สรรเพชญ บุญญามณี คนหนุ่มไฟแรง ว่าที่ผู้สมัคร สส.เขต 1 สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ นายหัวไทร ถึงความพร้อมในการลงสมัครรับเลือกตั้ง สส.เขต 1 สงขลาในนามพรรคประชาธิปัตย์
สรรเพชญกล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมาได้ลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนหมดแล้วทุกภาคส่วน โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหา บรรเทาทุกข์ให้กับพี่น้องประชาชนในเขต 1 สงขลา
“เราได้จัดทำโครงการครัวสรรเพชญอาสา” ทำอาหารปรุงสุกแจกจ่ายให้กับพี่น้องประชาชน แจกไปแล้วกว่า 250,000 กล่อง และทำต่อเนื่องในช่วงโควิดระบาดหนัก”
สรรเพชญ ยังกล่าวอีกว่า นอกจากตั้งโรงครัวแล้ว ยังออกไปรับซื้อพืชผลทางการเกษตรที่บ้านแดนสงวน อ.ระโนด จ.สงขลา โดยการซื้อฟักทองในช่วงราคาตกต่ำในแจกจ่ายให้กับพี่น้องประชาชน ซึ่งเป็นการช่วยเหลือสองทาง คือช่วยเหลือเกษตรกร และช่วยเหลือผู้ประสบภัยโควิดด้วย
สรรเพชญกล่าวว่า ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาถุงยังชีพเราก็แจกจ่ายไปเยอะมาก ข้าวสาร อาหารแห้ง ปลากระป๋อง ให้กับผู้ติดเชื้อโควิด และผู้ที่ต้องกักตัว ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด รวมถึงการฉีดยาฆ่าเชื้อฟรี แจกหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ตามชุมชนต่างๆ ให้ทุกชุมชนมีส่วนร่วม
สรรเพชญ กล่าวถึงกระแสตอบรับว่า 4 ปีที่ผ่านมาหลังเลือกตั้งเสร็จแม้จะไม่ชนะการเลือกตั้ง แต่ด้วยความตั้งใจ ได้ลงสัมผัสชุมชนต่อเนื่อง ผิดจากเมื่อ 4 ปีก่อนมาก
คนรู้จักมากขึ้น เนื่องจากเป็นสี่ปีที่ได้ลงสัมผัสชุมชน มีเวลาได้ทำงานให้พี่น้องประชาชนต่อเนื่อง และเป็น 4 ปีที่เราผ่านอะไรมามากมาย ประชาชนได้เห็นวิสัยทัศน์ในการทำงาน เป็นอีกปัจจัยที่เกื้อหนุนให้ผมและทีมงานได้ขันอาสามารับใช้พี่น้องประชาชน
สรรเพชญกล่าวว่า เป็น 4 ปีที่เรามีเวลาในการจัดทัพ มีเวลาในการเตรียมตัว มีเวลาให้ประชาชนสัมผัส มีเวลาในการนำนโยบายส่วนตัวและนโยบายของพรรคไปบอกกล่าวกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ มีเวลาอยู่กับประชาชนในการแก้ไขปัญหาให้เท่าที่เราทำได้ เมื่อถามถึงพ่อ (นิพนธ์ บุญญามณี) มีส่วนช่วยเหลือแค่ไหน สรรเพชญ บอกว่า พ่อก็ช่วยชี้แนะ แนะนำ บางเรื่องเราอาจจะไม่ทราบ ไม่รู้ ก็จะถามพ่อ ท่านก็จะให้คำแนะนำ ท่านจะเป็นลมใต้ปีกคอยดูอยู่ห่างๆ มากกว่า
“ถ้ามีปัญหาก็ปรึกษาท่าน ท่านไม่ได้เข้ามายุ่ง ท่านเพียงแต่คอยให้คำแนะนำเมื่อมีปัญหาอะไร”
สรรเพชญ กล่าวอย่างมั่นใจว่า พร้อมลงสมัครรับเลือกตั้งหากยุบสภาเมื่อไหร่ ตัวผมเองและทีมงานพร้อม 100% ลงพื้นที่ครบแล้ว 100% ลงสัมผัสด้วยตัวเอง ใช้เวลาทั้ง 7 วัน/สัปดาห์ อย่างเต็มที่
สรรเพชญ ยังกล่าวถึงนโยบาย 8 ข้อของพรรคประชาธิปัตย์ ว่า เป็นนโยบายที่จะสร้างรากฐานให้กับประเทศให้กับลูกหลานในอนาคต เช่นเดียวกับยุทธศาสตร์สร้างเงิน สร้างคนสร้างชาติ ทางพรรคจะค่อยๆ ทยอยประกาศนโยบายออกมา
“นโยบายของพรรคประชาธิปัตย์เป็นนโยบายที่เป็นไปได้มากที่สุด ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง ไม่ได้ทำเพื่อคะแนนเสียง คะแนนนิยม นโยบายที่ประกาศออกมาต้องทำได้จริง”
สรรเพชญย้ำว่า สงขลายังเป็นพื้นที่ฐานเสียงสำคัญของพรรคประชาธิปัตย์ การแข่งขันเป็นเรื่องธรรมดาของการเมือง การเลือกตั้ง แต่มันตัดสินกันด้วยการลงคะแนน “ไม่ได้กังวลอะไรว่าจะมีใครลงแข่งบ้าง เราเดินหน้าปฏิบัติภารกิจของเรา ผมมีความมั่นใจ และมีความพร้อมว่าจะนำชัยชนะมาสู่เขต 1 ให้ประชาธิปัตย์ได้แน่นอน”
ขณะที่ นิพนธ์ บุญญามณี ผอ.เลือกตั้ง รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รวมทั้ง จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรค มีนโยบาย ในมิติการพัฒนาตามยุทธศาสตร์ 3 ส. คือสร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ นำไปสู่การสร้างอาชีพ สร้างรายได้ เพื่อให้คนในจังหวัดชายแดนภาคใต้มีคุณภาพชีวิตที่ดีมาโดยตลอด
โดยผลักดันผ่านทาง คณะกรรมการยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เช่น โครงการความมั่นคงทางอาหาร เพื่อให้จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นพื้นที่ผลิตอาหารในการเป็นครัวโลก
โดยเฉพาะในเรื่องของอาหารที่เป็นฮาลาล และของการส่งเสริมการเลี้ยงโคเนื้อ และเลี้ยงแพะ แบบครบวงจร ภายใต้โครงการเมืองปศุสัตว์เพื่อยกระดับการพัฒนาอุตสาหกรรมเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อเชื่อมโยงไปยังระเบียงเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ (SouthernEconomic Corridor: SEC)
รวมทั้งการพัฒนา ในโครงการอื่นๆ ที่สอดคล้อง กับบริบท ของพื้นที่ล่าสุดคือเรื่องของการประสานงานกับกระทรวงการคลัง ให้มีการผ่อนปรน เงื่อนไขเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ หรือ SOFT LOAN กับกลุ่มผู้ขอสินเชื่อโครงการรายใหม่กว่าสี่พันล้านบาท และผู้ขอสินเชื่อโครงการเก่า ก็ขอให้มีการดำเนินการต่อไป เพื่อเป็นการช่วยเหลือ ผู้ประกอบการ ที่ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้
ซึ่งนโยบายสันติภาพสู่สันติสุข ที่นิพนธ์ บุญญมณี นำเสนอในนามของประชาธิปัตย์ ต่อประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นเรื่องที่โดนใจของคนในพื้นที่ เพราะในความต้องการของประชาชน ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นพุทธ-มุสลิม หรือคนไทยเชื้อสายจีน คือต้องการเห็นความสงบสุข ต้องการสันติสุข กลับมายังดินแดนแห่งนี้
นโยบายสันติภาพสู่สันติสุข ของประชาธิปัตย์ จึงเป็นการให้คำมั่นสัญญา กับประชาชน ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ประชาธิปัตย์ สนับสนุนการเจรจาสันติภาพ ระหว่างรัฐบาล กับขบวนการหรือกลุ่มต่างๆ เพื่อสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้น ซึ่งเป็นแนวทางที่หลายๆ ประเทศที่มีปัญหาความไม่สงบที่เกิดจากขบวนการแบ่งแยกดินแดน นำไปแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้สำเร็จมาแล้ว
ต้องเร่งสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นก่อน เมื่อสันติภาพถูกขับเคลื่อนให้เดินหน้าได้และเกิดขึ้นจริง ความเป็นสันติสุข ในพื้นที่ก็จะติดตามมาสู่แผ่นดินปลายด้ามขวาน
และเมื่อสันติภาพนำมาซึ่งสันติสุข โครงการพัฒนา ในทุกมิติ ก็จะมีความสำเร็จ และเป็นไปตามเจตนารมณ์ของประชาธิปัตย์ ที่นำเสนอต่อประชาชน ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในการเลือกตั้งครั้งใหม่ที่จะมีขึ้นในไม่ช้านี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี