วันอังคาร ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
'ประสาร'แพร่บทความ : วันนี้สุกงอมแล้วที่จะอำนวยความยุติธรรมเชิงสมานฉันท์

'ประสาร'แพร่บทความ : วันนี้สุกงอมแล้วที่จะอำนวยความยุติธรรมเชิงสมานฉันท์

วันพฤหัสบดี ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2566, 20.02 น.
Tag : แกนนำพันธมิตร จำลอง ศรีเมือง ประสาร มฤคพิทักษ์ พิภพ ธงไชย สนธิ ลิ้มทองกุล สมานฉันท์
  •  

เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2566 เว็บไซต์"สำนักข่าวอิศรา" ได้เผยแพร่บทความของ ประสาร มฤคพิทักษ์ ในหัวข้อเรื่อง "วันนี้สุกงอมแล้วที่จะอำนวยความยุติธรรมเชิงสมานฉันท์" โดยมีรายละเอียดดังนี้

คำสั่งศาลล้มละลายกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ล 5598 / 2566 คดีที่การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย (ทอท.) ยื่นฟ้องแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) 11 คน ให้เป็นบุคคลล้มละลายคดีบุกรุกสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อ 24 พย. - 3 ธค. 51 โดยให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีอำนาจจัดการเกี่ยวกับกิจการและทรัพย์สินของลูกหนี้ เป็นผลให้ 11 บุคคล เช่น พลตรีจำลอง ศรีเมือง นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายพิภพ ธงไชย ฯลฯ ตกสถานะบุคลล้มละลาย


เป็นคำสั่งที่ควรน้อมนำมาพิจารณาว่า ถึงเวลาแล้วที่สังคมไทยควรก้าวข้ามความขัดแย้ง ทั้งปวง ไปสู่สามัคคีธรรมอันพึงปรารถนา

ความจริงมีบุคคลและองค์กรต่างๆ ใช้ความพยายามมาแล้ว เพื่อเสนอกฎหมายนิรโทษกรรม ให้แก่ผู้ต้องโทษอันเนื่องมาจากความเห็นต่างทางการเมือง จะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ จนแล้วจนรอดก็ยังไม่สามารถทำให้เกิดผลที่เป็นจริงได้

ทำให้บรรดาแกนนำการเมืองภาคประชาชนทุกฝ่าย ที่ถูกจำขังกันไปแล้ว เช่น พิภพ ธงไชย พลตรีจำลอง ศรีเมือง สมศักดิ์ โกศัยสุข ดร. สุริยะใส กตะศิลา จตุพร พรหมพันธุ์ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ฯลฯ บางคนสิ้นชีวิต บางคนยังถูกคุมขังอยู่ บางคนถูกปล่อยออกมาแล้ว บางคนยังมีคดีอื่นๆ ที่รอวันพิพากษา บางคนถูกพิทักษ์ทรัพย์ เพราะศาลสั่งล้มละลาย

ผู้เขียนมีประสบการณ์ตรงในฐานะเป็นคู่กรณีในยุคขวาพิฆาตซ้ายในช่วงปี 2519 จนเกิดการสังหารโหดในเหตุการณ์ 6 ตุลาคม ในปีนั้น ดุจเดียวกับเพื่อน พี่น้อง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนิสิตนักศึกษา มีอันต้องหลบลี้ไปอยู่ในเขตป่าเขา ซึ่งเป็นการต่อสู้ด้วยอาวุธ มีการต่อสู้แบบถึงเลือดถึงเนื้อ บาดเจ็บล้มตายกันไปนับร้อยนับพันคนทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายปฏิวัติ ชนิดที่พูดได้ว่า

“เลือดต้องล้างด้วยเลือด ให้มันแห้งเหือดความแค้นในใจ ยิง ปังปัง เราลูกประชา เอาเลือดมันมา ล้างแค้นเลือดไทย...”

(เพลง เลือดต้องล้างด้วยเลือด / จิตร ภูมิศักดิ์)

ผู้เขียนเคยถูกตีตราที่หน้าผากมาแล้วว่าเป็น “ผู้ก่อการร้าย” แต่ตรานั้นก็ลบเลือนไป ดุจเดียวกับเพื่อนๆ เพราะได้รับผลพวงแห่งการสร้างสานสามัคคีธรรม ในสมัยพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยการออกคำสั่งนายกรัฐมนตรี ฉบับที่ 66 / 2523 มีสาระสำคัญคือ รัฐบาลใช้แนวทางการเมืองนำการทหารสำหรับนักศึกษาประชาชน ที่เข้าป่าร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์ไทยอันสืบเนื่องมาจากกรณี 6 ตุลาคม 2519

คำสั่งศาลดังกล่าวทำให้อดีตสหายที่เข้าป่ามากกว่า 3,000 คน รวมทั้งชาวบ้านและประชาชนที่ร่วมขบวนการปฏิวัติทั้งหมดกลับคืนสู่เมืองโดยปราศจากความผิดใดๆ นับเป็นหมุดหมายประวัติศาสตร์แห่งศานติธรรมวิถีครั้งสำคัญ ที่นำไปสู่การยุติสงครามประชาชน และเป็นการอวสานของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย นับแต่นั้นมา

ราวหนึ่งปีล่วงมาแล้ว ผู้เขียนได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกับอดีตปลัดกระทรวงการต่างประเทศของไทยคนหนึ่ง ได้รับการเปิดเผยว่า

“วันหนึ่ง ได้คุยกับ ลี กวน ยู นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ในเวลานั้น ลีกวนยู เอ่ยปากถึงกรณีคนเข้าป่าคืนเมืองของประเทศไทย ด้วยคำสั่งนายกฉบับ 66 / 2523 ทำให้นักศึกษาประชาชนที่เป็นคู่ต่อสู้ทำสงครามประชาชนกับรัฐบาล เสียเลือดเนื้อและชีวิตไปมากมาย กลับคืนมาใช้ชีวิตในเมืองอย่างปกติสุขโดยไม่มีความผิดใดๆ โดยไม่ต้องเจรจาหยุดยิง ไม่ต้องมีใครมาไกล่เกลี่ย เป็นผลสำเร็จที่น่าทึ่งมาก

มีแต่ประเทศไทยเท่านั้น ที่มีคุณสมบัติพิเศษสามารถทำเรื่องยากๆ เช่นนี้ได้”

ได้ฟังคนระดับ ลี กวน ยู พูดเช่นนี้ จึงรู้สึกปิติและเห็นประจักษ์ว่า สังคมไทยมีอภัยทานเป็นอุปการธรรมมาแต่ครั้งโบราณที่จะหาชาติใดเสมอเหมือนไม่ได้

ก่อนหน้านี้มีกลุ่มคนที่ปรารถนาสามัคคีธรรมจำนวนหนึ่งได้เวียนพบปะพูดคุยกับอดีตอัยการสูงสุด อดีตนายกรัฐมนตรี อดีตประธานกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ สื่อมวลชนอาวุโส สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ภาคประชาสังคมและบุคคลอื่นๆ จนตกผลึกเป็นร่าง พรบ. อำนวยความยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ ฉบับนี้ ถึงขั้นนำเสนอไปสู่รัฐบาลชุดก่อนหน้านี้ไปแล้ว

ร่าง พรบ. ฉบับนี้ เป็นร่างที่จะอำนวยความยุติธรรมให้กับผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายที่เกิดจากมูลเหตุจูงใจทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นผู้ถูกกล่าวหา ผู้ต้องหา จำเลย ผู้ต้องขังหรือผู้เสียหาย แต่จะไม่ครอบคลุมถึง 3 กรณีความผิดคือ

1.คดีกระทำความผิดฐานทุจริต
2.คดีอาญาที่ร้ายแรง
3.คดีความผิดต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
 (กฎหมายอาญามาตรา 112)

และเพื่อมิให้เป็นปัญหาต่อการตีความในคดีอาญาร้ายแรง (2) จึงกำหนดให้มีบัญชีแนบท้าย
ร่างพระราชบัญญัติ ซึ่งกำหนดฐานความผิดที่จะได้รับการนิรโทษกรรมไว้ชัดแจ้ง เช่นความผิดต่อกฎจราจร ความผิดทางคอมพิวเตอร์ ความผิดทางวิทยุคมนาคม เป็นต้น

ในที่นี้รวมไปถึงการนิรโทษกรรมให้แก่ผู้มีความผิด ทางแพ่งที่ประชาชนเป็นคู่กรณีต่อรัฐ

ฟังสรรพสำเนียง ทั่วไปแล้ว ไม่มีภาคส่วนไหนเลยที่จะคัดค้านการออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้แก่ผู้กระทำผิดในทางการเมือง

ข้อแตกต่างปลีกย่อยในรายละเอียด และเรื่องของระยะเวลา เป็นเรื่องที่สามารถพูดคุยกัน และหาจุดลงตัวได้

เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2566 ณ อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา สี่แยกคอกวัว ระหว่างพิธีกรรมรำลึกวีรชน คุณชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล เปิดเผยกับผู้เขียนว่า พร้อมจะพูดคุยแลกเปลี่ยนเพื่อหาทางออกให้แก่ร่าง พรบ. นิรโทษกรรมฉบับนี้

ในวันนี้ รัฐบาลก็จับมือข้ามขั้วข้ามสีกันแล้ว พรรคเพื่อไทยกับพรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตลอด 8 ปี ก็คล้องแขนมาเป็นรัฐบาลร่วมกัน สีเสื้อต่างๆ ล้วนละลายสีเจือจางลงไปมากแล้ว เหลือแต่ผู้ต้องโทษ ผู้รอการพิพากษาลงโทษ ผู้ถูกพิทักษ์ทรัพย์ ที่ต้องทนทุกข์จากการแสดงออกทางการเมือง ซึ่งรัฐบาล ฝ่ายค้าน และกระบวนการยุติธรรมสามารถจะเอื้ออาทรได้

อุปสรรคสำคัญเฉพาะหน้ามี 2 ประการ

1.ทิฎฐิมานะของภาคการเมืองบางฝ่าย ที่ชี้ขาดว่า ตนเองจะต้องได้ 100 % ถ้าได้ไม่เต็มร้อย แปลว่าผิดแนวทาง และจะไม่ยอมร่วมมือด้วย โดยไม่ยอมทำความเข้าใจว่า คนอื่นก็ต้องการ 100 % เช่นกัน แต่ความเป็นจริงนั้น เป็นไปไม่ได้ มีแต่ต้องลดหย่อนในส่วนของตน แล้วไปเพิ่มให้คนอื่นจึงจะมีทางออกมีทางไป

2.ความเฉื่อยเนือยของภาคการเมืองที่ไม่เห็นว่าการสร้างสานสามัคคีธรรมเป็นภารกิจ ประวัติศาสตร์ที่จะต้องดำเนินการอย่างเอาจริงเอาจัง ต้องมุ่งมั่นในการสร้างความเข้าใจระดมพลังอย่างเป็นฝ่ายกระทำที่จะนำเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมโดยไม่รอช้า แต่ละคนต่างถือว่าไม่ใช่หน้าที่ของตนจึงผลักให้เป็นภาระของคนอื่นจนทำให้เรื่องนี้กลายเป็นคลื่นกระทบฝั่งไประลอกแล้วระลอกเล่า

สังคมไทยขัดแย้งกันด้วยความคิดต่างทางการเมืองมายาวนาน 18 ปีแล้ว เป็นสภาวะที่ทอนกำลังไปด้วยกันทุกฝ่าย ต่างฝ่ายต่างรู้สึกเหนื่อยหน่าย และต่างก็กล้ำกลืนฝืนทนกันไป โดยไม่ตระหนักว่า การอำนวยความยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ หรือการสร้างสานสามัคคีธรรม เป็นภารกิจประวัติศาสตร์ ที่สุกงอมเต็มที่แล้ว

การเดินหน้าบรรลุภารกิจนี้ไม่เพียงผู้ต้องหา ผู้รับโทษ ผู้รอรับโทษ จะได้รับผลเท่านั้น แต่เป็นอภิมหากุศลที่สังคมไทยทั้งหมดจะได้ร่วมปิติ และได้ร่วมอนุโมทนาบุญครั้งนี้ด้วย

ขอบคุณข้อมูลสำนักข่าวอิศรา

 

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ยังคงมาตรการเปิด-ปิดด่านตามเวลา  จ่อดาบ2ตัดน้ำ-ไฟ  สมช.รอประเมินท่าทีกัมพูชา ยังคงมาตรการเปิด-ปิดด่านตามเวลา จ่อดาบ2ตัดน้ำ-ไฟ สมช.รอประเมินท่าทีกัมพูชา
  • \'ซาบีดา\' รับตกใจเหตุระเบิดใต้ ระหว่างลงพื้นที่ ห่วงเด็ก เผยรัฐบาลอยากเห็นสันติภาพ-สมานฉันท์ 'ซาบีดา' รับตกใจเหตุระเบิดใต้ ระหว่างลงพื้นที่ ห่วงเด็ก เผยรัฐบาลอยากเห็นสันติภาพ-สมานฉันท์
  •  

Breaking News

‘คารม’สวนกลับ‘หมออ๋อง’พูดเอาดีใส่ตัว เหน็บกระสันนั่งเก้าอี้รองประธานสภาฯ

(คลิป) ซัดทุกประเด็นร้อน!ไม่รู้ ไม่รู้...ไม่จริง ชาตินักรบไม่คุยเขมร'ทักษิณ'ซื้อยกพรรค'อิ๊งค์'เด็กฝึกงาน

ฝากขัง! ชาย48ฆ่าหนุ่มรุ่นลูก เพื่อนบ้านแค้นแทน บุกด่าหน้าห้องขัง

ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จีนหลอกจีน เช่าบ้านหรูกลางเมืองเชียงใหม่ตั้งฐาน

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved