16 พ.ค. 2566 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือ โทนี่ วู้ดซั่ม กล่าวในรายการ CareTalk x CareClubHouse ทางช่องยูทูบ CARE คิดเคลื่อนไทย ตอนหนึ่งว่า ส่วนประเด็นเสียงสนับสนุน 376 เสียง ถึงจะได้นายกฯ ตาม รธน.60 ตนเห็นว่าเรื่องนี้ สว. บางส่วนเขาก็มีอิสระของเขา แต่บางส่วนก็มีสังกัด แต่วันนี้เห็น สว.กลุ่ม ผบ.เหล่าทัพ ประกาศขอเป็นกลาง โดยหากพรรคก้าวไกลเข้าไปแล้วเสียงโหวตไม่ถึง มีทางแก้ 2 ทาง 1.ขอร้อง สว.บางกลุ่มที่ไม่ได้วิจารณ์อะไรให้ช่วยโหวต กับ 2.ไปเอาพรรคอื่นมาร่วมให้มันครบ

"แต่เอาจริงๆ การมีเสียงถึง 376 ไม่เป็นข้อดี เพราะเสียงข้างน้อยจะออกมาโวยวายว่าเป็น “เผด็จการรัฐสภา” จริงๆ ไม่ต้องใช้ส.ส.เยอะขนาดนี้ แต่ถ้าเกมมันบังคับแล้วส.ว.ไม่ยอมผ่าน ก็เสนอใหม่โดยการดึงพรรคอื่นมาร่วมเพิ่ม"นายทักษิณ กล่าว

เมื่อถามต่อไปของท่าทีพรรคก้าวไกล ที่จะไม่เอาพรรคภูมิใจไทยไปร่วมรัฐบาล เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของพรรคอันดับ 1 ไปวางยุทธศาสตร์ แล้วพรรคที่ 2 จะยกมือสนับสนุนให้ ขณะที่ประเด็นอุบัติเหตุทางการเมืองที่เกิดขึ้น นี่คือเหตุผลที่ทำไมพรรคเพื่อไทยต้องส่งตัวแทนชิงนายกฯ ถึง 3 คน เพราะพรรคเพื่อไทยโดนมาเยอะ อย่างน้อยโดนไป 1 ก็ยังเหลืออีก 2 คน แต่พรรคก้าวไกลมีคนเดียว ถ้าโดนอะไรขึ้นมาก็เสนออีกไม่ได้แล้ว เพราะไม่ได้เสนอตอนสมัครรับเลือกตั้ง แต่ตนก็ขออย่าให้เป็น แต่หากเป็นแล้ว ก็ต้องมาอยู่ที่พรรคที่ 2 

นายทักษิณ กล่าวว่า ส่วนประเด็นการแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งก็ไม่ง่ายอีกเพราะต้องเห็นชอบร่วมกันกับ สว. ก็ต้องแก้กันไปทีละประเด็น โดยหาประเด็นที่ไม่ขัดแย้ง แต่ก็เข้าใจเด็กที่ใจร้อน แต่บางเรื่องก็ทำเร็วไม่ได้ เพราะสังคมไทยเป็นสังคมต้านการเปลี่ยนแปลง แต่ก็ต้องบอกว่า สำหรับเขตทหารที่พรรคก้าวไกลชนะ แถมมีเรื่องเล่าว่าทหารตามแนวชายแดนกินเหล้าฉลองกัน เป็นสัญญาณว่าทหารชั้นผู้น้อยไม่พอใจกับสภาพที่เป็นอยู่ นอกจากนั้นการใช้อำนาจที่เกินกว่าเหตุ ก็กลายเป็นยิ่งให้พรรคก้าวไกลดูมีราคาขึ้น เรื่องนี้สังคมต้องศึกษาและเป็นบทเรียนว่าอะไรถึงเวลาต้องเปลี่ยนก็ต้องเปลี่ยน อย่าไปฝืนก็เพราะโลกมันมาแล้ว ไม่ว่าพรรคการเมือง นักการเมือง หรือองค์กรที่ใช้อำนาจก็ต้องเปลี่ยน

"ประเด็นการตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ผมไม่เชื่อว่าจะมีใครทำ เพราะเสียเวลาและบ้านเมืองเสียหาย ดีไม่ดีนานาชาติไปรับรองไปประชุมที่ไหนก็ไม่ได้ จึงไม่ควรจะคิด โดยสรุปก็ต้องดู 2 ด่าน 1.กกต. จะคิดอย่างไรกับคำร้อง 2.สว.จะโหวตให้ไหวหรือไม่พรรค ก้าวไกลก็ต้องไปหา ส.ส. มาให้ได้ 376 เสียง ซึ่งจริงๆ ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้นเพราะพรรคฝ่ายค้านจะไม่มีพลัง ส่วนอะไรคือสิ่งที่ควรทำเป็นอย่างแรกหากตั้งรัฐบาลได้ ก็ต้องถามพรรคแกนนำ แม้การเขียนนโยบายพรรคบรรดาพรรคร่วมจะมาเขียนร่วมกัน สำหรับพรรคเพื่อไทยจะดูในส่วนกระทรวงที่รับผิดชอบ แต่ก็ต้องไม่ขัดกับพรรคแกนนำ อย่างนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท ไม่รู้จะทำได้ไหม เพราะกระทรวงการคลังอาจเป็นของก้าวไกล อาจไม่อนุมัติงบประมาณ"นายทักษิณ กล่าว

ส่วนประเด็นที่ตนอยากกลับบ้าน เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการที่พรรคเพื่อไทยไม่ได้จัดตั้งรัฐบาล เป็นเรื่องของตนที่รักหลานอยากอยู่กับหลาน ดังนั้นยังไม่เปลี่ยนกำหนดการจากเดือน ก.ค. 2566 แล้วกระบวนการยุติธรรมจะเป็นอย่างไรก็ว่ากันไป ตนอยู่เมืองนอกมา 17 ปี มันก็เหมือนกับติดคุกขนาดใหญ่เพราะเข้าประเทศหรือบ้านตัวเองไม่ได้ ส่วนคำถามว่าพร้อมติดคุกหรือไม่ ขอตอบว่าอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ชีวิตเกิดมา 74 ปีแล้ว กำไรแล้ว ผ่านพ้นจุดนี้ไปคือมีความสุข เพราะได้อยู่กับหลาน ได้พาหลานไปส่งที่โรงเรียน

"ส่วนการกลับบ้านของผมที่มีข้อกังวลว่าอาจนำไปสู่ความขัดแย้งรอบใหม่ ต้องบอกว่าวันนี้ผมไม่ได้อยู่ในการเมืองแล้ว ไม่ใช่เมื่อก่อนที่มีเรื่องราวใส่ร้ายกัน แต่วันนี้ผมจะกลับบ้านไปเลี้ยงหลาน จะมีอะไรหรือ?"นายทักษิณกล่าว

อย่างไรก็ตามในช่วงท้าย นายทักษิณ ยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยจับมือกับพรรคก้าวไกลอยู่แล้ว ส่วนประเด็น ส.ว. อยู่ที่พรรคแกนนำพรรค จะไปคุยกับสว.ได้ไหม หรือไปเพิ่มจำนวน ส.ส. แต่หากไม่ได้ทั้ง 2 ทาง การเมืองก็จะยืดเยื้อต่อไป รักษาการต่อไป ก็อาจจะมีเสนอทางที่ 2 ต่อไป ส่วนอะไรจะทำให้ส.ว.เปลี่ยนใจ อันนี้ก็อยู่ที่พรรคแกนนำหรืออาจจะมีการฟอร์มรัฐบาลกันใหม่ และตนยังเชื่อมั่นว่าจะไม่มีปฏิวัติ เพราะบ้านเมืองยังไม่ถึงทางตันขนาดนั้น

ส่วนประเด็นเรื่องสู้ไปกราบไปนั้น นายทักษิณ กล่าวว่า กับข้อกล่าวหาสู้ไปกราบไป ตั้งแต่ยุคพรรคไทยรักไทยทำอะไรให้ประชาชนเยอะมาก OTOP 30 บาท ใช้หนี้ IMF มายุคพลังประชาชนอยู่สั้นมาก แต่เมื่อมายุคเพื่อไทย ทำเรื่องปรับค่าแรง ราคาสินค้าเกษตรให้ชาวบ้านอยู่ได้ ลดภาษีนิติบุคคล บอกเลยว่าทำเยอะ แต่การทำงานการเมืองเป็น Endless และ Thankless คือทำไม่รู้จบแล้วก็ไม่ได้คำขอบคุณ

"แต่ถ้าให้เทียบว่าใครทำอะไรเพื่อประชาชนบ้างผมก็ท้าเลย ส่วนกราบไปคือเคารพสถาบัน ผมไม่ได้สู้เพื่อทำอะไรไม่ดีกับสถาบัน ผมสู้เพื่อเรื่องการเมือง ผมและครอบครัวจงรักภักดี อย่างผมกับคุณหญิงพจมานก็ได้รับสมรสพระราชทาน อย่างก้าวไกลจะทำอะไร ซึ่งคิดว่าคงไม่ทำ ที่จะกระทบสถาบัน ผมก็คงไม่เห็นด้วย แต่ก็ไม่ใช่ขวาตกขอบ แต่เป็นคนไทยก็ต้องเคารพสถาบัน แค่นั้นเอง"นายทักษิณ กล่าว