ได้เสียงสว.หนุนครบถ้วนแล้ว
‘ก้าวไกล’โวแหลก
มั่นใจโหวต‘พิธา’รอบเดียวผ่าน
‘วันนอร์’ชี้13ก.ค.ถ้าไม่ได้
นัด19ก.ค.ประชุมเลือกใหม่
‘ชัยธวัช’ลั่นเดินหน้าแก้112
พท.ย้ำให้โอกาสโหวต‘พิธา’
โปรดเกล้าฯแต่งตั้ง “ประธาน-2 รองประธานสภาฯ” แล้ว ประธานรัฐสภา พร้อมน้อมนำพระราชดำรัส “ในหลวง” ไปปฏิบัติเพื่อประโยชน์สูงสุดของปชช.และประเทศชาติ ยันโหวตนายกฯ 13 กรกฎาคม ยึดตาม รธน.หวังจะเรียบร้อย หากยังไม่ได้ นัดเลือกใหม่ 19 กรกฎาคม เหมาะที่สุด เชื่อ สว.ใช้ดุลพินิจ-คุณวุฒิ เพื่อบ้านเมือง ด้าน “ปดิพัทธ์” ห่วงม็อบบุก ถ้าชุมนุมตามก.ม. มองทางออกมีมากกว่าหนึ่ง หลังสว.เสนอกฎ ปัดตกชื่อแคนดิเดตนายกฯ หากเสียงโหวตรอบ ไม่ถึงเกณฑ์
‘ศิริกัญญา’เผยได้เสียงส.ว.โหวต‘พิธา’หนุนนั่งนายกฯครบแล้ว แต่ต้องหาเพิ่ม เผื่อเปลี่ยนใจ มั่นใจฉลุยตั้งแต่รอบแรก ลั่นไม่ได้ใช้เงินซื้อเสียงสภาสูง บอกไม่ต้องรักก้าวไกล ขอแค่ยึดหลักการปชต.ให้ปท.เดินต่อ‘เพื่อไทย’ย้ำให้ก.ก.ดีลส.ว.หน้าที่หลัก ก.ก. แนะปรับกลยุทธ์เพื่อประโยชน์ในการโหวตนายกฯ
เมื่อวันที่ 7กรกฎาคม2566 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศแต่งตั้งประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยมีรายละเอียดดังนี้ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่สภาผู้แทนราษฎรได้ลงมติเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2566 เลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ดังนี้1.นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร 2. นายปดิพัทธ์ สันติภาดา เป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง 3.นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน เป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง จึงแต่งตั้งให้ผู้มีนามดังกล่าวเป็นประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ตามความในมาตรา 116 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 5 กรกฎาคม พุทธศักราช2566 เป็นปีที่ 8 ในรัชกาลปัจจุบัน ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
‘วันนอร์- 2รองปธ.รับโปรดเกล้าฯแล้ว
เวลา 10.00น.นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา พร้อมด้วย นายปดิพัทธิ์ สันติภาดา และนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน เข้ารับพิธีดำเนินการรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ห้องประชุม 604 ชั้น 6 อาคารรัฐสภา เกียกกาย โดยสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นผู้เชิญพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งประธานและรองประธานตามลำดับ ดังนี้ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่1และนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่2 ให้ปฏิบัติหน้าที่โดยสมบูรณ์ ทั้งนี้ ได้มีข้าราชการประจำสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรและผู้แทนจากพรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชาติ แต่งเครื่องแบบข้าราชการชุดขาวเต็มยศเข้าร่วมพิธีอย่างสมเกียรติ จากนั้นทั้งหมดได้ถ่ายภาพเพื่อเป็นที่ระลึกหน้าพระบรมฉายาลักษณ์
ปธ.ยันโหวตนายกฯรอบ2ต้อง19ก.ค.
เวลา 10.25น.ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯคนที่1และนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯคนที่ 2 แถลงภายหลังเข้าร่วมพิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งประธานผู้แทนราษฎรและรองประธานผู้แทนราษฎร
โดย นายวันนอร์ กล่าวว่า วันนี้นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างยิ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้มีพระบรมราชโองการให้พวกเราทั้ง 3คน ดำรงตำแหน่งประธานผู้แทนราษฎรและรองประธานผู้แทนราษฎร ซึ่งพวกเราขอน้อมนำพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ได้พระราชทานให้กับสมาชิกรัฐสภา เมื่อวันที่ 3ก.ค. ในพิธีเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยที่26 ที่ผ่านมา เพื่อประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติต่อไป สำหรับวันโหวตเลือกนายกฯนั้น เรื่องนี้ต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยปี2560และข้อบังคับของการประชุมรัฐสภาปี2563 ส่วนกรอบเวลาการประชุม ตลอดจนเรื่องจะโหวตอย่างไรนั้น เป็นเรื่องที่เราต้องปฏิบัติตามอยู่แล้ว รายละเอียดอื่นๆตนคิดว่า ถ้าเราพูดก่อนล่วงหน้าอาจจะไม่ตรงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งจะมีการประชุมวันที่ 13ก.ค.และหวังว่าจะดำเนินการด้วยความเรียบร้อย แต่หากไม่เสร็จสิ้นในวันที่ 13ก.ค.เราได้หารือกับประธานวุฒิสภาแล้วว่า เราอาจต้องมาประชุมกันในวันที่ 19ก.ค.เพราะดูแล้วว่า น่าจะเป็นวันที่เหมาะสมที่สุด เพราะเว้นไป 1สัปดาห์ เพื่อให้เลขาธิการสภาฯได้ทำหนังสือเชิญมาประชุมอีกครั้งในเวลาเช่นเดิม ส่วนการประชุมในวันที่ 19ก.ค.นั้น จะเสร็จสิ้นเรียบร้อยหรือไม่ขึ้นอยู่กับที่ประชุม
ประธานสภาฯกล่าวว่า หน้าที่ของรัฐสภามีหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะเป็นองค์กรที่ทำหน้าที่ในการเลือกนายกฯเพื่อไปบริหารประเทศ โดยเราต้องทำหน้าที่นี้เพื่อให้ได้นายกฯไม่เช่นนั้นประเทศจะไม่มีนายกฯเพราะปัญหาที่ประชาชนและปัญหาของประเทศชาติกำลังรอคอยรัฐบาลใหม่อยู่มากข้างหน้า ดังนั้นหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติคือ ต้องสนับสนุนให้การบริหารประเทศต่อไปได้ในเวลาที่เหมาะสม ส่วนข้อกังวลของสมาชิกวุฒิสภา(สว.) ในเรื่องโหวตนายกฯนั้น ตนเห็นว่า สว.ซึ่งเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทยเช่นเเดียวกับ สส.ตามรัฐธรรมนูญนั้น ในการปฏิบัติหน้าที่ก็เป็นอิสระของแต่ละคนที่จะใช้ดุลพินิจวินิจฉัยให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ เราคงไม่สามารถคาดได้ว่า สมาชิกจะโหวตอย่างไร เป็นเรื่องที่ท่านจะต้องใช้ดุลพินิจเพื่อประชาชนและประเทศชาติ เพราะทุกคนก็มีคุณวุฒิวัยวุฒิมีประสบการณ์และทุกคนก็ต้องมีหัวใจตรงกัน คือบ้านเมือง ประเทศชาติและประชาชนเป็นสิ่งสำคัญ ทุกคนต้องทำให้ดีที่สุดและตนขอฝากพี่น้องประชาชนทั่วประเทศว่า รัฐสภาของเราจะทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุดตามที่ท่านได้คาดหวัง
‘ปดิพัทธ์’ชี้เป็นสิทธ์ม็อบนัดชุมนุม
ด้าน นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯคนที่ 2กล่าวว่า สำหรับความห่วงใยเกี่ยวกับเรื่องการชุมนุมที่จะเกิดขึ้นบริเวณรัฐสภานั้น เรื่องนี้ไม่มีความกังวลใดๆในวันที่ 10ก.ค.ประธานสภาฯ จะมีการแบ่งงานให้กับรองประธานทั้ง 2คน การชุมนุมการรักษาความปลอดภัยกับการให้บริการประชาชนในพื้นที่สภา ซึ่งประชาชนมีสิทธิชุมนุมตามรัฐธรรมนูญถ้าอยู่ในขอบเขตอำนาจหน้าที่และพรบ.การชุมนุม
นายปดิพัทธ์ ยังปฏิเสธให้สัมภาษณ์กรณีที่ สว.มีข้อเสนอให้ปัดตกแคนดิเดตนายกฯที่ไม่ได้รับเสียงโหวตถึงเกณฑ์เป็นนายกฯ ในรอบแรก โดยระบุเพียงว่า ในการประชุมรัฐสภา ตนเป็นเพียงสมาชิกรัฐสภาเท่านั้น ส่วนการพิจารณาในรายละเอียด อยู่ที่ประธานรัฐสภาและรองประธานรัฐสภาที่จะพิจารณา ในนามสมาชิก มองว่ามีแนวทางได้มากกว่าหนึ่ง ส่วนทางออกของเรื่องนี้ ผมตอบไม่ได้ เพราะไม่เกี่ยวแต่ฐานะสมาชิกรัฐสภาทางออกเรื่องนี้ มีมากกว่าหนึ่ง ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับมติและการประชุมว่า เป็นอย่างไรและมติที่ประชุมเป็นเช่นไร”นายปดิพัทธ์ กล่าว
‘ชัยธวัช’เย้ยแค่ความเห็น‘สว.’บางคน
นายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ เลขาธิการพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์กรณีเสียงของสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) เริ่มชัดเจนไม่สนับสนุน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล โดยเฉพาะเงื่อนไขแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา112 ว่า ยังเป็นแค่ความเห็นของสว.เพียงบางราย สว.ส่วนใหญ่ยังไม่ได้แสดงออกอะไร คิดว่าจะแสดงออกทีเดียวในวันโหวตนายกฯ13ก.ค.นี้ ดังนั้นอย่าเพิ่งประเมินสถานการณ์จากที่เห็น สิ่งที่เป็นอาจไม่ใช่สิ่งที่เห็นก็ได้ ยังมั่นใจว่า จะผ่านไปได้ด้วยดี และมั่นใจในวิจารณาญาณของสว.ว่า อยากจะเห็นประเทศชาติเดินหน้าอย่างไร การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโอกาสสำคัญที่ประชาชนได้แสดงออกต้องการคืนความเป็นปกติของระบอบประชาธิปไตยไทย ตนยังเชื่อมั่นในสว.จำนวนมากว่า จะให้โอกาสนี้กับประเทศไทย
เมื่อถามย้ำว่า ยังยืนยันที่จะแก้ไขมาตรา112แม้จะมีคำทักท้วงจากสว.นายชัยธวัช กล่าวว่า ยังมั่นใจว่า ถ้าได้อธิบายเหตุผล จะมีความเข้าใจมากขึ้น เราต้องอธิบายเหตุผลให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ในเวลาที่เหลือ เวทีสำหรับสื่อมวลชนในสัปดาห์หน้าจะมีความสำคัญกับประชาชนและสังคม ในการสะท้อนไปยังสว.ซึ่งในวันนี้(7ก.ค.)จะมีการหารือกับ นายวันนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฏร เกี่ยวกับกระบวนการแสดงวิสัยทัศน์ของแคนดิเดตนายกฯที่ถูกเสนอก่อนโหวต จะมีเวลาแสดงวิสัยทัศน์อย่างไร เป็นไปได้ หรือไม่นอกจากการแสดงวิสัยทัศน์แล้วจะมีการเปิดให้สส.และสว.อภิปรายซักถามแคนดิเดตนายกฯที่ถูกเสนอชื่ออย่างเต็มที่ เพื่อให้เกิดความชัดเจนที่สุดก่อนลงมติ แต่คงรอต้องหารือกับประธานสภาฯก่อนว่า จะได้ข้อสรุปอย่างไร
ระวังสิ่งที่เป็นอาจไม่ใช่สิ่งที่เห็น
เมื่อถามว่า มีการวิเคราะห์กันว่าถ้าฟังจากเสียงสว.การโหวตเลือก นายพิธา ครั้งแรกอาจจะไม่ผ่าน นายชัยธวัช กล่าวย้ำว่า อย่างที่บอกไป สิ่งที่เป็นอาจไม่ใช่สิ่งที่เห็น ยืนยันว่าหากโหวต นายพิธา ไม่ผ่านในวันที่13ก.ค.จะเสนอชื่อ นายพิธา เพื่อโหวตอีกในวันที่19ก.ค.แน่นอน แต่ยังเชื่อว่า จะโหวตจบในครั้งเดียว และไม่กังวลหากมีการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯมาแข่ง เพราะเป็นปกติในระบบรัฐสภา ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ เชื่อว่าสว.จะไม่สนับสนุนการตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ส่วนจะต้องโหวตกี่ครั้งนั้น อย่าเพิ่งไปสรุปเป็นตัวเลข ต้องดูสถานการณ์ที่เป็นจริงและอย่าเพิ่งตัดว่าจะต้องโหวตจบในครั้งเดียวออกไป
เชื่อสว.ลงมติตามเสียงผลเลือกตั้ง
“ยังบอกไม่ได้ว่า จะมีเสียง สว.สนับสนุนเท่าไหร่ สว.ส่วนใหญ่จะไม่ได้ออกมาบอกว่าคิดเห็นอย่างไรกันแน่ มีเพียง สว.เพียงส่วนน้อยที่ออกมาให้ความเห็น ผมยังเชื่อมั่นว่า สิ่งที่ยังเงียบอยู่จะเป็นสิ่งที่เปิดโอกาสให้ประเทศได้คืนความเป็นประชาธิปไตยให้ระบบการเมืองไทยและเดินหน้าไปตามกระบวนการ” นายชัยธวัช กล่าว เมื่อถามว่าหากกลุ่มผู้ชุมนุมที่สนับสนุนพรรคก้าวไกลเตรียมออกมาเคลื่อนไหวจะมีการส่งสัญญาณใดหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า อย่าเพิ่งบอกว่ามาสนับสนุนพรรคก้าวไกล ตนก็เห็นว่าทางกลุ่มผู้ชุมนุมเปิดให้มีการโหวตแสดงเจตจำนงค์ของประชาชนที่ลงคะแนนเสียงว่าให้เคารพผลการเลือกตั้งเป็นสำคัญ ประเด็นคือต้องการให้ทุกฝ่ายปกป้องระบบ ไม่ใช่ตัวบุคคลหรือพรรคการเมืองใด ส่วนจะแสดงออกอย่างไร ตนไม่ทราบ หวังว่าจะแสดงออกอย่างสงบไม่ว่าจะฝ่ายไหน เพราะเราไม่ต้องการเห็นความรุนแรง ทางประธานสภาฯก็ได้กำชับเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย
‘ก้าวไกล’ได้เสียงสว.หนุนครบแล้ว
ที่พรรคก้าวไกล น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการเจรจากับ สว.หลังหลายคนออกมาแสดงท่าทีเปลี่ยนใจไม่โหวตให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลเป็นนายกฯว่า เคยให้สัมภาษณ์หลายครั้งว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้น เราจำเป็นจะต้องหาเสียงสนับสนุนจาก สว.ให้ได้มากเกินกว่าที่จำเป็น ในกรณีที่ สว.อาจเปลี่ยนใจ ซึ่งเป็นเรื่องที่เราเตรียมพร้อมไว้แล้ว “ขณะนี้ได้เสียง สว.ครบแล้ว แต่ยังต้องทำงานต่อเนื่อง เผื่อมีกรณีบางท่านอาจเปลี่ยนใจจะได้มีสำรองเอาไว้ เพราะเราไม่มีทางทราบได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหน้างาน ส่วนกระแสข่าวว่าสว.จะสนับสนุนไม่ถึง10 คนนั้น ยืนยันว่าในฐานข้อมูลของพรรคไม่ได้เป็นแบบนั้น มั่นใจว่า วันที่ 13ก.ค.จะได้เสียง สว.ยกมือสนับสนุนนายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรีครบถ้วนในครั้งแรกเลย” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว
รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวอีกว่า ที่มีกระแสข่าวพรรคใช้เงินซื้อเสียงสว.ให้โหวตสนับสนุนนายพิธา ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงอย่างแน่นอน เป็นเรื่องที่เราไม่นิยมทำอยู่แล้ว เป็นการคาดการณ์ไปต่าง ๆ นานา เขาก็คิดว่านี่อาจจะเป็นอีกหนึ่งทางก็ได้ ซึ่งไม่ใช่ทางที่เราเลือก เพราะเราใช้วิธีการพูดคุยอย่างเดียว และมี สว.บางท่านที่ไม่สะดวกเปิดเผยต่อสาธารณะ ขอให้เห็นผลกันในวันนั้นว่า จะโหวตแบบไหน จึงเกิดความกังวลจากหลายฝ่ายว่า คะแนนเสียงสว.ไม่น่าได้มาง่าย
“กรณีสว.ตั้งเงื่อนไขโหวตสนับสนุน นายพิธา ขอให้ สว.ทุกคน ยึดหลักการประชาธิปไตยเสียงข้างมากตามปกติ ไม่จำเป็นต้องรักเรา ไม่จำเป็นต้องเชียร์เรา เชียร์ก้าวไกล หรือเชียร์นายพิธา ขอแค่เคารพเสียงของประชาชนที่ได้เลือกเรามาให้เป็นพรรคที่ได้เสียงอันดับ1และรวมตัวจัดตั้งรัฐบาล ได้คะแนนเสียงข้างมากในสภาฯ ยึดหลักการง่ายๆแค่นี้ เพื่อให้โอกาสประเทศไทยเดินหน้าต่อไป” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว
‘เพื่อไทย’โยนดีลสว.หน้าที่‘ก้าวไกล’
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง สส.บัญชีรายชื่อและเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์กรณีการโหวตนายกรัฐมนตรี วันที่ 13ก.ค.มีความกังวลท่าทีของ สว.หรือไม่ ว่า เท่าที่ฟังมีแค่ สว.บางส่วนที่แสดงความคิดเห็น แต่เข้าใจว่า สว.ส่วนมากยังสงวนท่าที คิดว่าการตัดสินใจของ สว.จะตรงกับความต้องการของประชาชน เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยจะมีการพูดคุยกับทางพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในเงื่อนไขมาตรา112ของ สว.เพื่อปิดข้ออ้างและผลักดันให้ นายพิธา เป็นนายกฯตามเจตนารมณ์หรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ทางพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นพรรคหลักต้องพิจารณาเรื่องนี้ ส่วนในนามพรรคร่วม 8พรรค เคยมีการพูดคุยเรื่องนี้กันมาก่อนหน้านี้แล้ว ดังนั้นเรื่องนี้จึงมีความชัดเจนระหว่าง 8พรรคร่วม ส่วนกรณีนายกฯเป็นเรื่องที่พรรคก้าวไกลต้องไปปรับกลยุทธ์เพื่อประโยชน์ในการเลือกนายกฯ
8พรรคฯช่วยเจรจากับสว.อีกทาง
เมื่อถามว่า ท่าทีของสว.ชัดเจนเรื่องมาตรา112 ทำให้มีการคาดการณ์ว่า นายพิธา จะไม่ได้รับเลือกในรอบแรก นายประเสริฐ กล่าวว่า หากฟังจากแกนนำพรรคก้าวไกลจะเห็นชัดเจนว่า เขามั่นใจว่าจะผ่าน พรรคก้าวไกลให้ความมั่นใจมาโดยตลอด ว่า สว.จะสนับสนุน ก็ขอให้ดูการโหวตก่อน ถามว่าทางพรรคเพื่อไทยได้เดินสายขอความร่วมมือสว.ด้วยหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยช่วยเป็นบางส่วน แต่ตัวหลักเป็นของพรรคก้าวไกลเอง ฉะนั้นแกนนำทั้ง 8พรรค หากใครรู้จักสว.ท่านใด ก็พยายามทำความเข้าใจอยู่ แต่ส่วนใหญ่คือพรรคก้าวไกลต้องเดินเป็นหลัก
เมื่อถามว่า 8พรรคร่วมมีแผนสำรองหรือไม่ หากโหวตรอบแรก นายพิธา ไม่ได้รับเลือก หรือกรณีที่มีการเสนอชื่อแข่งแล้วทางสว.ไปสนับสนุน นายประเสริฐ กล่าวว่า เราไม่มีแผนสำรอง หากในรอบแรกไม่ผ่านคงต้องมีการกลับมาคุยกันอีกครั้ง ส่วนกรณีที่มีข้อกังวลว่า อาจจะมีพรรคที่เคยเป็นขั้วเก่าของรัฐบาลเสนอคนแข่งนั้น นายประเสริฐ กล่าวว่า หากฟังจากการให้สัมภาษณ์ของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และพรรคภูมิใจไทย (ภท.)จะเห็นชัดเจนว่า ไม่สนับสนุนรัฐบาลเสียงข้างน้อย ซึ่งเรื่องนี้ก็เบาใจได้ระดับหนึ่ง แต่การเมืองก็เกิดอะไรขึ้นได้ จึงเป็นเรื่องที่แกนนำทั้ง 8พรรคร่วมต้องประเมินสถานการณ์ให้ดี
ย้ำ‘เพื่อไทย’ไม่มี‘งูเห่า’แน่นอน
“ส่วนกระแสงูเห่า ผมยังไม่ทราบ แต่ขอยืนยันว่า ในส่วนของพรรคเพื่อไทยไม่มี เพราะเป็นที่แน่ชัดแล้วว่าในอดีตที่ผ่านมาใครเป็นงูเห่า เลือกตั้งแต่ละครั้งสอบตกหมด ซึ่งครั้งนี้พรรคเพื่อไทยคัดเลือกสมาชิกที่มีอุดมการณ์ที่แน่วแน่ จึงมั่นใจว่า งูเห่าจะไม่เกิดขึ้นและวันโหวตนายกฯ เราจะกำชับไปยังสส.แต่ละท่าน รวมถึงวิธีการโหวตก็เป็นในทางที่เปิดเผย ไม่ได้เป็นในทางลับ จึงเชื่อว่างูเห่าจะไม่กล้า หากใครทำเท่ากับฆ่าตัวเอง” นายประเสริฐ กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีที่สว.เสนอกติกาให้ปัดตกชื่อแคนดิเดตนายกฯที่ได้เสียงโหวตไม่ผ่านเกณฑ์รอบแรก นายประเสริฐ กล่าวว่า เป็นความเห็นสว. เพียงส่วนหนึ่ง ซึ่งการปัดตกรอบแรกนั้น ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของประธานรัฐสภาและสมาชิก ทั้งนี้ ต้องดูองค์ประกอบหลายอย่างอาจไม่ถึงขั้นดำเนินการตามที่เสนอให้ความเห็น อย่างไรก็ดีความเห็นของสว.นั้น เป็นส่วนหนึ่งของสว.250คน ไม่ใช่มติของสว.แต่อย่างใด ส่วนการส่งชื่อแคนดิเดตนายกฯซ้ำ ตนเข้าใจว่า ประธานรัฐสภานำเข้าที่ประชุมได้เลย
‘บิ๊กตู่’ลั่นอย่าลากเข้าไปขัดแย้ง
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ประเด็นทางการเมือง ว่า เรื่องการเมืองมีอย่างเดียว วันนี้ทราบตั้งแต่เช้าแล้วได้มีการรับสนองพระบรมราชโองการในการแต่งตั้งประธานสภา และรองประธานสภาทั้ง 2 คน ซึ่งในฐานะรัฐบาลได้ทำตามขั้นตอนทุกประการไปด้วยความเรียบร้อยจนถึงวันนี้ ต่อไปคงเป็นเรื่องของสภาเรื่องของ ส.ส.ที่จะดำเนินการกันต่อไป ก็สุดแล้วแต่ว่าจะอะไรก็แล้วแต่ ก็เป็นเรื่องของมติต่างๆ ตนไม่มีคำตอบอะไรทั้งสิ้น ตนไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวอะไรทั้งสิ้นเลย ตนบอกไปตั้งนานแล้ว ฉะนั้น อย่าเอาตนไปอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งใดๆ ทั้งสิ้นเท่านั้นเอง บ้านเมืองมันไปไม่ได้
ย้ำซีกรบ.เดิมยังไม่คุยส่งชิงนายกฯ
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคร่วมรัฐบาลเดิมได้มีการพูดคุยอะไรกันหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ไม่มี ไม่ได้พูดคุย” จากนั้นได้เดินออกจากโพเดียม เมื่อถามว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) จะเสนอชื่อนายกฯ หรือไม่ และยืนยันหรือไม่จะไม่มีการเสนอชื่อคนในพรรคและเสนอชื่อคนในพรรคร่วมรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ก็ที่พรรคเขาพูดไปแล้ว พูดไปแล้วไงเล่า”
‘ธนกร’ชี้โหวตครั้งเดียวไม่ใช่หน.ห้อง
นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุผลในช่วงนี้ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ไม่ตอบประเด็นคำถามทางการเมือง เนื่องจากต้องการเปิดให้เป็นช่วงที่พรรคการเมืองเตรียมจัดตั้งรัฐบาลดำเนินการตามขั้นตอนของสภาผู้แทนราษฎร เมื่อได้ประธานและรองประธานสภาแล้ว และเข้าสู่ขั้นตอนรอนัดประชุมเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี เพื่อลดอุณหภูมิความขัดแย้งทางการเมือง ทำหน้าที่รัฐบาลรักษาการให้ดีที่สุด และเตรียมส่งมอบตำแหน่งให้รัฐบาลชุดใหม่
ส่วนที่นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ว่าที่รองประธานสภาฯคนที่ 2 ระบุจะให้เวลาการโหวตเลือกนายกฯ 3 ครั้งนั้นนายธนกร กล่าวว่า ถ้าตามที่นายพิเชษฐ์บอกว่าวันที่ 13ก.ค.นี้จะเป็นการนัดเลือกนายกฯ นัดแรก ก็ถือว่ามีเวลามากถึง 7วันและที่ผ่านมากว่า 1เดือนคิดว่า เพียงพอสำหรับการเจรจาขอคะแนนสนับสนุนจากทั้ง สส.และสว.ส่วนตัวจึงมองว่า การโหวตครั้งเดียวก็พอที่จะเห็นทิศทางการเมืองแล้วว่า จะเป็นอย่างไร หากคะแนนของทั้ง2สภาโหวตให้ นายพิธา ไม่ถึง 376เสียง ครั้งที่2 ควรจะให้ที่เป็นลำดับที่2 เสนอชื่อต่อไป ไม่ใช่เสนอชื่อคนเดิม2-3ครั้ง มันไม่ใช่เลือกหัวหน้าชั้นเรียน เพราะขนาดเลือกหัวหน้าชั้นเรียน ยังเลือกแค่ครั้งเดียว ยกเว้นคะแนนเท่ากัน หากจะเสนอชื่อนายพิธา อีกเป็นครั้งที่2 ก็ต้องมีองค์ประกอบหรือมีเงื่อนไขใหม่เพิ่มให้สภาพิจารณา หากไม่มีอะไรใหม่ ตนคิดว่าให้โอกาสครั้งเดียวก็พอ เพื่อไม่ให้เสียเวลาสภา
ส.ว.แย้มโหวตรอบ2ไม่ควรชงชื่อเดิม
นายเสรี สุวรรณภานนท์ สว.ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา กล่าวถึงการโหวตเลือกนายกฯ มีผู้เสนอว่าไม่ควรนำประเด็นการแก้ไขม.112 หรือคุณสมบัติ นายพิธา มาตั้งแง่ เพราะเป็นคนละเรื่องกัน ว่า ไม่สามารถทำอย่างนั้นได้ เพราะตามรัฐธรรมนูญ กำหนดหน้าที่ให้สมาชิกรัฐสภาให้ความเห็นชอบ ไม่ใช่แค่เลือกหรือไม่เลือก ดังนั้นกรณีจะให้ความเห็นชอบต้องพิจารณารายละเอียดที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วน ส่วนที่บางฝ่ายอ้างว่า สว.สามารถใช้อำนาจยับยั้งการแก้ไขมาตรา112 ตอนพิจารณาร่างพระราชบัญญัติของวุฒิสภา ตนมองว่า ไม่สามารถรอให้ถึงตอนนั้นได้ เพราะสว.ต้องตัดไฟตั้งแต่ต้นลม เนื่องจากทราบเจตนาของผู้เสนอแก้ไขว่า ต้องการใช้เป็นเวทีเพื่อเปิดช่องวิพากษ์วิจารณ์สถาบันเบื้องสูง
ไม่ต้องประท้วง-แค่งดออกเสียงก็จบ
เมื่อถามว่า กรณีโหวตนายกฯรอบแรก แต่ นายพิธา ไม่ได้รับเสียงเห็นชอบเกินกึ่งหนึ่งของรัฐสภาจะทำให้เกิดสถานการณ์พลิกขั้วการเมืองหรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า เกิดได้ทุกอย่าง เพราะขึ้นอยู่ สส.ไปจัดทัพ รวบรวมคะแนน ซึ่งอาจทำให้เกิดการพลิกขั้ว หรือเปลี่ยนข้างได้ทั้งสิ้น เมื่อถามถึงกรณีที่สว.มีความเห็นว่า ให้ปัดตกชื่อแคนดิเดตนายกฯ ที่โหวตไม่ผ่านในรอบแรก นายเสรี กล่าวว่า ตามกติกาไม่มีสิ่งใดห้าม แต่อยู่ที่ความเหมาะ ความควร หากคนที่รัฐสภาไม่เห็นชอบในรอบแรก จะเสนอกลับมาอีกเพื่ออะไร หากทำเช่นนั้นอาจจะทำให้เกิดภาพได้ว่า มีการล็อบบี้กันเกิดขึ้นหรือไม่ ทั้งที่คะแนนรอบแรกปรากฏชัดเจนอยู่แล้ว หากรอบแรกไม่ได้ รอบต่อไปต้องเปลี่ยนคน หากรอบสอง พรรคยังเสนอชื่อคนเดิม สว.ไม่จำเป็นต้องประท้วง หรือวอล์คเอ้าท์ แค่นั่งบนเก้าอี้และงดออกเสียง ก็เพียงพอและมีค่าเท่ากัน” นายเสรี กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี