(ต่อจากอาทิตย์ที่แล้ว)

(ว6) การดำเนินการตามวรรคสามและวรรคสี่ ถ้ากลุ่มเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ให้ขอยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการพัฒนาจังหวัด การชี้ขาดของคณะกรรมการพัฒนาจังหวัดให้ถือเป็นที่สุด

4) ข้อ 25 เงินทุนขององค์การบริหารส่วนตำบลหรือสภาตำบล หากต้องการหมุนเวียนให้กลุ่มอาชีพหรือกลุ่มเกษตรกรได้กู้ยืมต่อไป ให้ถือปฏิบัติตามเงื่อนไขการให้กู้ยืมตามข้อ 18 ข้อ 19และข้อ 21 แต่ทั้งนี้ให้องค์การบริหารส่วนตำบลหรือสภาตำบล เป็นผู้พิจารณาอนุมัติคำขอกู้เงินโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการพัฒนาอำเภอ เว้นแต่การขอผ่อนผันขยายวงเงินกู้และการสมทบงบประมาณตามข้อ 26ให้องค์การบริหารส่วนตำบลหรือสภาตำบลขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการพัฒนาจังหวัดก่อนการอนุมัติเงินกู้

2.กรมการปกครองได้รับการหารือเกี่ยวกับกรณีนี้จากจังหวัดแห่งหนึ่ง จำนวน 2 ประเด็นเกี่ยวกับการยกฐานะขององค์การบริหารส่วนตำบลเป็นเทศบาลตำบล หลังวันที่ 27 ธันวาคม 2557 จะต้องดำเนินการประการใด เพราะกระทรวงมหาดไทยได้กำหนดแนวทางให้เทศบาลที่จัดตั้งใหม่ สรุปผลการดำเนินโครงการและจัดทำบัญชีบุคคลให้เป็นปัจจุบัน เสร็จแล้วสามารถเสนอคำร้องขอดำเนินโครงการดังกล่าวต่อคณะกรรมการพัฒนาอำเภอ (คพอ.) ภายใน 60 วัน นับแต่วันยกฐานะเป็นเทศบาลตำบลและห้ามมิให้เทศบาลทุกแห่งก่อให้เกิดนิติกรคนใหม่ตามโครงการนี้เป็นรายใหม่ขึ้นอีกจนกว่าจะได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงมหาดไทย หากเทศบาลตำบลใด ไม่มีความประสงค์ก็จะดำเนินโครงการต่อ ให้ส่งคืนเงินทุนคืนและแจ้งกระทรวงหมาดไทยทราบด้วย

3.ตรงนี้เกิดประเด็นปัญหาขึ้นว่า(1) การตั้งงบประมาณชดใช้คืนตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยดังกล่าวตามข้อ 24 วรรคสอง ต้องเท่ากับจำนวนที่ทางราชการได้รับความเสียหาย เท่ากับจำนวนหนี้ที่คงค้างเพราะกลุ่มเกษตรกรผิดนัดไม่ชำระหนี้โดยไม่รวมดอกเบี้ยใช่หรือไม่

(2) กรณีเทศบาลไม่ประสงค์จะดำเนินโครงการนี้ต่อไปและส่งเงินคืนนั้นเทศบาลจะต้องส่งคืนเฉพาะเงินที่ได้รับการอุดหนุนจากกระทรวงมหาดไทยจำนวน 600,000 บาท โดยไม่รวมเงินที่เทศบาลตำบลสมทบอีกจำนวนหนึ่งและเงินดอกเบี้ยผิดนัดจากกลุ่มเกษตรกรซึ่งให้ตกเป็นรายได้ของเทศบาลตำบลตามข้อ 24 วรรคห้าใช่หรือไม่

(อ่านต่ออาทิตย์หน้า)