไม่แน่ใจ แต่ไม่ว่างานตรงไหนก็ทำได้โดยช่วงเวลานี้จะลงพื้นที่ในทำงานที่ได้รับมอบหมายให้มากขึ้น เพราะหลายพื้นที่สถานการณ์ต่างๆเริ่มดีขึ้น เศรษฐกิจฟื้นตัวโดยเฉพาะการท่องเที่ยว ดังนั้นวันหยุดจะไปต่างจังหวัดบ่อยๆเพื่อให้เห็นว่าสิ่งที่นายกฯดำเนินนโบายกำลังออกดอกผล และประเทศฟื้นตัวแล้ว จึงต้องเดินหน้าทำในสิ่งที่นายกฯมอบหมาย ต่อไป
เมื่อถามว่ามีข้อสังเกตว่าการทำงานหน้าที่ของนายธนกร เป็นการปูทางการเมืองให้นายกฯที่จะไปทำงานให้พรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) นายธนกร กล่าวว่า คงไม่เกี่ยวกัน เพราะนายกฯบอกแล้วยังมีเวลา ไม่รีบตัดสินใจ ขอย้ำว่าตนไม่เคยไปไหน และอยู่กับนายกฯมาตลอด
เมื่อถามย้ำว่าหากนายกฯไปไหนจะตามไปด้วยใช่หรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า แน่นอน ตรงไหนที่ทำงานแล้วมีความสุขก็ไป และเชื่อมั่นว่าพล.อ.ประยุทธ์ เป็นคนนักชาติ บ้านเมือง ประชาชน และเทิดทูนสถาบันสิ่งเหล่านี้ตนสัมผัสกับนายกฯมาและได้เห็นถึงหัวใจที่จะทำงานให้ประชาขนอย่างเต็มที่ เชื่อว่าประชาชนคาดหวังกับพล.อ.ประยุทธ์ ได้แน่นอน และต้องให้ความเป็นธรรมว่าตลอดเวลาที่นายกฯทำงานให้ประชาชน มีผลงานเกิดขึ้นมาก
เมื่อถามย้ำว่าการทำงานใกล้ชิดและปกป้องนายกฯจนมีข้อสังเกตว่าการได้เป็นรัฐมนตรี เป็นการปูนบำเหน็จของนายกฯ นายธนกร กล่าวว่า ไม่ใช่ นายกฯเป็นคนเก่งและดี คงไม่ได้ดูว่าจะแต่งตั้งใครมาปกป้องเท่านั้น ไม่เกี่ยวกัน แต่คงมองหลายมิติและเห็นว่าตนทำงานให้ประเทศได้ แม้เป็นรัฐมนตรีแต่ก็ยังทำงานในสภาในฐานะสส.อีกด้วย
4สส.ใต้ พปชร.เข้าพบ‘ธนกร’
ต่อมา เวลา 09.55 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้มีส.ส.ใต้ พรรคพลังประชารัฐ 4 คน ที่มีชื่อจะย้ายไปอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)ได้แก่นายพยม พรหมเพชร นายศาสตรา ศรีปาน ร.ต.อ.อรุณ สวัสดี ส.ส.สงขลา และนายอาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ส.ส.นครศรีธรรมราช เดินทางมาแสดงความยินดีกับนายธนกร ที่ห้องทำงาน
โดยธนกรเปิดเผยว่าส.ส.ที่มาพบวันนี้ เป็นคนสนิทกัน และยังทำหน้าที่ส.ส.พรรคพลังประชารัฐอยู่ที่มาวันนี้ ก็มาชวนลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชน ซึ่งตนต้องรอให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม มอบหมายงานก่อน เมื่อถามว่าส่วนที่มีข่าวว่าส.ส.ที่มาพบในวันนี้ได้ไปพบและพูดคุยกับนายกฯ นายธนกร กล่าวว่า ปกติตนก็ไปพบนายก ฯ บ่อยอยู่แล้ว ถ้านายกฯ สะดวกให้ไป ก็คุยกันตามปกติ คุยกันเรื่องพื้นที่สะท้อนปัญหาของประชาชนให้นายกฯ รับทราบ
‘เพื่อไทย’เปิดตัว57ผู้สมัครชิงส.ส.
ที่พรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา เลขาธิการพรรคเปิดตัวผู้ซึ่งประสงค์จะสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. พรรคเพื่อไทย ภาคเหนือตอนล่าง 5จังหวัด จำนวน 25 คน และภาคกลาง 12 จังหวัด จำนวน 32 คน รวมจำนวน 57 คน ได้แก่
าคเหนือตอนล่าง จ.นครสวรรค์ ได้แก่ 1. นายณรงค์ พนมวัน 2. นายทรงศักดิ์ ส่งเสริมอุดมชัย 3. นายสัญชัย วงษ์สุนทร 4. พ.ต.ท.นุกูล แสงศิริ 5. นางวราภรณ์ ตั้งภากรณ์ 6. นายวรภัทร ตั้งภากรณ์ 7. น.ส.ชุติมา เสรีรัฐ จ.เพชรบูรณ์ ได้แก่ 1. นายสุทัศน์ จันทร์แสงศรี 2. นายชัยณรงค์ สืบสุรีย์กุล 3. นายจำเนียร โฉมงาม 4. น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา 5. นายทวีศักดิ์ อนรรฆพันธ์ 6. น.ส.รณิตา นาคะบุตร 7. นายเกรียงไกร ปานสีทอง
จ.พิษณุโลก ได้แก่ 1.น.ส.ณัฐทรัชต์ ชามพูนท 2.นายนพพล เหลืองทองนารา 3. นายจเด็ศ จันทรา 4. นางสาวพิมพ์พิชชา ชัยศุภกิจเจริญ 5.นายธนวิน โรจน์สุนทรกิตติ จ.พิจิตร ได้แก่ 1.นายปุณยวัจน์ เหลืองวิจิตร 2.นางณริยา บุญเสรฐ 3.นายวิชัย ด่านรุ่งโรจน์ จ.ตาก ได้แก่ 1.นายสมชัยฐ์ หทยะตันย์ติ 2. นายดิฐชัย ฉันติกุล 3.นายสราวุธ หาญเมืองใจ
ภาคกลาง จ.สุพรรณบุรี 1.นายไพโรจน์ ลีรัตนนุรัตน์ 2. นายสหรัฐ กุลศรี จ.ปราจีนบุรี 1. นายสมเกียรติ คำดำ จ.สระแก้ว 1.นายสุทธิรักษ์ วันเพ็ญ จ.กาญจนบุรี 1. นายศักดา วิเชียรศิลป์ 2. นายพนม โพธิ์แก้ว จ.ราชบุรี 1.นายนพพล ภู่แย้ม 2. นายไก่ ห้องริ้ว 3.น.ส.ชะวรลัทธิ์ ชินธรรมมิตร จ.ประจวบคีรีขันธ์ 1.นายวัชรพล ปลั่งศรีสกุล จ.สมุทรสาคร 1.นายนัธทวัฒน์ ม่วงเผือก 2. นายอุดม กันม่วง 3. นายบุญมี นิลถนอม 4. นายประยงค์ นอบน้อม
‘มดเล็ก’ลูกชายสุชาติลงแปดริ้ว
จ.ฉะเชิงเทรา 1.นางฐิติมา ฉายแสง 2.นายศักดิ์ชาย ตันเจริญ 3.นายวุฒิพงศ์ ฉายแสง จ.จันทบุรี 1. นายวันทิต ตั้งรักษาสัตย์ จ.สมุทรปราการ 1. นายภิญโญ กิจเลิศไพโรจน์ 2. นางนฤมล ธารดำรงค์ 3. นายประชา ประสพดี จ.นนทบุรี 1.นายนิยม ประสงค์ชัยกุล 2.นายนิทัศน์ ศรีนนท์ 3. น.ส.ปณรัศม์ วันชาญเวช 4.นายจำลอง ขำสา จ.ปทุมธานี 1.นายสุรพงษ์ อึ้งอัมพรวิไล 2.นายศุภชัย นพขำ 3.นายยุทธศักดิ์ ชูประเสริฐ 4. นายสุทิน นพขำ 5.นายชัยยันต์ ผลสุวรรณ์ 6.นายชนภัทร นันทกาวงศ์ 7.น.ส.ณัฐธิดา เกียรติพัฒนาชัย
นายสุทิน กล่าวว่า การเปิดตัวผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.พรรคเพื่อไทยในวันนี้ เป็นการยืนยันถึงความพร้อมของพรรคอีกขั้นตอนหนึ่ง เรามีความพร้อมเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้ง เป็นกระบวนการตามประชาธิปไตย พรรค พท.ยืนยันว่ามีความพร้อมทั้งตัวผู้สมัคร และองค์ประกอบอื่นๆ ทั้งนโยบายและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย เรามีความพร้อมแล้ว ขอให้ทุกคนโชคดี ไปสู่ชัยชนะร่วมกัน
‘มดเล็ก’ลูกชาย‘สุชาติ’เปิดใจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อที่น่าสนใจ คือนายศักดิ์ชาย ตันเจริญ หรือ มดเล็ก บุตรชายนายสุชาติ ตันเจริญ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และรองประธานสภา คนที่ 1 ในฐานะแกนนำกลุ่มบ้านริมน้ำ ที่เดินทางมาเปิดตัวเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ฉะเชิงเทราของพรรค พท.โดย มดดำ นายคชาภา ตันเจริญพี่ชาย ได้เดินทางมาให้กำลังใจน้องชายด้วยตัวเองอีกด้วย
ยืนยัน พท.ส่งครบ400เขต
นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากกรณีที่มีการนำผลคะแนนการเลือกตั้งปี 2562 มาคิดคำนวณว่าตามระบบหาร 100 ที่จะประกาศใช้ พรรคใดจะได้ส.ส.บัญชีรายชื่อเท่าไร โดยจะมีพรรคที่ได้ส.ส.บัญชีรายชื่อเพียงประมาณ14 พรรคนั้น เห็นว่า คงจะเอาฐานคะแนนการเลือกตั้งปี 2562 มาคิดคำนวณไม่ได้ เนื่องจากการเลือกตั้งปี 2562 เป็นการเลือกตั้งแบบบัตรใบเดียว โดยเป็นระบบจัดสรรปันส่วนผสม เอาคะแนนเขตมาคิดคะแนนบัญชีรายชื่อ มีระบบปัดเศษ ถ้าได้ส.ส.เขตเกินส.ส.พึงมีจะไม่ได้ส.ส.บัญชีเลย ดังที่พรรคเพื่อไทยประสบมาแล้ว
“แต่ระบบที่จะใช้ในการเลือกตั้งครั้งหน้านั้น เป็นแบบบัตร2ใบ แยกกันนับเหมือนการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ 40 และการเลือกตั้งปี 54 พรรคที่ได้รับความนิยมมากมีโอกาสที่จะได้ส.ส.บัญชีรายชื่อมาก พรรคการเมืองในการเลือกตั้งครั้งหน้าจึงจะเปลี่ยนแปลงไปจากการเลือกตั้งปี 62 ขณะเดียวกันพรรคกลางๆหรือพรรคเล็ก ถ้าทุ่มเทรวมคะแนนหลายๆเขตให้ได้ถึง3แสนคะแนนก็จะได้ส.ส.บัญชีรายชื่อ 1 คน ซึ่งในอดีตมีบางพรรคได้แต่ส.ส.บัญชีรายชื่อก็มี”นายชูศักดิ์ กล่าว
นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ตัวเลขที่ปรากฏว่าพรรคเพื่อไทยจะได้ส.ส.บัญชีรายชื่อ 22 คนนั้น ยิ่งคลาดเคลื่อนไปใหญ่ เพราะนอกจากจะเป็นคนละระบบแล้ว การเลือกตั้งปี 62 มีการแบ่งเขตเลือกตั้งเป็น 350 เขต พรรคเพื่อไทยส่งส.ส.เพียง 250 เขต ไม่ครบ 350 เขต ถ้าส่งครบ 400 เขตตามรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมปัจจุบัน จำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อจะมากกว่าที่คิดคำนวณออกมาเป็นจำนวนมาก
แม่ทัพหญิงภท.ปักธง3สส.ภูเก็ต
นางนาที รัชกิจประการ เหรัญญิกพรรคภูมิใจไทย ในฐานะแม่ทัพภาคใต้ พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ตนขอแรงใจจากชาวภูเก็ตเลือกผู้สมัครคนรุ่นใหม่ของพรรคภูมิใจไทย เพื่อมาพัฒนาเมืองภูเก็ต เกิดการเปลี่ยนแปลงเพื่อความอยู่ดีกินดีของพี่น้องชาวภูเก็ต โดยจะมีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.พรรคภูมิใจไทยภูเก็ต ในวันที่ 3 ธ.ค.นี้ ตั้งแต่เวลา 08.30-11.30น. ที่ศูนย์ประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต(ห้องขุนเลิศโภคารักษ์)ด้วยสโลแกน พูดแล้วทำ วันนี้พรรคภูมิใจไทย สร้างผลงานเป็นที่ประจักษ์ เป็นพรรคปฎิบัติการ ได้ตามที่แถลงนโยบายไว้ ภาคใต้นับเป็นพื้นที่ ที่พรรคภูมิใจไทยต้องการปักเสาเข็ม เพื่อจะนำสิ่งดีๆ มาให้พี่น้องประชาชนชาวใต้ ได้อยู่ดีกินดี
“ดิฉันได้ยกทีมลงจังหวัดภูเก็ต นำโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรค นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองหัวหน้าพรรค รวมทั้งกรรมการบริหารพรรค และส.ส.ของพรรค มาเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครทั้ง 3 เขต ประกอบไปด้วย เขต1 นายนิพนธ์ เอกวานิช( โกจ๋าย ) เขต2 นายวิวัฒน์ จินดาพล (สจ.ต้อม) เขต3 นายวงศกร ชนะกิจ (แบงค์ )” แม่ทัพภาคใต้พรรคภูมิใจไทย กล่าว
โปรโมทการท่องเที่ยวกระหึ่ม
นางนาทีกล่าวว่าการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.ภูเก็ต พรรคภูมิใจไทย ครั้งนี้ สิ่งที่ไม่เหมือนใคร คือเราพูดแล้วทำ พรรคภูมิใจไทยลงพื้นที่ ช่วยพี่น้องประชาชนในพื้นที่ตลอด และให้ความสำคัญกับจังหวัดนี้ เห็นได้จากการที่เราเลือกเป็นจังหวัดที่ใช้เป็น ครม.พรรคสัญจร เป็นจังหวัดแรกตั้งแต่เข้ามาทำงาน เราเป็นผู้เริ่มต้นทำเรื่อง ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์(Phuket Sandbox) เป็นโครงการเปิดประเทศไทยสำหรับการท่องเที่ยวโดยไม่มีการกักตัวทำให้ต่างประเทศเดินทางมาภูเก็ต โดยนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองหัวหน้าพรรคฯจะขึ้นปราศรัยเรื่องการฟื้นประเทศด้วยการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นนโยบายเศรษฐกิจภาคใต้และจังหวัดภูเก็ต
“ที่สำคัญสุด นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย จะมาพบกับชาวภูเก็ต มาบอก มาเล่า มาทำ มาพูดแล้วทำ ในเรื่องที่ดีๆ ในนโยบายของพรรค ในเรื่องของการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ เพื่อปากท้องพี่น้องประชาชน และมีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ทั้ง 3 เขต ซึ่งว่าที่ผู้สมัครทุกคนเป็นลูกหลานคนภูเก็ต อยากเปลี่ยนแปลงภูเก็ต จึงอยากเรียนเชิญให้ประชาชนในพื้นที่ภูเก็ตมาร่วมฟังปราศรัยครั้งนี้”นางนาที ย้ำ
ร่างกม.ลูกยังไม่ส่งไปที่รัฐบาล
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์กรณีไทม์ไลน์ ร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง และการเลือกตั้งส.ส. ที่ผ่านการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะส่งคำวินิจฉัยไปให้สภาฯ จากนั้นสภาฯจะส่งมาให้รัฐบาล ขณะนี้ยังไม่มีการส่งมา เมื่อสภาฯส่งมาแล้วจะนำขึ้นทูลเกล้าฯถวายภายใน 25วันโดย 5วันแรกเผื่อไว้หากมีผู้ร้องคัดค้านต่อศาลรัฐธรรมนูญอีกหนหนึ่ง ส่วนอีก 20 วัน นั้นเป็นกำหนดเวลาในการให้รัฐบาลจัดพิมพ์ให้เรียบร้อย แต่โดยทั่วไปใช้เวลาไม่ถึง 20 วัน เมื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯแล้วจากนั้นก็นับหนึ่ง ซึ่งอยู่ในพระราชอำนาจ 90 วันสุดแต่จะทรงลงพระปรมาภิไธย ลงมาเมื่อใดก็ประกาศลงราชกิจจานุเบกษา และจะมีผลใช้บังคับในวันรุ่งขึ้น
“การนำร่างกฎหมายลูกขึ้นทูลเกล้าฯคงจะเป็นช่วงเดือน ธ.ค.หากนับไปอีก 90วันก็จะอยู่ประมาณเดือน มี.ค.2566ก็คงใกล้กับวันที่สภาจะครบวาระไทม์ไลน์ยังอยู่ห่วงเดิมที่ผมเคยระบุไว้ไม่มีอะไรผิดพลาด”
เมื่อถามว่าหากนำกฎหมายลูกขึ้นทูลเกล้าฯแล้วหมายความว่าจะปิดประตูการยุบสภาฯได้เลยใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่าไม่เกี่ยวกัน เป็นคนละเรื่อง ในอดีตมีการยุบสภาโดยที่มีกฎหมายค้างระหว่างทูลเกล้าฯเป็นจำนวนมาก กฎหมาย ก็ไม่ได้กำหนดว่ากฎหมายเหล่านั้นจะตกไป ยังคงลงพระปรมาภิไธยได้
เพราะเมื่อยุบสภา มีการลงพระปรมาภิไธย ในกฎหมายนั้นๆมาก็นำกฎหมายเหล่านั้น ไปใช้ในการเลือกตั้งอยู่แล้วไม่มีปัญหาเรื่องเงื่อนเวลา หรือใดๆไม่เกี่ยวกันเลย
เตือนนักเลือกตั้งนับเวลาให้ถูก
“ใครที่ไปนับกันว่า การเป็นสมาชิกพรรคการเมือง หากมีการยุบสภาฯต้องเป็นภายใน 30 วันนั้น หรือสภาครบวาระ ต้องเป็นสมาชิกภายใน 90วันนั้น ก็ถูก แต่การนับ90วันจะนับจนถึงวันเลือกตั้ง ไม่ได้นับจนถึงวันที่สภาหมดวาระที่มีการออกมาพูดกันเยอะว่าหลังวันที่ 24ธ.ค.แล้วจะอย่างนั้นอย่างนี้ก็เป็นเพราะไปนับ90วันถึงวันที่22มี.ค.2566ที่เป็นวันครบวาระของสภาฯ แต่ในความเป็นจริงไม่เกี่ยวกัน” นายวิษณุย้ำ
เมื่อถามย้ำว่าหากจะให้ปลอดภัยสุดนักการเมืองควรย้ายพรรควันที่เท่าไหร่ นายวิษณุ กล่าวว่า “ผมตอบไม่ถูก อยากย้ายกันเมื่อไหร่ก็ย้าย อยากอยู่ก็อยู่ แต่ถ้ายุบสภาฯก็ยังมีกำหนดเวลาเลือกตั้ง 45วัน ถึงอย่างไรก็ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งก่อน 45วันได้ หากมีการยุบสภาขึ้นมากระทันหัน พรุ่งนี้ ก็ยังย้ายพรรคกันได้ก็เท่านั้น เพราะมีกรอบ45วัน ซึ่งเป็นไปตามระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ในการจัดการเลือกตั้งอยู่แล้ว ในความเป็นจริงไม่ได้เป็นปัญหาเพราะไม่ได้เกี่ยวข้องกัน”
สส.ออกเยอะก็ไม่ต้องยุบสภา
ส่วนกรณีส.ส.จำนวนมากอาจใช้วิธีลาออกเพื่อกดดันให้ยุบสภานายวิษณุ กล่าวว่า เหตุการณ์เช่นนี้เคยมี แต่ไม่ถึงกับออกหมด ในอดีตสมัยจอมพลถนอม กิตติขจร อดีตนายกฯ เคยมีสมาชิกสภา นิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)ที่มาจากการแต่งตั้ง เขารู้สึกว่าให้ นายกฯคนใหม่ได้แต่งตั้งสนช.ใหม่ จึงทยอยลาออกครั้งละ 5-10 คน จนกระทั่งถึงครึ่งหนึ่ง นายกฯหลังจากนั้นคือนายสัญญา ธรรมศักดิ์ จึงยุบสภา และแต่งตั้งสมาชิกใหม่โดยสภาสนามม้า
“ไม่มีกฎหมายใดบอกว่า หากลาออกกันเยอะแล้วจะต้องยุบ แต่โดยวิธีปฏิบัติแล้วก็ไม่รู้จะอยู่ทำไม และหากจะพูดไปแล้วสมาชิกร่อยหรอลง หรือลาออกไปจนเหลือแค่ 200 คนก็ประชุมได้ เพราะจะเลือกตั้งซ่อมก็ไม่ได้เนื่องจากอายุสภาฯเหลือเวลาน้อย และถ้า 200 คนนั้นจะมาประชุมก็ประชุมได้ โดยยึดองค์ประชุมครึ่งหนึ่งของที่มีอยู่ ดีไม่ดีพวกที่คิดจะทยอยลาออกจะทำให้รัฐบาลทำอะไรได้อีกตั้งเยอะ แต่ผมไม่ได้หมายความว่าจะให้ทำอย่างนั้นนะ แต่ต้องการทำให้เห็นว่ากลไกสภาฯไม่เวิร์คแล้ว อย่างไรก็ตามเป็นความชอบธรรมที่รัฐบาลจะอยู่ได้ไม่มีปัญหา ไม่ติดอะไร ผมเองก็ยังเสียวอยู่เลยว่าลาออกกันเหลือแค่นี้รัฐบาลอาจคิดว่าดีแล้วเพราะต่อไปนี้กฎหมายอะไรที่ค้างกันก็เอาเข้าสภาฯช่วงนี้เสียเลย”นายวิษณุ ระบุ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี