1.ตั้งแต่ พ.ศ.2541 กระทรวงมหาดไทยเริ่มดำเนินโครงการเศรษฐกิจชุมชนโดยการส่งเสริมให้กลุ่มอาชีพหรือกลุ่มเกษตรกรมีเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบอาชีพ โดยการจัดทำโครงการเศรษฐกิจชุมชนนำเงินงบประมาณหรือเงินอุดหนุนจากรัฐบาลมาเป็นต้นทุนให้ชาวบ้านกู้เงินดังกล่าวโดยมีระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการดำเนินโครงการเศรษฐกิจชุมชน พ.ศ.2541 ซึ่งมีหลักการสำคัญๆ ดังนี้

1) ข้อ 10 ให้องค์การบริหารส่วนตำบลและสภาตำบลเปิดบัญชีเงินฝากไว้กับธนาคารที่เป็นรัฐวิสาหกิจในจังหวัดโดยใช้ชื่อบัญชีว่า “บัญชีเงินทุนโครงการเศรษฐกิจชุมชนองค์การบริหารส่วนตำบล/สภาตำบล...” เพื่อรองรับเงินที่ได้รับ หากท้องที่ตั้งองค์การบริหารส่วนตำบลหรือสภาตำบลใดไม่มีธนาคารที่เป็นรัฐวิสาหกิจให้เปิดบัญชีธนาคารพาณิชย์อื่นได้

2) ข้อ 11 เงินที่จะนำเข้าบัญชีเงินฝากที่เปิดไว้ตามข้อ 7 ข้อ 9 และข้อ 10 ได้แก่

(1) เงินงบประมาณหรือเงินอุดหนุนจากรัฐบาล

(2) เงินอุดหนุนจากองค์การบริหารส่วนตำบล

(3) เงินบริจาคหรือเงินช่วยเหลืออื่นๆ ที่ให้แก่โครงการเศรษฐกิจชุมชน

บรรดาเงินที่ได้รับดังกล่าวตามวรรคหนึ่ง ให้นำส่งเข้าบัญชีเงินฝากที่เปิดไว้ในวันที่ได้รับเงินหรืออย่างช้าภายในวันทำการรุ่งขึ้น

3) ข้อ 24 ให้องค์การบริหารส่วนตำบลหรือสภาตำบลรับผิดชอบโครงการที่ผ่านการเห็นชอบจากโครงการและมีหน้าที่สนับสนุนส่งเสริมกำกับดูแลกลุ่มอาชีพหรือกลุ่มเกษตรกรที่ขอยืมเงินทุนตลอดจนติดตามเร่งรัดการนำเงินส่งคืน

(ว2) หากกลุ่มอาชีพหรือกลุ่มเกษตรกรผิดนัดไม่ชำระหนี้ตามสัญญางวดใดงวดหนึ่งหรือทั้งหมดให้องค์การบริหารส่วนตำบลหรือสภาตำบลตั้งงบประมาณเท่าจำนวนเงินที่ทางราชการเสียหายชดใช้คืนในทันทีที่มีการตั้งงบประมาณขององค์การบริหารส่วนตำบลหรือสภาตำบลแล้วแต่กรณี

(ว3) ในระหว่างที่กลุ่มอาชีพหรือกลุ่มเกษตรกรผิดนัดไม่ชำระหนี้หรือชำระหนี้ไม่ครบถ้วนให้เสียดอกเบี้ยในอัตราตามที่กฎหมายกำหนด

(ว4) หากกลุ่มอาชีพหรือกลุ่มเกษตรกรไม่ยินยอมชำระหนี้ให้องค์การบริหารส่วนตำบลหรือสภาตำบลดำเนินคดีตามกฎหมาย อย่าให้คดีขาดอายุความ

(ว5) การดำเนินการตามวรรคสองถ้าได้รับการชำระหนี้จากกลุ่มภายหลังให้ส่งคืนเป็นรายได้ขององค์การบริหารส่วนตำบลหรือสภาตำบลแล้วแต่กรณี

(อ่านต่ออาทิตย์หน้า)