ปชป.ยันเสนอ‘จุรินทร์’แคนดิเดตนายกฯ

ปิดประต‘มาร์ค’

อ้างมติกก.บห.พรรคส่งเพียงคนเดียว

รทสช.อ้าแขนรอรับ28สส.

ตบเท้าย้ายซบพรรค2ลอตใหญ่

‘ปิยบุตร-พิธา’จูบปากยุติสาวไส้

เดินหน้าสู้ศึกใหญ่สนามเลือกตั้ง

‘บิ๊กตู่’ลั่นใครเป็นรบ.ต้องทำเพื่อชาติ

“บิ๊กตู่’ ย้ำประเทศหลายอย่างยังมีปัญหา ย้ำใครเป็นรัฐบาลต้องทำเพื่อชาติ ยันไม่ทะเลาะกับใคร บางครั้งเจตนาดีแต่พูดอะไรก็ผิด “บิ๊กตู่” อ้าแขนรอสวมเสื้อ รทสช. อดีต สส.ตบเท้าเข้าซบ 2 ลอต 28 คน ถ่ายรูปเตรียมหาเสียง 27 กุมภาพันธ์ -1 มีนาคม “พปชร.” มากสุด 19 คน ปชป. 6 คน ขณะรทสช.พร้อมมากสุด นำลิ่ว
“ตั้งสาขา-ตัวแทนพรรค” ครบ 77 จว.“ก้าวไกล” ตามติด76 จว.“ปชป.-พท.-ภท.” 75 จว. พปชร.หดเหลือแค่ 44 จว.ปชป.เปิดปราศรัย-เปิดตัวผู้สมัครที่เพชรบุรี 24 กุมภาพันธ์ “จุรินทร์-3 อดีตหน.พรรค” ร่วมประกาศเจตนารมณ์ “ก้าวไกล” ดูดปาก ยุติศึกวิวาทะสาวไส้ “ปิยบุตร-พิธา” “ธนาธร” ร้องเพลงกล่อม ‘พิธา’ไม่มีอะไรค้างคา-ทำงานร่วมกันต่อได้ ปัดสร้างภาพ‘ธนาธร’ ปลุกเป้าหลัก‘หยุดพรรคทหารจำแลง’ ท้ายุบ‘ก้าวไกล’อีกสิ ปชช.จะโกรธแค้น “เพื่อไทย”บุก เชียงราย-เชียงใหม่25-26ก.พ.

เมื่อวันที่ 23กุมภาพันธ์2566 ที่ห้องประชุม201 ชั้น2 ศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับฟังบรรยายและเยี่ยมชมศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมี พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะเลขาธิการคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ต้อนรับ

รศ.ดร.วินัย ดะห์ลัน ผอ.ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกล่าวว่ามอตโตของนายกฯ ‘ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ’ ตรงกับคำในศาสนาอิสลาม กอลูสะเมียะนาว่าอาเฏาะนาที่แปลว่า เราได้รับทราบแล้ว และเราได้ปฏิบัติแล้ว พอได้ยินคำนี้จากนายกฯว่า นี่คือความโปรดปราน เพราะเราฟังอย่างเดียวไม่ได้ จะต้องปฏิบัติด้วย ถือได้ว่าเป็นแนวคิดเดียวกัน ลูกเขยของตนเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตสวนหลวงพรรครวมไทยสร้างชาติ ต้องขอบคุณนายกฯเป็นอย่างยิ่งที่ให้ความไว้วางใจ

นายกฯย้ำหลายอย่างยังมีปัญหา

จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวมอบนโยบายตอนหนึ่งว่า วันนี้มีความสุขอีกวันได้มาร่วมงาน ทุกคนที่นั่งแถวหน้ารู้จักกับโปรโมต ตั้งแต่ปี 2557 ที่เข้ามาบริหารประเทศและจำได้ว่าได้มีการพูดคุยกันว่าจะเกิดการวิจัยพัฒนามากขึ้น วันนี้จึงได้เห็นถึงโอกาส ซึ่งเราเป็นประเทศที่ทำการเกษตรกรรมเป็นหลักและต้องเพิ่มรายได้อุตสาหกรรมไปด้วย โดยมีเรื่องปศุสัตว์และอาหารแปรรูปต่างๆ ขอชื่นชมการทำงานในระบบการทำฮาลาลซึ่งเคยเปิดดูยูทูปเห็นร้านอาหารต่างประเทศ เป็นร้านเฉพาะมีเป็นร้อยยี่ห้อ ก็อยากให้ของไทยเข้าไปอยู่ในนั้น ซึ่งถือเป็นหนึ่งใน Soft Power ที่เราต้องขับเคลื่อนให้ได้

“วันนี้ยังเจอปัญหาอยู่เยอะ อยากพูดให้ประชาชนเข้าใจว่าเราทำอะไรไปแล้ว อะไรที่ทำได้ ก็ต้องทำ และทำให้เสร็จ อะไรไม่เสร็จ ก็ต้องรับฟังความเห็น และอะไรทำใหม่และทำต่อ คิดแบบนี้มาตลอดหลายปี หลายอย่าง คืบหน้า หลายอย่างมีอุปสรรค ต้องแก้ไขปัญหา”นายกฯกล่าว

ย้ำใครเป็นรัฐบาลต้องทำเพื่อชาติ

นายกฯกล่าวด้วยว่า ชื่นใจและดีใจที่ได้มาเห็นความคืบหน้าด้วยตัวเอง เห็นรอยยิ้มทุกคน ขอชื่นชมและคิดว่าเป็นสิ่งที่เราต้องทำต่อไปใครเป็นรัฐบาลต้องทำเพื่อประเทศชาติที่รักยิ่งของเรา วันนี้ให้สัญญาไม่ได้ เข้าใจนะ เดี๋ยวหาว่ามีความผิดอีก วันนี้พูดอะไรก็ผิดไปหมด บางครั้งเราก็เจตนาดีที่จะพูดจะสื่อสาร แต่บางครั้งก็ไม่ได้ ต้องระมัดระวังด้วย อะไรที่ควรจะทำก็จะต้องทำ เราพยายามทำหลายๆเรื่องให้เศรษฐกิจดีขึ้นมีทั้ง2ส่วนคือระดับบนและระดับฐานราก อยากฝากให้ทุกคนช่วยกันทำฐานรากให้เข้มแข็งด้วย

ชี้ไม่มีเจตนาทะเลากับใครทั้งสิ้น

“วันนี้ต้องระมัดระวัง รักกันไม่แยกแยะ แบ่งพวกแบ่งฝ่ายอะไรทั้งสิ้น วันนี้ย้ำว่าต้องมีหลักคิด Active Learning ภรรยาเป็นอาจารย์ก็สอนผม ทุกวันต้องคิดให้และสร้างกระบวนการคิดในสมองว่าจะเป็นอย่างไรและมีภูมิต้านทานในหัวเอาวิธีการ ที่ถูกต้องมาคิด ไม่ใช่คิดที่ผิด เป็นถูกไม่ได้ อะไรผิดก็คือผิด และ หลายอย่างที่พูด ไม่ได้ว่าใคร วันนี้แตะอะไรไม่ได้ ไม่ได้ว่าใคร ไม่มีเจตนาทะเลากับใครทั้งสิ้น ทะเลาะกับตัวเองก็เหนื่อยพอแล้ว ทะเลาะกับตัวเองทั้งวัน ไอ้โน่นใช่ไอ้นี่ไม่ใช่ ร้อยอย่าง ก็ทำได้ 2-3อย่างเท่าที่ทำได้ ต้องไตร่ตรอง และต้องคิดให้รอบคอบ ในฐานะผู้นำประเทศ”นายกฯกล่าวย้ำ

‘บิ๊กตู่’อ้าแขนรับอดีตสส.ซบรทสช.

รายงานข่าวจากพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) และว่าที่ผู้สมัคร แคนดิเดตนายกฯจะเปิดตัวและสวมเสื้อให้อดีต ส.ส.ที่ลาออกจากพรรคเดิมแล้ว ย้ายมาสังกัดพรรค รทสช.อย่างเป็นทาง รวมถึง ผู้สมัครคนอื่นๆในวันที่ 27 ก.พ.นี้เวลา 16.00น ณ ที่ทำการพรรค ซอยอารีย์ 5 โดย พล.อ.ประยุทธ์ จะมาสวมเสื้อพรรคให้กับผู้สมัครเพื่อให้ทุกคนได้ถ่ายรูปนำไปใช้หาเสียงเลือกตั้งต่อไป

โดยจะมีส.ส.ที่ยังไม่ได้ลาออกจากพรรคเดิมแบ่งเป็น 2ล็อตใหญ่ คือจะยื่นใบลาออกในวันที่ 24 ก.พ.และระหว่างวันที่ 27-28 ก.พ.ใครที่ลาออกในวันที่ 24 ก.พ.จะมาเปิดตัวและสวมเสื้อพรรคในวันที่ 27 ก.พ. ส่วนใครลาออกระหว่างวันที่ 27-28 ก.พ.จะมาเปิดตัว และสวมเสื้อพรรคในวันที่ 1 มี.ค.นี้

‘พลังประชารัฐ’ย้ายมากสุด19คน

ทั้งนี้ เบื้องต้น จะมีอดีต ส.ส.ที่ลาออกก่อนจะมาร่วมงานเปิดตัวกับพล.อ.ประยุทธ์ ในวันที่ 27ก.พ.อาทิกลุ่มสามมิตร 1.นายอนุชา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กลุ่มส.ส.พลังประชารัฐภาคใต้ ประกอบด้วย 1.นายสายันต์ ยุติธรรม ส.ส.นครศรีธรรมราช 2 .นายศาสตรา ศรีปาน ส.ส.สงขลา 3. นายพยม พรหมเพชร ส.ส.สงขลา 4. ร.ต.อ.อรุณ สวัสดี ส.ส.สงขลา 5.นายวัชระ ยาวอหะซัน ส.ส.นราธิวาส 6.นายอาดิลัน อาลีอิสเฮาะ ส.ส.ยะลา

กลุ่มส.ส.ภาคกลางของ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ประกอบด้วย 1.นายรณเทพ อนุวัฒน์ ส.ส.ชลบุรี 2.พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา ส.ส.จันทบุรี 3.นายสมพงษ์ โสภณ ส.ส.ระยอง 4.นายชัยวัฒน์ เป้าเปี่ยมทรัพย์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา 5.นางกุลวดี นพอมรบดี ส.ส.ราชบุรี 6.น.ส.ไพรินทร์ เทียนสุวรรณ ส.ส. สมุทรปราการ 7.นายสมบัติ อำนาคะ ส.ส. สระบุรี 8.นายสาธิต อุ๋ยตระกูล ส.ส.เพชรบุรี 9.นายประสิทธิ์ มะหะหมัด ส.ส.กทม 10.น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ ส.ส.กทม.

กลุ่มดร.หิมาลัย ผิวผ่อง หรือ เสธหิ แกนนำภาคเหนือของพรรครวมไทยสร้างชาติได้แก่1.นายมานัส อ่อนอ้าย ส.ส.พิษณุโลก 2.นายสุรชาติ ศรีบุศกร สส.พิจิตรและ3.นายสัญญา นิลสุพรรณ ส.ส.นครสวรรค์

ประชาธิปัตย์ 6 คน ย้ายตามลุงตู่

รายงานข่าวเปิดเผยว่า กลุ่มพรรคประชาธิปัตย์ ประกอบด้วย 1.พ.ท.สินธพ แก้วพิจิตร ส.ส.นครปฐม 2.น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส. สมุทรสงคราม 3.น.ส.วชิราภรณ์ กาญจนะ ส.ส.สุราษฎร์ธานี 4.นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู ส.ส.บัญชีรายชื่อ 5.นายเจือ ราชสีห์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 6.นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี ในส่วนของส.ส.พรรคประชาธิปัตย์จะแบ่งมาเปิดตัว 2 รอบ คือ ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ และ วันที่ 1 มีนาคม เนื่องจากบางคนมีเหตุผลส่วนตัวจึงลาออกไม่พร้อมกัน

เปิดตัว2 ล๊อตใหญ่ มี 28 อดีตสส.

สำหรับ พรรคการเมืองอื่นๆที่จะมาเปิดตัวด้วย อาทิ นายอนุมัติ ซูสารอ ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาชาติ นายสุพล จุลใส ส.ส.ชุมพร พรรครวมพลังประชาชาติไทย เป็นต้น เบื้องต้นอดีต ส.ส.จากพรรคการเมืองอื่นที่ จะย้ายมาเปิดตัว 2 ล็อตนี้ มีจำนวน 28 คน

รทสช.ตั้งสาขา-ตัวแทนพรรคครบ77จว.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ได้สรุปข้อมูลพรรคการเมืองที่ดำเนินกิจการอยู่ ณ วันที่ 22 ก.พ.2566 จำนวน 86 พรรคการเมือง พบว่าในระบบฐานข้อมูลสมาชิกพรรคการเมือง ขณะนี้มีเพียงพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)พรรคเดียวที่มีสามารถส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง ส.สได้ครบ77จังหวัด เนื่องจากมีสาขาหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดตามที่มาตรา47พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง(ฉบับที่ 2)2566กำหนด โดยเฉพาะ10 พรรคการเมืองที่ขณะนี้ส่งผู้สมัครได้มากที่สุดคือ1.พรรครวมไทยสร้างชาติ 77 จังหวัด 2.พรรคก้าวไกล 76 จังหวัด 3.พรรคประชาธิปัตย์ 75 จังหวัด 4.พรรคเพื่อไทย 75 จังหวัด 5.พรรคภูมิใจไทย75 จังหวัด 6.พรรคเสรีรวมไทย 68 จังหวัด 7.พรรคพลังประชารัฐ 64 จังหวัด 8.พรรคคลองไทย 59 จังหวัด 9.เศรษฐกิจไทย 56 จังหวัด และ10.พรรคไทยสร้างไทย 47 จังหวัด

‘พรรคลุงป้อม’หดเหลือแค่ 44จว.

ส่วนพรรคพลังประชารัฐ 44 จังหวัด พรรคไทยภักดี 42 จังหวัด พรรคชาติพัฒนากล้า 32 จังหวัด พรรคสร้างอนาคตไทย 22 จังหวัด พรรคชาติไทยพัฒนา 17 จังหวัด พรรคไทยศรีวิไลย์ 9 จังหวัด พรรคประชาชาติ 8 จังหวัด พรรคพลังธรรมใหม่ 8 จังหวัด

ทั้งนี้ พรรคพลังประชารัฐมีสาขาหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดลดลงจากครั้งก่อนเนื่องจากมีการขอยกเลิก โดยข้อมูล ณ วันที่ 3ก.พ.66 พรรคพลังประชารัฐมีสาขาหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดถึง 64 จังหวัด ขณะที่ทุกพรรคการเมืองยังคงเร่งจัดตั้งสาขาและตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด และอาจอยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูลเพื่อแจ้งต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องแจ้งภายใน 15 วันนับแต่วันจัดตั้งสาขาและแต่งตั้งตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด

‘ก้าวไกล’ยุติศึกสาวไส้‘ปิยบุตร-พิธา’

ความคืบหน้าปมวิวาทะร้อนโซเซียลระหว่างนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลกับนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า จนทั้งสองคนนัดปรับความเข้าใจกันได้โพสต์รูปกอดคอกันโดยนายปิยบุตร สนับสนุนให้นายพิธาและผู้บริหารพรรคนำพาพรรคก้าวไกลสู้ต่อไปในสนามการเลือกตั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังทั้งคู่ได้ปรับความเข้าใจกัน ได้เดินทางมาร่วมปาร์ตี้กันที่ร้าน Taopiphop bar project ถนนเจริญรัถ ย่านวงเวียนใหญ่ โดยมี สส.พรรคก้าวไกล (ก.ก.)และผู้ร่วมก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ นำโดย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และ ทีมงาน เข้าร่วมอย่างคึกคัก

โดยนายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ทวิตคลิปบรรยากาศระหว่างปาร์ตี้ดังกล่าวพร้อมระบุว่า“จบดราม่าละ ขอบคุณ อ.ป๊อก ขอบคุณ หัวหน้าทิม #ก้าวไกลไปด้วยกัน”ทั้งนี้ เนื้อหาในคลิปเป็นการสวมกอดกันของนายปิยบุตรกับนายพิธา ท่ามกลางเสียงปรบมือ

‘ธนาธร’ร้องเพลงกล่อม-ปิยบุตรปลุกสู้ลต.

นายปิยบุตรกล่าวช่วงหนึ่งว่า“ได้พูดคุยกันเรียบร้อยแล้วและด้ปรับความเข้าใจกันทุกอย่างได้เป็นอย่างดี และก็ต้องขอโทษพี่น้องทุกคนทั้งสส.ผู้สมัครและทีมงานของพรรคทั่วประเทศ พนักงานพรรค ผู้สนับสนุนทั้งหมด ที่ต้องมาลำบากลุ้นระทึกและกังวลใจกับการแสดงออกของผม ก็ต้องขอโทษทุกคนด้วย

“ผมยืนยันชัดเจนว่าได้เคลียร์ปัญหากันหมดเรียบร้อยแล้ว ต่อไปนี้ อีกเกือบ 3 เดือน ก็เป็นช่วงเวลาแห่งการเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งอย่างเดียว สมาธิทุกคน มุ่งไปสู่การเลือกตั้งอย่างเดียว ผมเชื่อว่า3เดือนนี้เหมือนจะดูสั้นแต่มันเป็นหนึ่งในเส้นทางระยะยาวของพวกเรา ตั้งแต่เริ่มตั้งพรรคอนาคตใหม่มา บังเอิญเพิ่งครบ3ปีพอดี วันนี้ก็เหมือนเปิดพรรคใหม่ก็เหมือนเป็นการเริ่มต้นกันใหม่ ได้ปรับความเข้าใจทุกอย่างหมดละ เปิดอกเต็มที่คุยกันทุกเรื่อง น้ำตาร่วง กันไปคนละหลายหยด 3 เดือนจากนี้มันเป็นระยะเวลาสั้นแต่เป็นส่วนหนึ่งการเดินทางระยะยาว ผมกะพิธาคิดตรงกันรวมทั้งผู้บริหารพรรค รวมถึงคุณธนาธร ด้วยว่าเราไม่ควรมาขัดแย้งในเรื่องเวลาแบบนี้เพื่อทำความฝันของทุกคนหวังว่าทุกคนจะเดินหน้าสู้กันต่อ”นายปิยบุตรย้ำ

จากนั้นสุรเชษฐ์ยังโพสต์คลิปพร้อมทวิตข้อความว่า“เอ้าคลิปสุดท้าย จบดราม่ากันนะ ฟังธนาธร ร้องเพลงตามคำเรียกร้อง”ซึ่งคลิปดังกล่าว เป็นการร้องเพลง รางวัลแด่คนช่างฝัน ของจรัล มโนเพ็ชร ร่วมกัน

‘พิธา’จูบปาก‘ปิยบุตร’เคลียร์ปมสาวไส้

ที่รัฐสภา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล(ก.ก.)ให้สัมภาษณ์ถึงสาเหตุการเกิดวิวาทะกับนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้าว่าสั้นๆคือการถอยเพื่อที่จะก้าวกระโดด และมีเรื่องที่ไม่เข้าใจกัน แต่เมื่อได้ปรับความเข้าใจกันแล้วก็สามารถทำให้ทำงานร่วมกันต่อไปได้ มั่นใจว่าเวลาที่เหลือสามารถสู้ศึกการเลือกตั้งได้อย่างเต็มที่ และหวังว่าเราสามารถทำงานไปสู่เป้าหมายเดียวกันได้ แน่นอนว่าในเรื่องของการเมืองย่อมมีอะไรที่มองไม่ตรงกันบ้าง แต่ในที่สุดเราก็สามารถปรับความเข้าใจกันได้ ส่วนข้อความที่นายปิยบุตรโพสต์ถึงนายพิธาค่อยข้างที่จะรุนแรงได้ชี้แจงให้นายปิยบุตรอย่างไร นายพิธากล่าวว่า เป็นความเข้าใจผิดเมื่อได้พูดคุยกันแล้วเขาก็เข้าใจ สิ่งที่ตนโพสต์นายปิยบุตรก็เข้าใจ ตอนนี้ได้ปรับความเข้าใจกันแล้วที่เหลือ ก็ไม่มีอะไรที่ค้างคาใจกัน ขอย้ำว่าสามารถที่จะทำงานต่อไปได้ ไม่มีปัญหาอะไร

เมื่อถามว่า เรื่องสำคัญเป็นเรื่องความคาดหวังของนายปิยบุตรที่อาจจะไม่สัมพันธ์กับสิ่งที่พรรค ก.ก. เป็นอยู่ตอนนี้ถ้าเทียบกับสมัยเป็นพรรคอนาคตใหม่ นายพิธา กล่าวว่า เรื่องนี้ ไม่ใช่เรื่องของนายปิยบุตรอย่างเดียว เมื่อพรรคอนาคตใหม่ ถูกยุบไป คณะกรรมการบริหารพรรคก็ถูกตัดสิทธิ์ไปจึงทำให้ไม่สามารถทำในสิ่งที่อยากเน้นได้และกฎหมาย ก็ห้ามไม่ให้มีการเข้ามาครอบงำพรรค เรื่องที่เกิดขึ้น แม้จะไม่มีความเข้าใจกัน แต่เราก็ได้ปรับความเข้าใจกัน นี่คือสิ่งที่ทำให้เราได้เรียนรู้และเติบโตไปด้วยกัน

โวฮึกเหิมเพื่อก้าวกระโดดต่อไป

เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ว่าจะมีผลกระทบกับการเลือกตั้ง นายพิธากล่าวว่า เป็นการถอยที่ทำให้เราก้าวกระโดดต่อไป ทั้งทีมงานพรรค ที่ได้เห็นตนและนายปิยบุตรปรับความเข้าใจกันแล้ว ความฮึกเหิม เมื่อคืนนี้(22ก.พ.)ก็เทียบเท่ากับว่าสปิริตของพรรคอนาคตใหม่กลับคืนมา ฉะนั้น แม้อาจจะมีกรณีที่เหมือนจะมีการขัดขากันบ้าง ยืนยันว่าเราไม่มีการขัดขากัน แต่เป็นการถอยหลังกันคนละก้าวและเวลาที่เหลืออยู่ตอนนี้ จะเรียกความเชื่อมั่นใจกลับคืนมา ขอบคุณทุกท่านที่เป็นตัวเชื่อมให้ความเป็นปึกแผ่นของพรรคกลับคืนมาและทำให้เราสองคนได้พูดคุยกันซึ่งตัวเชื่อมที่สำคัญ คือประชาชนและสมาชิกพรรคที่บอกว่าไม่อยากเห็นความขัดแย้งนี้ ปรับความเข้าใจกันเถอะ มั่นใจว่าเขาก็คงบอกนายปิยบุตรเช่นกัน ต้องขอขอบคุณทุกคน

เมื่อถามย้ำว่า ในส่วนนี้จะเป็นพลังในการสู้ศึกเลือกตั้งได้อย่างไรบ้าง นายพิธา กล่าวเพียงสั้นๆว่า “จากสิ่งที่เกิดขึ้นยืนยันว่าตอนนี้สปิริตของพรรคอนาคตใหม่กลับคืนมาครับ ทุกสิ่งทุกอย่างที่สะสมเมื่อปะทุออกมา และได้ทำความเข้าใจกัน ได้นึกถึงว่าเรามาเป็นนักการเมือง และตั้งพรรคขึ้นมาทำไม ก็ทำให้เรากลับมามีพลังมากขึ้น และเราจะใช้พลังนี้ไปจนถึงวันเลือกตั้งให้ได้”

ลั่นไม่มีท้อใจ-ปัดปิยบุตรครอบงำ

นายพิธา ยังยืนยันว่า ไม่มีเหนื่อย ไม่มีท้อ เราตั้งใจที่จะไปสู่เป้าหมายเดียวกันให้ได้ เราก็ลงพื้นที่อย่างหนัก รวมถึงได้การตอบรับจากการลงพื้นที่อย่างดี หากเราทำงานอย่างมีสมาธิที่สุดในช่วงโค้งสุดท้าย ก็จะเป็นประโยชน์ที่สุดกับการทำงานพรรค สิ่งที่แตกต่างไปจากอดีต คือ การทำงานที่เข้มข้นขึ้น ก้าวไกลได้มากขึ้น มีสมาธิมากขึ้น แม้จะมีความคิดเห็นไม่ตรงกันอีกในอนาคต เราก็จะได้พูดคุยกันอย่างฉันท์มิตร โดยที่ไม่ต้องผ่านสื่อหรือโซเชียลมีเดียและนายปิยบุตรไม่ได้มาครอบงำตน แต่เมื่อมีความไม่เข้าใจตรงกันก็จะพูดคุยกันในฐานะเพื่อนร่วมงานเก่า ส่วนประเด็นที่เข้าใจไม่ตรงกันนั้น เป็นเรื่องของการทำงานเล็กๆน้อยๆมารวมกันในการลงพื้นที่ต่างๆไม่ได้มีอะไรนอกเหนือไปจากนั้น

ปัดเกาเหลาหวังเรียกเรทติ้งก้าวไกล

เมื่อถามว่าความขัดแย้งครั้งนี้เป็นการเรียกเรทติ้งให้พรรคหรือไม่นายพิธาย้ำว่า“เป็นไปไม่ได้หรอกครับ พรรคเรามีวุฒิภาวะพอ ในการที่จะหาเสียง ในการทำงาน บางครั้งเมื่อมีความไม่เข้าใจกันและโอกาสในการที่จะปรับความเข้าใจกันน้อย มีการสื่อสารไปทางโซเชียล ตรงนี้ก็จะเป็นสิ่งที่ยืนยันกับพี่น้องประชาชนว่าจะไม่เกิดขึ้นอีกและคนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็จะมีสมาธิในการทำงานการเมืองต่อไป ไม่มีปัญหาอะไร”

เมื่อถามว่าบทบาทและอิทธิพลของแกนนำพรรคอนาคตใหม่และพรรคก้าวไกลมีมากแค่ไหนนายพิธาตอบว่า เป็นเรื่องอุดมการณ์และแนวคิด ที่แบ่งปันกันมาตั้งแต่ร่วมตั้งอนาคตใหม่แต่เรื่องของการบริหารและการคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส.เป็นเรื่องของคณะกรรมการบริหารพรรค ทั้งนี้ เรื่องของการวิพากษ์วิจารณ์เป็นเรื่องปกติ ซึ่งเราเจอมาตลอด 3 ปีการเป็นบุคคลสาธารณะ คงจะหลีกเลี่ยงเรื่องแบบนี้ไม่ได้

เล็งหาช่องดึง‘ธนาธร’ช่วยหาเสียง

เมื่อถามว่า หลังจากนี้จะได้เห็นนายปิยบุตรและนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ร่วมลงพื้นที่ด้วยหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า คงต้องดู เพราะตามกฎหมายสามารถเป็นผู้ช่วยหาเสียงได้ แต่ที่แน่ๆ ทั้งสองพร้อมสนับสนุนพรรค ก.ก. ตามที่กฎหมายกำหนดได้

เมื่อถามต่อว่าหากเป็นเช่นนี้จะหลีกเลี่ยงข้อกล่าวหาว่าครอบงำพรรคได้อย่างไร นายพิธา กล่าวว่า เราสามารถแจ้งชื่อกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง ให้เป็นผู้ช่วยหาเสียงได้ เหมือนตอนที่เลือกตั้งผู้ว่ากทม.ที่นายธนาธรขึ้นเวทีปราศรัยให้ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร อดีตผู้สมัครผู้ว่ากทม.

‘ธนาธร’เชื่อแค่ไม่ลงรอยทางความคิด

ด้าน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้าให้สัมภาษณ์ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ถึงกรณีเดียวกันว่า เกิดจากความไม่เข้าใจกัน และความเห็นที่แตกต่างกันในการทำงานหลายเรื่อง เพราะหลังจากที่พรรคอนาคตใหม่ถูกยุบนายปิยบุตร ก็ไม่ได้เข้าไปร่วมขับเคลื่อนพรรคก้าวไกล ไม่ได้ทำงานในสภา เกิดระยะห่าง ทำให้ความเห็นไม่ตรงกัน จึงเป็นธรรมดาที่จะเกิดความไม่เข้าใจกัน และความขัดแย้งตามมา แต่มองว่าเป็นเรื่องดี เพราะทั้งคู่ก็จะได้เรียนรู้และเติบโตกับสถานการณ์ ซึ่งทั้งคู่ก็มีวุฒิภาวะเพียงพอ ที่จะปรับความเข้าใจกันและถอยกันคนละก้าว และการได้มานั่งคุยกัน และเห็นผลประโยชน์ของพรรคมากกว่าอัตรา ก็จะทำให้ทุกฝ่ายเข้าใจ ทำให้ผู้สนับสนุน คนที่เชียร์พรรค ซึ่งเราก็ดีใจที่ทั้ง 2 ท่านซึ่งเป็นบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ มีความสำคัญต่อการผลักดันประชาธิปไตยในประเทศนี้ กลับมาจากมือทำงานร่วมกันเดินหน้าก้าวไปอย่างมีพลัง หลังจากนี้ นายปิยบุตรจะเดินทางไปพบภรรยาที่ต่างประเทศ จึงไม่แน่ใจว่าจะกลับมาเป็นผู้ช่วยหาเสียงให้กับพรรคก้าวไกลทันหรือไม่

อ้อมแอ้มเป็นกาวใจ2คนแค่ไปร้องเพลง

เมื่อถามถึงความไม่เข้าใจกันระหว่างทั้ง2คนเป็นเรื่องอะไร นายธนาธร กล่าวว่า ขอให้ไปสอบถามนายปิยบุตรและนายพิธาเอง ส่วนตัวคิดว่า น่าจะเป็นเรื่องของมิติการทำงาน ความคิดความอ่านของสถานการณ์บ้านเมืองที่ไม่เข้าใจกัน เมื่อถามว่า ที่ทั้ง2 คนดีกันได้ เพราะนายธนาธร เข้าไปเคลียร์ใจ นายธนาธรยิ้มและยักคิ้ว พร้อมกล่าวว่า“ไม่ใช่ ผมไปร้องเพลง”

ส่วนที่นายปิยบุตรตั้งคำถามถึงการทำงานของพรรคก้าวไกลมองว่าตอนนี้พร้อมสู้ศึกเลือกตั้งหรือยัง นายธนาธร กล่าวว่า ไม่มีพรรคไหนสมบูรณ์แบบ ทุกพรรคการเมืองคงต้องปรับปรุงและพัฒนา ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการสร้างพรรค ซึ่งพรรคก้าวไกลก็ชัดเจนว่าเราเริ่มต้นจากสมาชิกพรรค และประชาชน ไม่ได้รับเงินจากกลุ่มทุนไหน เพื่อให้เป็นอิสระในการทำงานในนามของประชาชนเต็มที่ เพราะฉะนั้นรูปแบบการสร้างพรรคเป็นรูปแบบที่เปิดมาก และเป็นธรรมดาที่จะถูกวิพากษ์วิจารณ์ ทั้งจากสมาชิกพรรคและทีมจังหวัดรวมถึง ส.ส.แต่ทุกอย่างต้องเรียนรู้และปรับปรุงต่อไป

ย้ำเป้าหลัก‘หยุดพรรคทหารจำแลง’

ส่วนกรณีที่นายปิยบุตร พยายามเปรียบเทียบระหว่างพรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทยตลอด นายธนาธร กล่าวว่า ไม่มีอะไรแปลกในการเลือกตั้ง ทุกพรรคการเมืองต่างแย่งชิงฐานเสียง ก็แข่งขันกันโดยธรรมชาติอยู่แล้วเมื่อเป็นพรรคการเมือง ส่วนตัวคิดว่าสิ่งที่สำคัญในการเลือกตั้งครั้งนี้คือ การหยุดพรรคทหารจำแลงมากกว่า ทั้งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ เป็นผู้นำที่มาจากการทำรัฐประหาร หลังอยู่มา2สมัยแล้วก็ยังเสพติดอำนาจต่อ สร้างพรรคทหารจำแลงขึ้นมา ภายนอกอาจจะดูเหมือนพรรคการเมืองที่เป็นประชาธิปไตย แต่โดยรากเหง้าแล้วมาจากการทำรัฐประหาร

ปัดเกาเหลา 2 คน สร้างภาพขัดแย้ง

เมื่อถามว่าการปะทะคารมกันระหว่างนายพิธากับนายปิยบุตรเป็นการสร้างกระแส เพราะสู้พรรคอื่นไม่ได้ นายธนาธร ยืนยันว่า ไม่ใช่ มีปัญหากันจริง เป็นความขัดแย้งจริงๆไม่ได้สร้างภาพ ส่วนการสู้พรรคอื่นไม่ได้ ก็ให้ผลเลือกตั้งเป็นตัววัด แต่เชื่อว่าพี่น้องประชาชนเห็นผลงานการทำงานในสภา อย่างใกล้ชิดก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าพรรคก้าวไกล ตลอด 4 ปี แม้จะเป็นฝ่ายค้าน ก็สามารถทำประโยชน์ เป็นผู้แทนประชาชนได้อย่างภาคภูมิใจ

ฟุ้งยุบ‘ก้าวไกล’ปลุกปชช.โกรธแค้น

ส่วนการประเมินว่า พรรคก้าวไกล จะได้กี่เก้าอี้ นายธนาธรกล่าวว่าขอให้สื่อมวลชนเป็นผู้ประเมินจะดีกว่า แต่ก็เราก็ต้องเชียร์พรรคก้าวไกลอยู่แล้ว เพราะเป็นพรรคที่สืบทอดมาจากการยุบพรรคอนาคตใหม่ หวังว่าจะได้รับความไว้วางใจจากประชาชน

เมื่อถามว่ากังวลกับกฎหมายยุบพรรคติดเทอร์โบหรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า ยุบพรรคอนาคตใหม่เป็นอย่างไร ลองยุบพรรคก้าวไกลอีกสิ ประชาชนก็คงจะโกรธแค้น ยืนยันว่าไม่กลัว พร้อมต่อสู้ทุกสถานการณ์ และรับมือกับทุกสถานการณ์

‘อนุมิน’ไม่หวั่นนายพลมาทำการเมือง

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุขในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย(ภท.) กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองในช่วงนี้ที่มีการนำนายพลมาเป็นแกนนำพรรคการเมืองมากขึ้นมีความกังวลหรือไม่ว่าหากมาทำพรรคการเมืองแล้ว ก็ไม่น่ากังวล ตำแหน่งนายพลก็เป็นตำแหน่งในอดีต ในสมัยที่ท่านเหล่านั้นรับราชการ พอมาทำพรรคการเมือง ตำแหน่งนายพลที่ได้รับการโปรดเกล้าฯมา ก็ติดตัวเขาไป ซึ่งไม่เกี่ยวกัน การเมืองก็คือการเมือง เมื่อเข้ามาทำงานนักการเมืองก็คือนักการเมืองคนหนึ่ง ไม่มีอะไรแตกต่างจากนักการเมืองทั่วไป ไม่เห็นมีอะไรต้องน่ากลัว เพราะทุกคนเข้ามาทำงานให้กับบ้านเมือง ก็หวังว่าคนที่เข้ามาทำงานให้บ้านเมือง ต้องทำประโยชน์ให้แก่บ้านเมือง เราจะไปกลัวได้อย่างไร

ยันระบอบปชต.ดีที่สุด-ช่วยกันรักษา

เมื่อถามว่ายึดอำนาจแล้วไปต่อทางการเมือง จะกลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า อย่าไปมองโลกในแง่ร้าย วันนี้มาถึงขนาดไหนแล้ว และทุกคนก็ซึมซับความสวยงามของระบอบประชาธิปไตย ว่าเป็นระบอบการปกครองที่ดีที่สุด ขนาดคนที่เคยยึดอำนาจมาก่อน สุดท้ายก็ต้องเข้าในระบบการเมืองในระบบเลือกตั้ง ตราบใดที่ ยังมีระบบนี้อยู่ รักษาไว้เถิดให้นาน ให้ดีที่สุด คนที่จะทำให้เกิดเหตุการณ์ไม่พึงไม่ประสงค์ได้ ก็คือนักการเมือง ควรทำตามกฎหมาย ทำตามระเบียบ ทำตามข้อบังคับต่างๆ ให้เคร่งครัด ยึดมั่นในความสามัคคี ปรองดองของคนในชาติ เมื่อทำอย่างนี้แล้วเชื่อว่าจะไม่มีระบอบอื่นเข้ามาแทรกแซงระบอบประชาธิปไตยได้

เมื่อถามว่าพรรคภูมิใจไทยจะมีมอตโตช่วงหาเสียงหรือไม่อย่างเช่นพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม นฐานะแคนดิเดตนายกฯ พรรครวมไทยสร้างชาตินายอนุทินกล่าวติดตลกว่า “กินกันฉันด้วย ตีกันฉันป่วย อร่อยบอกด้วย ถึงป่วยก็ไป”

ปชป.ปราศรัยเปิดผู้สมัครเมืองเพชร

นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคและประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เปิดเผยว่าพรรคพร้อมเข้าสู่สนามเลือกตั้งครั้งหน้าจะส่งผู้สมัคร ส.ส.ทุกเขตทุกจังหวัด และทยอยเปิดตัวเป็นระยะพร้อมกับประกาศนโยบายฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากชุดแรกไปแล้วโดยจะเริ่มเดินสายหาเมียงปราศรัยในภาคกลางและภาคตะวันตก พร้อมเปิดตัวผู้สมัครส.ส.เพชรบุรีเป็นจังหวัดแรก ในวันพรุ่งนี้(24ก.พ.)เวลา 16.00-18.00น.ที่ สนามหน้าโรงเรียนเบญจมเทพอุทิศ

จุรินทร์-3อดีตหน.ประกาศเจตนารมณ์

โดยนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคและตนจะเปิดแนวทางการทำงานการเมืองและการพัฒนามิติใหม่ภายใต้ยุทธศาสตร์“ก้าวใหม่เพชรบุรี ก้าวใหม่ประชาธิปัตย์” พร้อมด้วยคำประกาศเจตนารมณ์ของ 4 หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้แก่ นายชวน หลีกภัย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะและนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรคคนปัจจุบัน เพื่อแสดงความมุ่งมั่นในการทำงานเพื่อจังหวัดเพชรบุรี

‘อลงกรณ์’นำสู้มั่นใจปักธงทั้ง3เขต

นายอลงกรณ์ กล่าวว่า ขอโอกาสให้อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์คือนายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตรมช.พาณิชย์ อดีตส.ส.เพชรบุรี ละส.ส.บัญชีรายชื่อ 6 สมัย นายกัมพล สุภาแพ่ง อดีต ส.ส.เขต 2 เพชรบุรี 3 สมัย และ นายอภิชาติ สุภาแพ่ง ที่ปรึกษา รมช.พาณิชย์ อดีต ส.ส.เขต 3 เพชรบุรี 4 สมัย ลงสมัคร ส.ส.เขต 1-2-3 นายอรรถพร พลบุตร ที่ปรึกษา รมช..สาธารณสุข อดีต ส.ส.เขต 1และส.ส.บัญชีรายชื่อ 2สมัย ลงสมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ได้กลับมา เป็นปากเสียง ตัวแทนคนเมืองเพชร.อีกครั้งหนึ่ง

“วันนี้ตัดสินใจกลับมานำทีมประชาธิปัตย์ใน จ.เพชรบุรีและจะลงสมัครในเขตเลือกตั้งที่1ด้วยแนวทางใหม่พัฒนาเศรษฐกิจและการสร้างประชาธิปไตยสายตรงในยุค“อุดมการณ์-ทันสมัย”ด้วยยุทธศาสตร์”ก้าวใหม่เพชรบุรี ก้าวใหม่ประชาธิปัตย์”ภายใต้แนวทาง“เพชรบุรีโมเดล-เพชรบุรีต้นแบบ”ควบคู่กับการขับเคลื่อนนโยบายพรรคเพื่อยกระดับเพชรบุรีสู่เพดานใหม่ของการพัฒนาอย่างยั่งยืน”

พท.บุกเชียงราย-เชียงใหม่25-26กพ.

ที่พรรคเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย แถลงถึงการลงพื้นที่ปราศรัย จ.เชียงราย และเชียงใหม่วันที่ 25-26 กุมภาพันธ์นี้ว่าในวันที่ 25 ก.พ.นี้พรรคเพื่อไทยจะลงพื้นที่พบปะประชาชนและเปิดปราศรัยใหญ่ที่ จ.เชียงราย นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้วหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ช่วงเช้าจะพบปะ ผู้ประกอบการ ในพื้นที่และประชาชน ที่จุดผ่านแดนถาวร อ.แม่สาย จ.เชียงราย จากนั้นจะเปิดปราศรัยใหญ่ ที่โรงเรียนปล้องวิทยาคม อ.เทิง จ.เชียงราย ตั้งแต่เวลา 17:00-18.30 น.โดยหลังปราศรัยเสร็จสิ้นจะลงพื้นที่ถนนคนเดินใน อ.เมือง จ.เชียงรายด้วย ส่วนในวันที่ 26 ก.พ.คณะพรรคเพื่อไทยจะเดินทางไปยัง จ.เชียงใหม่ ช่วงเช้าจะไปพบผู้ประกอบการท่องเที่ยว และพี่น้องชาวชาติพันธุ์ ที่ม่อนแจ่ม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ และในช่วงบ่ายจะเดินทางไปที่ศูนย์เฝ้าระวังฝุ่น PM 2.5 และช่วงเย็นจะเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา อ.เมือง จ.เชียงใหม่

ประชุมสภานัดสุดท้ายสั่งลา

วันเดียวกันเวลา 09.30น.ได้มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ได้ให้ น.ส.กิตติประภา จิวะสันติการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวคำปฏิญาณตนตามรัฐธรรมนูญก่อนปฏิบัติหน้าที่ ส ส.โดยนายศุภชัย กล่าวว่าขอแสดงความยินดีด้วย และน่าจะเป็นคนสุดท้ายของสภาชุดนี้โดยขณะนี้มี ส.ส.ปฏิบัติหน้าที่ 417คน องค์ประชุม 209คน อย่างไรก็ตาม วันที่ 23ก.พ.จะเป็นการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นัดสุดท้าย ของสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 25 ซึ่งจะปิดสมัยประชุมรัฐสภา ในวันที่ 28ก.พ.นี้