(ต่อจากอาทิตย์ที่แล้ว)

(1) เรื่องวินัยและโทษทางวินัยยังคงใช้พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2535 มาบังคับใช้ต่อไป (หนังสือสำนักงานก.พ.ที่นร 1011/ล707 ลงวันที่ 2 พฤษภาคม 2562)(รออีกนิดนะครับ...คาดว่ากรมการปกครองกำลังดำเนินการเสนอขอนำพ.ร.บ.ข้าราชการพลเรือน ฉบับ 2551มาใช้บังคับอยู่ครับ)

(2) การดำเนินการทางวินัยกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ ผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรง กระบวนการพิจารณาทางปกครอง กรณีนี้ ผู้บังคับบัญชาต้องดำเนินการตามหลักทั่วไปตามมาตรา 30 แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539โดยการแจ้งข้อกล่าวหาและสรุปพยานหลักฐานที่สนับสนุนข้อกล่าวหาเท่าที่มีให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบข้อเท็จจริงอย่างเพียงพอและมีโอกาสโต้แย้งแก้ข้อกล่าวหา (ดูคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด (หมายเลขแดง) ที่ อ 1174/2557)

(3) การดำเนินการทางวินัย กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ ผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้มีอำนาจแต่งตั้งกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง (ดูหนังสือกระทรวงมหาดไทยที่ มท 03102/6212ลงวันที่ 21 พฤษภาคม 2555)

(4) คณะกรรมการสอบสวนที่ได้รับการแต่งตั้งต้องมีองค์ประกอบครบถ้วนเป็นไปตามกฎก.พ.ฉบับที่ 18 (พ.ศ.2540) ออกตามความในพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือนพ.ศ.2535 ว่าต้องการสอบสวนพิจารณาข้อ 3 โดยหากการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนไม่ถูกต้องแล้ว จะมีผลให้การสอบสวนเสียไปทั้งหมดตามข้อ 34 แห่งกฎก.พ.ฉบับที่ 18 ดังกล่าวข้างต้น

(5) คณะกรรมการสอบสวนผู้ได้รับการแต่งตั้ง ต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามและไม่มีสภาพร้ายแรงอันอาจทำให้การพิจารณาทางปกครองไม่เป็นกลางตามมาตรา 13 และมาตรา 16แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 (ดูคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด (แดง) ที่ ฟ. 14/2561 และคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด (แดง) ที่อ.795/2555)

(6) การแจ้งข้อกล่าวหาและสรุปพยานหลักฐานที่สนับสนุนข้อกล่าวหาคณะกรรมการสอบสวนต้องแจ้งข้อกล่าวหาตามบันทึกการแจ้งและรับทราบข้อกล่าวหาและสรุปพยานหลักฐานที่สนับสนุนข้อกล่าวหา(แบบ สว 3) ให้เป็นไปตามกฎก.พ.ฉบับที่ 18 ดังกล่าว ข้อ 15