ภท.แถลง 2 คดี บทพิสูจน์รมต.พรรครักษาผลประโยชน์ชาติ ย้ำ‘เขากระโดง’ยังไม่สิ้นสุด
31 มีนาคม 2566 ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย แถลงกรณีศาลปกครองสูงสุด พิพากษากลับคำพิพากษาศาลปกครองชั้นต้น ยกฟ้องคดี บีทีเอส (BTS) ยื่นฟ้องคณะกรรมการคัดเลือกฯ ล้มประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มว่า การที่ศาลได้พิเคราะห์แล้วเห็นว่าการยกเลิกประกาศเชิญชวนในการคัดเลือกเอกชนในการประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มไม่ได้เป็นไปตามอำเภอใจ และการยกเลิกเป็นไปตามมาตรา 6 ของพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)การร่วมทุนระหว่างรัฐกับเอกชน พ.ศ.2562 ถือเป็นการกระทำโดยสุจริตไม่เลือกปฏิบัติและชอบด้วยกฎหมาย
“เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่ารัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย โดยเฉพาะนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ไม่ได้กระทำการใดๆที่เป็นไปโดยทุจริต ตามที่มีความพยายามกล่าวหา การดำเนินการตั้งแต่ต้นเป็นการดำเนินการที่ถูกต้องตามกฎหมาย การกล่าวหาเรื่องการทุจริต ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่มีการรับเงินจำนวน3หมื่นล้านมีการโอนเงินไปต่างประเทศ ล้วนแล้วแต่เป็นการกล่าวหาด้วยข้อความอันเป็นเท็จต่อพรรคภูมิใจไทยและนายศักดิ์สยาม ขอย้ำว่าพรรคภูมิใจไทยมีจุดยืนในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต โดยเฉพาะนายศักดิ์สยาม ที่จะปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน ซึ่งที่ผ่านมาได้ดำเนินการยับยั้งทั้งประเด็นค่าโง่โฮปเวลล์ การต่อสัมปทานสายสีเขียว” นายศุภชัย กล่าว
นายศุภชัย กล่าวด้วยว่า ความจริงกรณีรถไฟสายสีส้มผู้ที่ฟ้องคดี BTSC ก็ไม่ได้เป็นผู้ที่ยื่นประมูล วันนี้ที่มีการฟ้องคดีแล้วศาลตัดสิน ทำให้โครงการดำเนินไปด้วยความล่าช้า ประชาชนในกทม.และทั่วประเทศจะได้รับผลกระทบจากความล่าช้าดังกล่าว ถือเป็นความเสียหาย เพราะมีการใช้สิทธิ์โดยไม่สุจริต เป็นการดำเนินที่มีวาระซ่อนเร่นอยู่ จึงขอถามหาความรับผิดชอบ จากทั้งพรรคการเมืองอื่น และบุคคลอื่นที่พยายามใส่ร้ายโจมตีพรรคภูมิใจไทย จะตอบสังคมอย่างไรต่อความเสียหายครั้งนี้
นายศุภชัย แถลงถึงกรณีที่ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาในคดีที่การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) ยื่นฟ้องกรมที่ดินกับพวกรวม2คน ละเลยไม่ตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามมาตรา61แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน กรณีที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ พร้อมสั่งให้กรมที่ดินตั้งคณะกรรมการสอบสวน ตามมาตรา61 ให้แล้วเสร็จภายใน60วันว่า ศาลปกครองได้วินิจฉัยกรณีดังกล่าว โดยเห็นว่า กรมที่ดินที่มีหน้าที่ดูแลแผ่นดิน ต้องเข้าไปปกป้องคุ้มครองในบริเวณนั้น และจะต้องดำเนินการตามกฎหมาย ยังไม่ได้วินิจฉัยว่าที่ดินทั้ง 900 กว่าแปลง ในพื้นที่5,083ไร่เป็นที่ดินของการรถไฟฯแต่ประการใด แต่เป็นกรณีที่กรมที่ดินจะต้องดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ซึ่งสาเหตุมาจากการละเลยไม่เข้าไปดูแลปกป้อง
นายศุภชัย กล่าวต่อว่า ส่วนการที่ศาลฯได้สั่งให้กรมที่ดินตั้งคณะกรรมการสอบสวน ตามมาตรา 61 นั้น คือการที่จะต้องไปดำเนินการพิสูจน์สิทธิ์ว่าที่ดินแต่ละแปลง กรมที่ดินได้มีการออกเอกสารสิทธิ์ให้ผู้ครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เป็นเรื่องของแต่ละแปลงไป ประมาณ900กว่าแปลงในพื้นที่5,083ไร่ ไม่ได้หมายความตามที่มีการเสนอข่าวว่า กรมที่ดินแพ้คดีเพราะศาลฯตัดเสนอว่าที่ดินทั้งหมดเป็นของการรถไฟฯ ดังนั้นกรณีนี้เป็นการวินิจฉัยในขั้นของศาลฯชั้นต้นเท่านั้น กรมที่ดินมีสิทธิ์อุทธรณ์ต่อศาลฯ สิ่งที่ศาลฯมีคำสั่ง ทั้งนี้หากย้อนกลับไป นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ได้มอบหมายให้การรถไฟฯฟ้องคดีกรมที่ดินเพื่อแสดงให้เห็นว่าการรถไฟฯมีสิทธิ์ในที่ดินหรือไม่อย่างไร ซึ่งแสดงให้เห็นว่านายศักดิ์สยามไม่ได้เพิกเฉย แต่มีคนไปบิดเบือนว่านายศักดิ์สยาม ไม่ยอมใช้อำนาจ หรือใช้อำนาจโดยไม่ชอบที่จะได้ที่ดินมา ยืนยันว่าวันนี้การพิสูจน์สิทธิ์เป็นไปตามกระบวนการตามกฎหมาย
“การกล่าวหาตระกูลชิดชอบ จริงๆแล้วตระกูลชิดชอบอยู่ในพื้นที่เพียง1-3แปลง จาก900กว่าแปลง ไม่ได้เกี่ยวไปถึงนายชัย ชิดชอบเข้ามาฮุบที่ดิน ถือเป็นการบิดเบือน ก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้ถูกกล่าวหา รวมถึงพรรคภูมิใจไทยด้วย ความขัดแย้งระหว่างประชาชนกับการรถไฟฯในเรื่องนี้มีมายาวนาน40-50ปีแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าทั้งหมดนี้ประชาชนได้ที่ดินมาไม่สุจริต ความจริงเป็นเรื่องที่ได้ที่ดินมาโดยสุจริต กรมที่ดินจึงออกเอกสารสิทธิ์ แต่ในฐานะพรรคการเมือง จึงมีความเป็นห่วงว่า หากกรมที่ดินไม่ได้อุทธรณ์ไปยังศาลปกครองสูงสุด โดยยุติอยู่แค่นี้ สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามประมวลกฎหมายที่ดินคือพิสูจน์แล้วที่ดินทุกแปลงที่ถูกพิสูจน์สิทธิ์จะต้องถูกอายัด จะไม่สามารถนำไปทำนิติกรรมใดๆทั้งสิ้น ผลกระทบความเสียหายจะเกิดขึ้นกับประชาชนที่ได้ที่ดินมาโดยสุจริต ก็อยู่ที่กรมที่ดินจะตัดสินใจอุทธรณ์หรือไม่” นายศุภชัย กล่าว
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี