‘สหายแสง’ ยืดอกรับกลางสภาฯ! ยอมยกมือพนมขออภัยปมด่า ‘ไอโง่’ ยันพูดในฐานะ ‘ว่าที่ผู้สมัครส.ส.’ ไม่เกี่ยวตำแหน่ง ‘รองปธ.’ ด้าน ‘พัฒนา’ ไม่ติดใจ ไม่ฟ้องกลับ แต่ติงถ้าระดับนั่งบนบังลังก์ทำแบบนี้ขอถอนคำพูดแล้วจบคนอื่นคงด่ากันทุกวัน ขณะที่ ‘ชวน’ อบรม เป็นเรื่องภายนอก อย่านำเข้ามาทำเสียเวลางาน

7 ธันวาคม 2565 เมื่อเวลาประมาณ15.20 น. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม โดยในช่วงหนึ่งนายพัฒนา สัพโส ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นหารือต่อที่ประชุมกรณีที่นายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม พรรคภูมิใจไทย และรองประธานสภาฯคนที่2 ขึ้นกล่าวปราศรัยพาดพิงไปถึงตัวเองว่า “ไอโง่” ในงานเปิดตัวผู้สมัครส.ส.ของพรรคภูมิใจไทย ที่จังหวัดนครพนม เมื่อวันที่4ธ.ค.ที่ผ่านมาว่า ในวันดังกล่าวมีรองประธานสภาฯบางคน ไปทำความเสื่อมเสีย ทำให้เกียรติภูมิสภาฯเสื่อมเสีย การที่บุคคลดังกล่าวให้สรรพนามเรียกสมาชิกว่าเป็นคนโง่ คำว่าโง่บัญญัติในพจนานุกรมว่าโง่ มันแปลเป็นอย่างอื่นไม่ได้

ด้านนายชวน ชี้แจงว่า ตนเห็นข่าวจากทางสื่อ ถือเป็นเรื่องภายนอกสภาฯ ความจริงไม่ได้เป็นครั้งแรก ที่ผ่านมาก็มีไปพูดในลักษณะลดความสำคัญของพรรคอื่น คนอื่น ดังนั้นถ้าอยู่ข้างในสภาฯก็ดำเนินการตามหน้าที่ แต่ถ้าอยู่ข้างนอกก็ว่ากันไปตามสิทธิแต่ละฝ่าย แต่ถ้านำเรื่องภายนอกเข้ามาโดยใช้เวลาในสภาฯ จะเสียเวลา ไม่ถูกแนวทางที่จะปฏิบัติ

“บุคคลที่ท่านกล่าวถึงไม่เอ่ยชื่อ ก็คือนายศุภชัย ที่เป็นรองประธานสภาฯ ผมคิดว่าตำแหน่งรองประธานสภาฯ ทำให้มีภาระหน้าที่มากกว่าส.ส. การประพฤติปฏิบัติต้องอยู่ในกรอบที่กำหนดไว้ แต่ผมก็เปิดโอกาสให้ชี้แจง ทราบว่านายศุภชัยก็อยากขอหารือด้วยเช่นกัน ผมจึงถามว่าหารือเรื่องอะไร นายศุภชัยจึงแจ้งว่าอยากจะขออภัย แต่ผมมองว่าเป็นเรื่องภายนอก แต่ถ้าจะทำก็ทำได้ แต่ผมเห็นว่าไม่ควรเอาข้อเท็จจริงมาวิจารณ์ในนี้ เพราะจะไม่จบสิ้น ทำให้ทำงานไม่ได้” ประธานสภาฯ กล่าว

นายพัฒนา จึงพยายามชี้แจงว่า เรื่องดังกล่าวทำให้ตนเสียหายมาก จริงๆแล้วตนก็ไม่ได้โกรธนายศุภชัยเป็นการส่วนตัว แต่เรื่องนี้ที่เป็นประธานที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ วันนี้ถ้าใครไปด่าคนอื่นแล้วมาขอโทษ ขอถอนคำพูดแล้วมันจบ ไม่อย่างนั้นสภาฯแห่งนี้ก็คงด่ากันทุกวัน จึงอยากให้เป็นแบบอย่างต่อสภาฯแห่งนี้ ซึ่งเมื่อเช้ารองประธานสภาฯก็โทรหาตนแล้ว เป็นพี่น้องกัน ยอมรับผิด ตนให้อภัย และจะไม่ฟ้องหมิ่นประมาทกลับในฐานะคนไทยด้วยกัน

นายพัฒนาพยายามพูดถึงเรื่องข้อกฎหมายฟ้องหมิ่นประมาท แต่นายชวน เห็นว่า อะไรที่ผิดจริยธรรม หมิ่นประมาท ก็ดำเนินการตามกฎหมาย ตนให้โอกาสเท่าที่เหมาะสม ขอให้นายพัฒนาพอแล้ว แต่นายพัฒนาพยายามจะพูดต่อ ทำให้นายชวนกดปิดไมค์

ด้านนายศุภชัย กล่าวว่า ตนยอมรับว่าเมื่อวันที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมา ตนได้มีโอกาสเปิดเวทีปราศรัยหาเสียงเปิดตัวผู้สมัครส.ส.ของพรรคภูมิใจไทย ที่จังหวัดนครพนม ซึ่งตนอาจจะเพลินไปหน่อย ท่ามกลางบรรยากาศประชาชนมากมาย ยืนยันกับประธาน และสมาชิกว่า คำพูดที่สมาชิกพูดถึงนั้นตนได้พูดจริง แต่ไม่ได้หมายถึงการกล่าวหาพี่น้องประชาชาจังหวัดสกลนครว่าโง่ อยากให้ไปเปิดคลิปดูใหม่ได้ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าในวันนั้นตนปราศรัยในฐานะว่าที่ผู้สมัครส.ส.ของพรรคภูมิใจไทย ไม่ได้ปราศรัยในฐานะเป็นส.ส. หรือรองประธานสภาฯ

“เมื่อตัวผมพูดออกไปแล้ว พลาดพลั้งไปแล้ว หรือผิดไปแล้ว ผมยอมรับกับประธาน และสมาชิกทุกท่านที่เกี่ยวข้อง ผมขอกราบขออภัยที่ผมขึ้นมา และขอโทษเพื่อนๆ” นายศุภชัย กล่าวพร้อมยกมือพนมขอโทษ และพูดด้วยว่า “ขอกราบขอโทษครับ”

ทั้งนี้มีสมาชิกพยายามจะลุกขึ้นพูดต่อ แต่นายชวน ไม่อนุญาตให้พูด พร้อมชี้แจงว่า ให้โอกาสมาพอสมควรแล้ว เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องภายนอก แต่เมื่อนำเข้ามาใช้ในที่นี้ มันจะกินเวลาโดยเปล่าประโยชน์ ดังนั้นถ้ามีอะไรผิดปกติภายนอกก็จัดการได้เลยตามกฎหมาย จากนั้นจึงได้เข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมต่อ