ปมร้อนฉ่า! ‘จอมยุทธ์เหยียบหิมะไร้รอย’ ชิงแก้เกมเบรค ‘ทักษิณ’ กลับบ้านดังเอี๊ยด รู้ทันเหลี่ยมเล่ห์การเมือง ลามกระทบชิ่งขัดแย้ง ‘ก้าวไกล’ วัดใจทาง 3 แพร่งที่(จำเป็น)ต้องเลือก
สถานการณ์การเมืองไทย ณ ห้วงต่อจากนี้ไป ถือว่า “ทวีความเข้มข้น” ขึ้นเรื่อยๆ โจทย์สำคัญขณะนี้ คงหนีไม่พ้นการ “ฟอร์มทีมตั้งรัฐบาล” ที่นำโดย “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และพรรคก้าวไกลเป็น “แกนนำ” ที่คะแนนเสียงมาเป็นลำดับ1 กับ “14ล้านเสียง” ที่เทให้ จากการเลือกตั้ง 14 พ.ค.ที่ผ่านมา
สังคมต่างจับจ้อง พิธา ในฐานะ “ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ” แต่ด่านที่ขวางการจับขั้วตั้งรัฐบาลขณะนี้ ถือว่า “ยากสุดหิน” นอกจากจะทำอย่างไรให้เสียงถึง “376” ในวันโหวตนายกฯ ที่มี “สมาชิกวุฒิสภา” ร่วมพิจารณากับข้อ “คลางแคลงใจ” ในประเด็นนโยบาย “ทะลุฟ้า-ทะลุเพดาน” ที่เกิดขึ้นแล้ว
พิธา ยังต้องพบ “ขวากหนาม” สำคัญจากผลพ่วงประเด็น “หุ้นสื่อ ITV” ที่แม้ว่า ล่าสุด กกต. มีมติไม่รับคำร้อง 3 คำร้องถือหุ้นไอทีวี เหตุคำร้องยื่นเกินระยะเวลาตามกฎหมายกำหนด แต่มีมติรับเรื่องไว้พิจารณาตามมาตรา 151 อันเนื่องจากรู้อยู่แล้วว่าไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งแต่ยังฝืน โดยจะมีการตั้งคณะกรรมการสืบสวนไต่สวนต่อไป
แม้ตอนแรกฟังเหมือนจะดูดีเป็นบวกกับ พิธา แต่เอาเข้าจริงกลับกลายเป็นว่า มีคมดาบซ่อนไว้อีกเล่ม นั่นคือ มาตรา 151 ที่จ่อ “ทิ่มแทง” รอการพิพากษาจาก กกต.
ถ้ามองตามไทม์ไลน์ของการมี “รัฐบาลใหม่” และจากที่กกต.กำหนดกรอบเวลาไว้ พร้อม “คอนเฟิร์ม” แล้วว่า “การประกาศรับรองผลเลือกตั้ง” จะเกิดขึ้นไม่เกินวันที่ “13ก.ค.66” แน่นอน จากนั้นปลายเดือน 27ก.ค. เปิดประชุมสภาฯนัดแรก เลือก “ประธานสภาฯ-รองประธานสภาฯ”
ต่อมาในเดือน ส.ค.ห้วงสำคัญกับการเปิดประชุมรัฐสภาเพื่อโหวตเลือกนายกฯ และโปรดเกล้าแต่งตั้งนายกฯ โดยคาดว่าจะจัดตั้งคณะรัฐมนตรี เข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณในช่วง-ปลายส.ค. ดังนั้นปมร้อน “เคสพิธา” ก็คงจะ “ชัดเจน” ก่อนเข้าสู่ห้วงโหวตนายกฯ นับจากนี้ตีไปอีก “2 เดือน” คง “รู้เรื่อง” ว่าหมู่หรือจ่า ยกเว้นเกิด “อุบัติเหตุการเมือง” จนเครื่อง “ดีเลย์”ออกไป
แต่อีก “ความเคลื่อนไหวสำคัญ” ที่จะหยิบยกมาพูดถึงเป็น “พ้อยท์หลัก” ของวันนี้ คงหนีไม่พ้นความเคลื่อนไหวของทางฟากฝั่ง “พรรคเพื่อไทย” ในฐานะพรรคที่ได้คะแนนเสียงมาเป็นลำดับที่ 2 ในฐานะ “ผู้ร่วมจัดตั้งรัฐบาล” กับกระแสข่าวหนาหูเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆในภารกิจหลัก “พาพ่อทักษิณกลับบ้าน”
“อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร” แคนดิเดตนายกฯจากพรรคเพื่อไทย ส่งสัญญาณในทางเกือบ “คอนเฟิร์ม” แล้วว่าถ้า “ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง” จะพาพ่อ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ กลับบ้านภายในเดือนก.ค.นี้ แถมพร้อมเข้าสู่ “กระบวนการยุติธรรม” ในความผิดที่เคยก่อไว้ในอดีต
แต่เหมือน “บุญมีแต่กรรมบัง” ก่อนนั้นในคำว่า “ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง” ของอุ๊งอิ๊ง กลับดูเหมือนจะมีขึ้นมาทันตาเห็น เพราะล่าสุดมีรายงานข่าวชิ้นสำคัญปูดออกมาว่า “คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร” ได้นัดรับประทานอาหารกับคนใน “ครอบครัวชินวัตร” ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ภายหลังการประชุมร่วมกันของ “8พรรคร่วมรัฐบาล” ที่พรรคเพื่อไทยเมื่อช่วงเช้า 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา
เนื้อหาใจความหลักใหญ่คือ คนในครอบครัวชินวัตรกลับยังไม่เห็นด้วยที่จะดัน อุ๊งอิ๊ง เป็นนายกฯ เนื่องเพราะมองการณ์ไกลเห็นว่ายัง “ไม่พร้อม” ด้วย “คุณวุฒิ-วัยวุฒิ” บนสถานการณ์การเมืองขณะนี้ที่ทั้ง “ร้อนแรงเป็นไฟ-เขี้ยวลากดิน” หากเร่งดันขึ้นมาในตอนนี้เกรงจะเอาไม่อยู่กับความวุ่นวายที่พอมองเห็นเป็นเค้าลางๆอยู่ข้างหน้า ต้อง “เศรษฐา ทวีสิน” อีกหนึ่งแคนดิเดตนายกฯจากเพื่อไทย สิ ดูเหมาะสมกว่าที่จะมา “รับหนังหน้าไฟ” ตอนนี้
ส่วนอีกประเด็นหลักใหญ่ใจความคือการพา “พ่อโทนี่” กลับบ้าน ทางครอบครัวชินวัตรก็มีมติว่าควรทอดเวลาชะลอการ “คัม โฮม ไทยแลนด์” ออกไปก่อน แม้นายใหญ่แม้วของเพื่อไทย จะกระสันอยากกลับเต็มแก่ แต่ก็ยังไม่ไว้ใจกับบรรดา “จอมเขี้ยวลากดินทางการเมือง” เกรงว่ากลัวจะถูก “หลอกหักหลัง” จึงเห็นควรว่าควรกลับมาหลังมีรัฐบาลใหม่แล้ว
จากประเด็นนี้ นั่นทำให้เห็น “ตัวละครสำคัญ” ที่มักจะโผล่มาใน “ห้วงเวลาสำคัญ” ที่ต้องตัดสินใจแบบ “ชี้เป็นชี้ตาย” คือ “หญิงอ้อ พจมาน” ที่มี “อิทธิพล” อย่างสูงแบบลับๆ ในการเมืองค่ายระบอบทักษิณ ถึงขนาดที่ “เสี่ยตือ สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล” นักการเมืองชื่อดังรุ่นเก๋า ยังต้องออกมาโพสต์ในเชิง “ซูฮก”
ว่าหญิงอ้อกับห้วงการเมือง “หัวเลี้ยวหัวต่อ”แบบนี้ ยังมาในแบบ “เซียนเหนือเซียน เหยียบหิมะไร้ร่องรอย” ด้วย “รู้ทัน” กลเกมชิงเล่ห์เหลี่ยมการเมืองแบบทะลุปรุโปร่ง จึงเป็นอิทธิพลทางความคิดสำคัญในการเบรค “อดีตสามี” อย่างทักษิณ กลับบ้าน แบบดังเอี๊ยด เพราะจะกระทบชิ่งมาถึง ลูกสาวอุ๊งอิ๊ง ที่ถ้าหากปล่อยไปตามเกมอาจตกหลุมพราง เสียผู้เสียคนทางการเมืองได้ นั่นอาจ “พัง” จนกลับมาลำบากเลยทีเดียว
ถ้อยความโพสต์บางส่วนของเสื่อตือที่ยกนิ้วให้ ระบุว่า “รู้ด้วยเซ้นต์"ว่า ท่านอดีตนายกทักษิณ ยังไม่สมควรที่จะกลับในยามนี้ รู้จักที่จะรอเวลา ที่ทำให้มั่นใจ และ เชื่อมั่นว่าเวลาของ “ชินวัตร”มาถึงแล้วแต่เวลานี้ยังไม่ใช่ ขืนบุ่มบ่าม ตอนนี้จะแพ้ทั้งศึก และสงคราม ดูจากผลเลือกตั้งก็รู้ได้ด้วยสัญชาติญาณ ต้องรอเวลาที่จะพลิกฟื้นสถานการณ์ให้พรรคเพื่อไทย กลับมาเป็น เบอร์ 1 ก่อน ซึ่งคงใช้เวลาไม่นานนัก
เพื่อจะใช้กระแสศรัทธาของเพื่อไทยล้วนๆมาเป็นกำแพงโอบล้อม ความปลอดภัย ความยุติธรรม ให้ท่านทักษิณ และเป็นผนังทองแดงที่พร้อมจะปกป้อง อุ๊งอิ๊ง ในทุกสถานการณ์ทางการเมือง คิดถูกแล้วครับ คุณหญิง อย่าไปฟังเสียงเชียร์ของ FC จนลืมเสียงของความเป็นจริงที่อันตรายต่อ สามี และลูกเลยครับ นี่คือเซียน ตัวจริง หญิงแกร่งกล้า ประสบการณ์ พบมา พาพ้นผ่าน รู้กลเกมส์ ถูกวางไว้ ให้แผ้วพาน “พจมาน ชินวัตร” ผู้จัดเจน”
แต่ถ้าหากมาเกมแบบนี้ เกิดทักษิณ ยังไม่หือไม่อือ แล้วฟังตามที่ “จอมยุทธ์อ้อ เหยียบหิมะไร้ร่องรอย” เดินหมาก ยอมชะลอการกลับบ้านออกไปเป็นหลังมีรัฐบาลใหม่ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นช่วงเดือนก.ย.ไปแล้ว ถามว่าโทนี่จะรอไหวหรือไม่ มันจะส่งผลดีผลเสียอย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “มหามิตร” เบอร์ 1 แกนนำตั้งรัฐบาล อย่าง พิธา และ ผองพรรคก้าวไกล
เพราะหากมองดูด้วยตาเนื้อ จะมองเห็นมหามิตร ระหว่าง “เพื่อไทย-ก้าวไกล” แต่หากมองให้ลึกลงไปกว่าตาเนื้อ จะพบว่า สถานการณ์การจัดตั้งรัฐบาลยังไม่นิ่ง อยู่บนความสุ่มเสี่ยง หากพรรคอันดับ1ตั้งรัฐบาลไม่ได้ จนถึงขีดจำกัดที่หมดลง ตามมารยาททางการเมืองต้องเป็นพรรคลำดับ 2 สวิงมาจัดตั้งรัฐบาลแทน
ประกอบกับที่ครอบครัวชินวัตรที่หากกลอกตาไปตามรายงานข่าวชิ้นสำคัญ ที่เขามองไปถึง “อุ๊งอิ๊ง” ข้ามช๊อตไปถึงนั่งเป็นนายกฯ แต่ยังไม่พร้อม ต้องดัน เศรษฐา มาแทน มันไม่ข้ามหัว ข้ามหน้าข้ามตา เบอร์ 1 “ว่าที่นายกฯทิม พิธา” ที่กำลังขมักเขม้นเดินสายฟอร์มทีมตั้งรัฐบาลทุกวิถีทางไปหน่อยเหรอ ฟากบรรดา “กุนซือก้าวไกล” เมื่อเห็นข่าวนี้ จะไม่หัวร้อน กำหมัดแน่นหรือ นั่นทำให้พอมองเห็นความไม่ลงรอยระหว่าง 2 พรรคนี้ลางๆแล้ว
หรือเป็นไปได้ที่ ครอบครัวชินวัตร เขาอาจมองข้ามไปในวันที่ พิธา อาจแห้วนายกฯ หรือ ตกสวรรค์ก่อนด้วยพิษหุ้นสื่อ ก็เป็นไปได้ “ส้ม” ก็จะหล่นมาที่เขาแทน แต่ดูแล้ว มาถึงขนาดนี้ ก้าวไกลกอดโควตาอันดับ 1 กับสิทธิ์ได้จัดตั้งรัฐบาลก่อนไว้แน่นแน่นอน แถมล็อคคอเพื่อไทยเอาไว้ไม่ปล่อยง่าย
กลิ่นความไม่ลงรอยรุมๆอุ่นๆ อาจส่งผลถึงการ “เจรจาพาที” เพื่อแบ่งโควตากระทรวง แต่งตัวรอเข้านั่งบริหารประเทศเป็นรัฐบาลชุดใหม่อย่างเป็นทางการ โดยเฉพาะโควตา “กระทรวงยุติธรรม” ที่ถูกกระแสสังคมมองว่าเป็นหน่วยงานที่ไปเกี่ยวข้องในการเอื้อเปิดช่องให้ “คนมีคดีที่อยู่ต่างประเทศ” กลับบ้านได้
ยิ่งในยุคของ “สมศักดิ์ เทพสุทิน” นั่งเป็นเจ้ากระทรวง เมื่อครั้งยังสังกัด “พรรคพลังประชารัฐ” ก็ถูกครหาในเรื่องนี้อยู่พอสมควร จนเจ้าตัวย้ายสังกัดกลับมาซบพรรคเพื่อไทย ทิ้งตำแหน่งรมว.ยุติธรรม ไปกลางคัน จนรองนายกฯ วิษณุ เครืองาม ต้องมารักษาการแทน
ล่าสุด สมศักดิ์ ออกมาแถลงยืนยันแล้วว่า ระเบียบกรมราชทัณฑ์ใหม่ ที่ทำในสมัยตนยังเป็นเจ้ากระทรวง ไม่ได้เอื้อต่อทักษิณให้ “รอดคุก” เป็นการทำให้สอดรับกับกฎหมายป้องกันการกระทำผิดซ้ำ โดยเฉพาะคดีอาชญากรรมที่อุกอาจรุนแรง ไม่เกี่ยวกับเรื่องการเมือง ถือเป็นการบิดเบือน
ก็ว่ากันไปตามท้องเรื่อง แต่ความดูจะไม่ลงรอยนี้ หากถึงคราวแบ่งโควตากระทรวง แล้วกระทรวงยุติธรรม เป็นโควตาของก้าวไกลได้ไป นั่นจะไม่ทำให้ความใฝ่ฝันสูงสุดในการกลับบ้านของโทนี่ ทักษิณ หลุดลอยออกไปหรืออย่างไร? เพราะอาจเป็นไปได้ที่จะมีการแก้กฎหมายปิดช่องกลับบ้านอีก เพื่อสกัดการกลับมาเป็นเสี้ยนหนามทิ่มแทง
เพราะเราต้องยอมรับว่า 2-3 ครั้งหลัง ที่ทักษิณส่งสัญญาณทางการเมืองข้ามโลกผ่านรายการ “แคร์ทอล์ค” มันช่างไม่ถูกใจบรรดาซีกพรรคก้าวไกล หมายรวมไปถึงบรรดากุนซือสีส้มที่วางหมากกลยุทธ์ แม้หน้าฉากเวทีแถลงจัดตั้งรัฐบาล 2 ครั้งที่ผ่านมา จะนั่งยันแล้วนอนยันอีก ถึงขนาดกอดคอ ประกบมือกันเป็นรูปหัวใจ สื่อว่า “ไม่ทิ้งกันแน่” ก็ตามทีเถอะ
มันทำให้บรรดาคอการเมืองแบบ “เข้าเส้น” ได้ประเด็นเพิ่มเอาไว้เม้าท์กันในวงสภาฯกาแฟว่า นอกจากเงื่อนไข 376 เสียงสู่ฝันตั้งรัฐบาล - ปมร้อนพิธา - ลามไปจนถึงจะกระทบยังพรรคก้าวไกลทั้งพรรคหรือไม่ ภายใต้การชี้ชะตาของ กกต. หรืออาจต้องถึงมือศาล ยังมีประเด็นพาพ่อโทนี่กลับบ้าน ที่ถูกเซียนเหยียบหิมะไร้ร่องรอย ชิงแก้เกมขยักแรก กระทบชิ่งถึงหลายฝ่าย
สิ่งต่างๆเหล่านี้ ตีให้กว้างๆเลย อีกไม่เกิน 3 เดือน ก็จะทยอยชัดเจนขึ้นมาทีละเปราะๆ ยังไม่นับรวมถึงเคสที่ “หนักสุด” เลย คือหากไม่เป็นไปดั่งพรรคก้าวไกลหวัง ไม่ว่าจะด้วยตั้งรัฐบาลไม่ได้เสียงไม่ถึง หรือ พิธา ถูกฟันด้วยมาตรา 151 บรรดา “มวลชนแฟนคลับด้อมส้ม” คงไม่รอช้าที่จะลงถนนมาม็อบเรียกร้อง จนวุ่นวายบานปลาย
จับตาไม้ขีดก้านแรก อาจจะถูกจุดในวันที่สภาฯนัดโหวตนายกฯ จะมี"ม็อบส้ม"ไปส่ง พิธา เป็นนายกฯหรือไม่?
นี่จึงคือสถานการณ์ทางการเมืองรอบรรจบที่ “ร้อนแรง” ที่สุดของเมืองไทยในรอบหลายสิบปีเลยทีเดียว ต่อจากนี้ทุกอย่างก้าวทางการเมืองไทยสำคัญอย่างยิ่ง งานนี้ ทักษิณ จะได้กลับบ้านก.ค.นี้เลย หรือจะรอกลับหลังมีรัฐบาลใหม่ หรือจะแห้วอดกลับมาตลอดช่วงชีวิตที่เหลือ “ทาง 3 แพร่ง” ที่จำเป็นต้องเลือกนี้ต้องติดตามให้ดีอย่ากระพริบตา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี