‘คุณหญิงสุพัตรา-ชนินทร์’สู้ต่อ

ไม่ทอดทิ้งปชป.

ยึดอุดมการณ์/หนุนคนรุ่นใหม่

พท.ยันไม่คิดปรับครม.ดึงเพิ่ม

‘อนุทิน’ย้ำ314เสียงมั่นคงแล้ว

“คุณหญิงสุพัตรา”สู้ต่อ!ประกาศหนุนคนรุ่นใหม่กอบกู้“ปชป.”ลุ้น“มาดามเดียร์”นั่งเลขาฯในอนาคต“ชนินทร์”ลั่นไม่ทิ้งอุดมการณ์ ประกาศบ้านพังจะช่วยซ่อม พรรคตกต่ำ ช่วยกอบกู้ ชี้ผู้บริหารชุดใหม่มีคนรุ่นใหม่หวังนำพรรคกลับมาเป็นที่พึ่งปชช.“ราเมศ”โฆษกปชป.ย้ำการทำงานคือเครื่องพิสูจน์ขอสมาชิกมั่นใจ“เฉลิมชัย”นำปชป.ก้าวไปข้างหน้าได้“ภูมิธรรม”แกนนำ‘เพื่อไทย’ลั่นยังไม่คิดปรับครม.เอาใครมาร่วมรบ.เพิ่ม หลัง‘ปชป.ได้‘เฉลิมชัย’นั่งหัวหน้าฯย้ำพรรคร่วมฯยังทำงานด้วยกันได้ดี ไร้ปัญหา ไม่เข้าใจพรรคอะไหล่คืออะไร‘อนุทิน’ย้ำรัฐบาล314เสียง มั่นคงแล้ว หลังมีข่าว ปชป.ขอต่อรองร่วมรัฐบาล

เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2566 คุณหญิงสุพัตรา มาศดิตถ์ กรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิของมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในสมัยรัฐบาล นายชวน หลีกภัย ได้โพสต์ข้อความระบุว่า”...ดิฉันพร้อมที่จะนำพรรคประชาธิปัตย์คืนกลับสู่ออมกอดของประชาชน เป็นพรรคการเมืองที่ยืนหยัดเคียงข้างประชาชนอีกครั้ง...

‘คุณหญิงสุพัตรา’สู้ต่อ-หนุนคนรุ่นใหม่

“ในข้างหน้าที่มีโอกาสและยินดีสนับสนุนบทบาททางการเมืองของคนรุ่นใหม่...ที่คำนึงถึงความชอบธรรม โดยเฉพาะบทบาทฝ่ายบริหารสำหรับผู้หญิงที่มีคุณภาพ...ดิฉันพร้อมสนับสนุนให้ มาดามเดียร์ มีโอกาสทำหน้าที่บริหารพรรค รวมทั้งคนรุ่นใหม่ทุกคนที่มีความพร้อม...มีอุดมการณ์ทางการเมืองที่ถูกต้องกับความต้องการของประเทศชาติ ประชาชน...เทิดไว้ซึ่งสถาบันศาสนา พระมหากษัตริย์...แท้จริง”

ลุ้น‘มาดามเดียร์’นั่งเลขาฯในอนาคต

“ขอให้ คนรุ่นใหม่ได้ต่อสู้ต่อไป...วันหน้าเราคงมี เลขาธิการพรรค...เป็นสุภาพสตรีที่แข็งแกร่ง...ที่ชื่อ วทันยา บุนนาค ก็เป็นไปได้ดิฉัน จึงขอยืนหยัดสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ในมิติคนรุ่นใหม่...ที่ไม่ละทิ้งแนวอุดมการณ์บรรพชนประชาธิปัตย์เราจะช่วยกันนำประชาธิปัตย์ กลับคืนมาสู่วิถีธรรม เพื่อยืนเคียงข้างประชาชนต่อไป...”คุณหญิง สุพัตราย้ำทิ้งท้าย

‘ชนินทร์’ไม่ทิ้งอุดมการณ์-ช่วยกอบกู้

ด้าน นายชนินทร์ รุ่งแสง รองเลขาธิการพรรค อดีตสส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก“ชนินทร์ รุ่งแสงปชป.”ระบุว่า“ผมจะไม่ละทิ้ง ความฝัน อุดมการณ์และความพยายาม ในทางการเมืองเมื่อบ้านพังจะช่วยซ่อมเมื่อพรรคตกต่ำจะช่วยกอบกู้จะทำให้ดีที่สุดถึงแม้จะยากลำบากเพียงใด”เลือดผมเคยเห็นแล้วว่าสีแดงแต่ใจผมไม่เคยนะแต่คิดว่าสีฟ้าแน่นอนครับ#ก้าวด้วยใจไปด้วยกัน

นายชนินทร์โพสต์อีกว่าขอฝากถึงสมาชิกพรรคและผู้สนับสนุนขอโอกาสให้หัวหน้าที่ไม่หล่ออาจจะมีตำหนิบ้างแต่มีความตั้งใจร้อยเปอร์เซ็นต์

“ที่สำคัญคณะผู้บริหารชุดนี้หลายคนยังเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีความตั้งใจมีความสามารถเป็นที่หวังได้ที่จะนำพรรคฯเข้าสู่ทศวรรษที่แปดหรือปีที่80ใน2ปีข้างหน้าได้อย่างมั่นคงยิ่งใหญ่และกลับมาเป็นที่พึ่งของประชาชนต่อไปที่สำคัญคือต้องการกำลังใจข้อเสนอแนะดีดีจากทุกฝ่าย”

ปชป.ย้ำการทำงานคือเครื่องพิสูจน์

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงสถานการณ์ที่มีสมาชิกพรรคลาออกว่า เคารพในการตัดสินใจซึ่งอาจจะมีเหตุผลส่วนตน ได้แต่หวังว่าวันหนึ่งจะได้กลับมาร่วมในการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองของพรรคในวันข้างหน้าสำหรับในส่วนของพรรค ต้องย้ำว่า เมื่อผ่านกระบวนการขั้นตอนการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรคตามกฎหมายและข้อบังคับพรรคแล้ว ทุกคนมีหน้าที่รับผิดชอบ ทำงาน มุ่งมั่น ฟื้นฟู พัฒนาพรรค ให้ก้าวเดินต่อไป ซึ่งเวลาและการทำงาน จะเป็นเครื่องพิสูจน์ พรรคพร้อมรับฟังทุกความคิดเห็นเพื่อนำไปสู่การทำงานที่มีจุดมุ่งหมายที่สำคัญคือการพัฒนาพรรคให้ดีขึ้นในวันข้างหน้า

ปลุกร่วมมือช่วยกันย้ำปชป.อยู่ต่อไป

โฆษกพรรคปชป.กล่าวอีกว่าการที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน อาสามารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคทั้งที่ไม่อยากเข้ามารับตำแหน่ง แต่เมื่อสมาชิกเรียกร้องต้องการให้เข้ามาเพื่อช่วยนำพาพัฒนาพรรคจึงยินยอมเสียสละอาสาเข้ามาทำหน้าที่ เชื่อว่าหากสมาชิกได้เห็นถึงความตั้งใจในการทำงานของนายเฉลิมชัย ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ที่ทำงานให้พรรคมายาวนาน ทุกคนก็จะต้องร่วมกัน ช่วยกันคนละไม้ละมือทำงานเพื่อให้พรรคดีขึ้น เมื่อพรรคมีกฎเกณฑ์กติกากระบวนการเลือกหัวหน้าพรรค และทุกอย่างจบ หน้าที่ของทุกคนในพรรคก็ต้องหาวิธีการช่วย สนับสนุนตามภาระหน้าที่ที่ทุกคนสามารถทำได้ เวลานี้ต้องมองถึงอนาคตของพรรคเป็นสำคัญ เพราะคนที่เป็นผู้บริหารมาแล้วก็ไป แต่พรรคประชาธิปัตย์ยังต้องอยู่

ขอมั่นใจ‘เฉลิมชัย’นำก้าวไปหน้าได้

“เมื่อโจทย์ใหญ่สำคัญที่สุดคือพรรคประชาธิปัตย์ต้องอยู่ต่อไป ทุกคนในพรรคก็ต้องช่วยกันด้วยความมีเอกภาพ ส่วนผู้บริหารมีความท้าทายที่สำคัญคือการทำงานอย่างหนักเพื่อให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ หากทำไม่ได้สมาชิกพรรคไม่ยอมรับหรือไม่ประสบความสำเร็จก็ต้องสิ้นสุดและมีกระบวนการเลือกผู้บริหารพรรคชุดใหม่ ระบบประชาธิปไตยในพรรคก็เป็นเช่นนี้ และนายเฉลิมชัยพร้อมพิสูจน์ด้วยการทำงาน ในส่วนการยึดอุดมการณ์ของพรรค คณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ย่อมใช้เป็นแนวทางในการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองอยู่แล้ว จึงขอให้สมาชิกรวมใจกัน จับมือกัน ร่วมกันทำงานสนับสนุนให้พรรคก้าวไปสู่ความมั่นคงต่อไป” นายราเมศ กล่าว

โฆษกพรรคปชป.ยังกล่าวอีกว่าขณะนี้พรรครอขั้นตอนกระบวนการของนายทะเบียนพรรคการเมืองอยู่ เมื่อกระบวนการแล้วเสร็จก็จะได้มีการเรียกประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคนัดแรก ก็เชื่อว่าจะเห็นแนวทางชัดเจนยิ่งขึ้นว่าแนวทางการทำงานของคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่จะเป็นไปในทิศทางใดและตนจะได้แจ้งให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง

โหรบุญเลิศ’ไขก๊อกพ้นสมาชิกพรรค

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากนายเฉลิมชัย ศรีอ่อนขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคปชป.ประกาศลาออกจากสมาชิกพรรคทำให้มีสมาชิกลาออกตามจำนวนนับสิบคนล่าสุดนายบุญเลิศ ไพรินทร์หรือโหรสว.,อดีต สว.และอดีต ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคประชาธิปัตย์ ได้ทำหนังสือถึงเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อขอลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค ตั้งแต่วันที่ 12 ธ.ค.2566 เป็นต้นไป

‘พนิต’โบกมือลาปชป.ก่อน2เดือน

ขณะที่นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กถึงคำกล่าวของ นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี ที่กล่าวในการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ 4 เมษายน2534 ข้อความว่า“เราจะพูดแต่ความจริง ทั้งๆที่ข้อเท็จจริงบางอย่างหรือความจริงอาจจะไม่ไปสบอารมณ์บุคคลบางคนหรือบุคคลบางกลุ่มในสังคมไทย”ก่อนที่จะระบุถึงเหตุการณ์วันที่9ธันวาคมที่ผ่านมา ที่มีหลายคนถามตนว่าลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ หรือยัง หรือบางท่านก็ถามว่ายังอยู่ ปชป.อยู่หรือเปล่า เพราะไม่เห็นในช่วงเลือกตั้งหัวหน้าที่ผ่านมา โดยนายพนิตได้ชี้แจงว่าวันนี้ก็ต้องขอออกมาแจ้งให้ทุกท่านทราบว่า เป็นไปตามที่วิเคราะห์ไว้ทุกประการ กับโฉมหน้าหัวหน้าพรรคกก.บห.พรรคประชาธิปัตย์ชุดใหม่ หลังรับทราบข้อมูล เห็นความเคลื่อนไหวเบื้องหน้าเบื้องหลังเปรียบดังละครฉากใหญ่และเป้าหมายทางการเมืองของทุกฝ่ายทุกขั้วอย่างชัดเจน ไม่มีใครผิด ไม่มีใครถูก ทุกคนมีเหตุผลของตัวเอง

ไร้แสงสว่าง-ไม่มีปาฏิหาริย์

โดยสรุปว่ายังไม่เห็นแสงสว่างแห่งความเปลี่ยนแปลงหรือฟ้าหลังฝนในเร็วๆนี้ผมจึงกล้าที่จะลาออกจากสมาชิกพรรคจากบ้านสีฟ้าที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขมาตลอด20ปี ต่อ กกต. ล่วงหน้าก่อน2เดือน ตั้งแต่วันที่ 5ตุลาคม2566 ด้วยอาการหัวเราะไม่ได้ ร้องไห้ไม่ออกโดยไม่ต้องรอให้ถึงวันเลือกหัวหน้าพรรค ในวันที่ 9ธันวาคมที่ผ่านมา เพราะมั่นใจว่าจะไม่มีปาฏิหาริย์ใด ๆ เกิดขึ้น หลังจากนี้ทุกฝ่ายก็ต้องน้อมรับผลต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากการกระทำของพวกเรา จนทำให้พรรคเดินมาไกลถึงขณะนี้ และขอให้ทุกคนโชคดี และพบกันใหม่เมื่อชาติต้องการ”นายพนิต กล่าว

‘เดชอิศม์’ย้ำใครไม่สบายใจเชิญออก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากนายเดชอิศว์ ขาวทอง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ให้สำภาษณ์กับสื่อท้องถิ่น“โฟกัสภาคใต้”เล่าถึงสถานการณ์การเลือกหัวหน้าพรรคปชป.เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม2566ด้วยความมั่นใจว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคคนใหม่จะนำความยิ่งใหญ่กลับมายังปชป. ส่วนการที่สมาชิกพรรคคนใดอยู่แล้วไม่สบายใจก็ควรออกจากพรรค ดีกว่าพูดวิจารณ์พรรค

โซเชียลเรียงหน้าถล่ม‘เดชอิศม์’ยับ

ปรากฎว่าชาวโซเชียลโดยเฉพาะคนสงขลารุมคอมเมนต์ถล่ม อาทิ จนแน่สูญพันธ์,พังยับเยิน โลกหมุนไปข้างหน้า พรรคอื่นชูคนรุ่นใหม่มีความสามารถแต่ ปชป.ถอยหลังลงคลอง,ไม่มีคะแนนให้อีกแล้วครับหลังจากนี้ สัจจะไม่มี ตายทั้งพรรค แค่สัจจะที่ให้ไว้กับประชาชนยังทำไม่ได้ภาษีประชาชนคงฝากให้พวกท่านดูแลได้หรอกนะ, ปิดกิจการประชาธิปัตย์, ยังมีหน้าออกมาพูดอีก ใช้ชื่อเสียง ปชป.หากินถึงได้เป็น สส.เคยทำประโยชน์อะไรให้กับคนสงขลาบ้าง ตัวทำลายพรรค ปชป.ล่มจมแน่นอน

พท.ยันไม่คิดปรับครม.ดึงใครเข้าเพิ่ม

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์กรณีพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ปรับเปลี่ยนกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ชุดใหม่ โดยได้ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ จะมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือไม่ ว่า ไม่เกี่ยวกัน เพราะเป็นเรื่องของพรรคประชาธิปัตย์ที่มีการแต่งตั้งผู้บริหารชุดใหม่ ส่วน ครม.ก็เดินหน้าทำงานต่อไป ไม่มีอะไร

เมื่อถามว่าจะยังไม่มีการปรับครม.เร็วๆ นี้ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่มีการคิดอะไรทั้งนั้น ขณะนี้ยังไม่รู้รายละเอียด เรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นก็ขอให้ทุกอย่างดำเนินการไปตามปกติ เพราะวันนี้ ครม.ก็ยังทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ยังคุยกันรู้เรื่องดีทุกฝ่าย ร่วมมือกันทำงานอย่างเต็มที่ทุกพรรคเมื่อถามว่าในทางการเมืองมองว่าต่อไปพรรคเพื่อไทยจะมีอำนาจต่อรองมากขึ้นในพรรคร่วมรัฐบาล นายภูมิธรรม กล่าวว่าไม่มีเรื่องแบบนั้น ตอนนี้พรรคร่วมรัฐบาลทำงานร่วมกันด้วยดีและคุยกันดี

เมื่อถามว่าขณะนี้ตัวเลขรัฐบาล314เสียงถือว่าเหนียวแน่นไม่ต้องเอาใครมาเพิ่มแล้วใช่หรือไม่นายภูมิธรรม ตอบว่า314เสียง ขณะนี้ทำงานได้อยู่ เอาใครมาเพิ่มหรือไม่เอาใครมาเพิ่มไม่ใช่เรื่องที่ต้องเอามาคิด

ย้ำพรรคร่วมฯทำงานได้ดีไร้ปัญหา

เมื่อถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับนายเฉลิมชัยนั้นนายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนไม่รู้จะพูดอย่างไรเพราะตนยังไม่เคยเจอนายเฉลิมชัย พรรคการเมืองในสภา ส.ส.คงเคยเจอกันบ้าง แต่ส่วนตัวยังไม่เคยเจอนายเฉลิมชัยตั้งแต่เข้ามาร่วมรัฐบาลส่วนที่พรรคประชาธิปัตย์จะเข้ามาเป็นอะไหล่ให้กับรัฐบาลหรือไม่ นายภูมิธรรม ตอบว่าต้องไปถามคนพูด เพราะตนก็ไม่เข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไร

“แต่ว่าวันนี้ไม่ต้องไปคิดเรื่องนี้ เพราะเราก็ทำงานอย่างเต็มที่แล้ว ซึ่งก็มีความสัมพันธ์ที่ดี และเชื่อว่าความร่วมมือของพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมดสามารถทำงานได้ด้วยดี ขณะนี้ก็ต่างพึ่งพาซึ่งกันและกัน มีงานที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงไหน ก็ประสานงานกันได้เต็มที่ไม่มีปัญหาอะไร”นายภูมิธรรม ย้ำ

เมื่อถามว่า ต่อไปการผลักดันนโยบายของพรรคเพื่อไทยก็จะง่ายขึ้นใช่หรือไม่ เนื่องจากพรรคร่วมรัฐบาล จะไม่กล้ากดดัน นายภูมิธรรม กล่าวว่า อย่าไปคิดแบบนั้น พรรคร่วมรัฐบาลก็ทำงานกันดีอยู่แล้ว ก็สามารถคุยกันได้ เรายึดเรื่องเหตุผลปัญหาของประเทศ และประชาชน ดังนั้น การทำงานจึงมีความเห็นแตกต่างกันได้ และหาข้อสรุปได้

พท.ขอดูร่างนิรโทษฯก่อนตัดสินใจ

นายภูมิธรรมกล่าวถึงกรณี ที่นายนิกร จำนง ประธานคณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับแนวทางในการทำประชามติ เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 เสนอให้ออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ในนามของพรรคร่วมรัฐบาล ว่า ตอนนี้ยังไม่ได้เห็นตัวร่าง และยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน หากจะมีการเสนอก็คงต้องคุยกัน โดยต้องดูตามเนื้อผ้าว่าเป็นอย่างไร พร้อมย้ำว่า ขณะนี้ยังไม่เห็นตัวร่าง จึงไม่สามารถบอกได้ว่ารัฐบาลจะมีแนวโน้มอย่างไร

‘อนุทิน’ย้ำชัด314เสียงรบ.มั่นคงแล้ว

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยกล่าวแสดงความยินดีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่

ส่วนกระแสข่าวพรรคประชาธิปัตย์จะขอต่อรองเพื่อร่วมรัฐบาลนั้น ถ้าคิดแต่เรื่องการต่อรองนำพรรคประชาธิปัตย์มาร่วมรัฐบาลแทนมันไม่ใช่รัฐบาล

“การมาอยู่ถึงจุดนี้ 314 เสียง มั่นคงดีแล้ว คงไม่มีใครไปต่อรองอะไรกับใคร ทำงานให้เต็มที่ดีกว่า ต่างคนต่างทำงาน ผลงานก็เกิดขึ้นแก่รัฐบาล เมื่อมีคำว่าต่อรองก็ไม่ใช่พวกเดียวกันแล้ว รัฐบาลชุดที่แล้วมี 253 เสียงก็อยู่รอดมาครบ 4ปี แม้จะมีวิกฤติก็อยู่รอดมาได้ เพราะทุกคนในพรรคร่วมมีเจตนารมณ์เดียวกัน ซึ่งส่วนนี้สำคัญมากกว่านายอนุทิน ย้ำและยืนยันว่า ไม่กังวลว่าพรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำรัฐบาลจะมากดดัน ทุกวันนี้ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด”