คลังเปิด4กลุ่มใหม่
รับเงินดิจิทัล1หมื่น
ไม่มีมือถือ/คนชรา
ป่วยติดเตียง/พิการ
“จุลพันธ์”รมช.คลัง ปธ.คณะอนุฯ“ดิจิทัล วอลเล็ต 1 หมื่น”ยันกรอบเวลาเดิมเปิดให้ร้านค้า-ปชช.ลงทะเบียนภายในไตรมาส 3เผยใครเคยยืนยันตัวตนแล้วกดรับสิทธิ ในแอปฯ “ทางรัฐ”ได้เลย-ไม่ต้องทำใหม่ พร้อมเปิดทางให้คนไม่มีสมาร์ทโฟนใช้จ่ายผ่านบัตรประชาชน อัปเดตดิจิทัลวอลเล็ตคลัง เปิด 4 กลุ่มใหม่ มีสิทธิรับเงินดิจิทัล 1หมื่น ‘กลุ่มคนไม่มีสมาร์ทโฟน/คนชรา/ป่วยติดเตียง/คนพิการ’
เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2567 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการะทรวงการคลัง เปิดเผยว่าจากเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ที่มีการประชุมคณะอนุกรรมการกำกับการดำเนินโครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ตนั้น ยังยืนกรอบระยะเวลาการดำเนินงานตามเดิม คือ รัฐบาลจะเปิดให้ร้านค้าและประชาชนลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ ดิจิทัล วอลเล็ตภายในไตสมาสที่ 3 ปี 2567 นี้
นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ทั้งนี้ สำหรับการยืนยันตัวตนของประชาชนนั้น หากผู้ใดเคยยืนยันตัวตนผ่านโครงการของรัฐที่เคยออกมาก่อนหน้านี้แล้ว ก็ไม่ต้องเริ่มต้นกระบวนการยืนยันตัวตนใหม่ เข้าใจได้ว่าขั้นตอนการยืนยันตัวตนค่อนข้างใช้เวลาพอสมควร อาจจะต้องไปดำเนินการที่สถาบันการเงินของรัฐ ดังนั้นจะมีการดึงฐานข้อมูลของรัฐเดิมมาใช้ในระบบใหม่ ดังนั้นใครที่เคยยืนยันตัวตนแล้ว ก็ไม่ต้องทำใหม่
“ส่วนกระบวนการยืนยันการรับสิทธิโครงการดิจิทัล วอลเล็ตนั้น พี่น้องประชาชนก็ต้องโหลดแอพพลิเคชัน ทางรัฐ และหากผ่านกระบวนการยืนยันตัวตัวแล้วก็จะเหลือแค่การกดรับสิทธิเท่านั้น สำหรับข้อมูลของร้านค้าก็เช่นกัน หากเคยลงทะเบียนโครงการการของรัฐไว้แล้ว กระทรวงการคลังก็จะรวบรวมข้อมูลมาใส่ไว้ในระบบให้”นายจุลพันธ์ กล่าว
นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ขณะที่เงื่อนไขการใช้จ่าย ยังคงกำหนดให้เป็นแบบตัวต่อตัว (Face to Face) คือประชาชนต้องไปซื้อของที่หน้าร้านจริงๆ และจ่ายเงินของโครงการผ่านแอพพ์ ทางรัฐ ซึ่งในแอพพ์ทางรัฐก็จะคล้ายกับแอพพ์การเงินของธนาคาร ที่จะมีการลิงค์ของมูลโลเคชัน ทำให้ตรวจสอบได้
นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ส่วนกรณีกลุ่มที่อาจเข้าไม่ถึงสมาร์ทโฟนนั้น ในคณะอนุกรรมการก็ได้มีการหารือกัน และมอบหมายให้สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือดีจีเอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการต่อ ซึ่งกลไกเบื้องต้นได้ออกแบบให้ประชาชนที่ไม่มีสมาร์ทโฟน กลุ่ที่ไม่สามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวก อาทิผู้ป่วยติดเตียง คนชรา ผู้พิการ ก็จะให้ใช้บัตรประจำตัวประชาชนในการใช้จ่ายแทนได้ ทั้งนี้ ก็ได้กำชับให้ในเรื่องปัญหาการสวมสิทธิ
“เรื่องของการใช้ผิดประเภทนั้น เราพยายามที่จะป้องกันให้ได้มากที่สุด เราพยายามรองรับคนทุกกลุ่มให้เข้าถึงสิทธิในโครงการ และสร้างความสะดวกให้กับทุกคนให้ได้ แต่เราก็ต้องมีกลไกในการติดตามตรวจสอบ ดังนั้นจึงได้มอบโจทย์ คณะอนุกรรมการด้านการตรวจสอบการกระทำอาจเข้าข่ายผิดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการ ไปดูในรายละเอียดว่าถ้าเราอาจอำนวยความสะดวกให้สิทธิ กลุ่มที่เดินทางไปไหนเองไม่ได้ เราจะมีการป้องกันปัญหาการทุจริตอย่างไร” นายจุลพันธ์ กล่าว
รมช.คลัง กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ในสัปดาห์หน้า จะมีการนัดหมายพูดคุยกับกลุ่มผู้ประกอบการธนาคารพาณิชย์ และสถานบันการเงินของรัฐ ในการทำ ระบบควบคุมแบบเปิด (Open Loop Control System) ของโครงการดิจิทัล วอลเล็ต ซึ่งเบื้องต้นก็ได้รับความสนใจจากธนาคารพาณิชย์ที่จะเชื่อโยงระบบการใช้จ่ายในโครงการดิจิทัล วอลเล็ตด้วย ถือเป็นเรื่องที่ดี ที่ปะชาชนจะได้เข้าถึงได้มากขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ประชุมคณะอนุกรรมการกำกับการดำเนินโครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต หรือเงินดิจิทัล 10,000 บาท ซึ่งได้เห็นชอบให้ช่วยเหลือกลุ่มประชาชน ที่มีอุปสรรคต่อการใช้สิทธิเงินดิจิทัล 4 กลุ่ม
สำหรับ 4 กลุ่มใหม่ รับสิทธิเงินดิจิทัล 10,000 บาท ดังนี้ 1. กลุ่มคนไม่มีสมาร์ทโฟน 2. ผู้ป่วยติดเตียง 3. คนชรา 4. ผู้พิการ แนวทางการใช้สิทธิเงินดิจิทัล 10,000 บาท ของ 4 กลุ่มใหม่ ใช้จ่ายผ่านบัตรประจำตัวประชาชน (ให้สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือดีจีเอ ไปออกแบบช่วยเหลือ) ส่วนแนวทางการใช้สิทธิกลุ่มคนทั่วไป ใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐ
เงินดิจิทัล 10,000 บาท ซื้อสินค้าอะไรไม่ได้บ้าง? เบื้องต้นมี 16 รายการ (กระทรวงการพาณิชย์จะกำหนดเพิ่มเติมอีกครั้ง) ประกอบด้วย 1. สลากกินแบ่งรัฐบาล 2. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 3. ยาสูบ 4. กัญชา 5. กระท่อม 6. พืชกระท่อม 7. ผลิตภัณฑ์กัญชาและกระท่อม 8. บัตรกำนัล 9. บัตรเงินสด 10. ทองคำ 11. เพชร 12. พลอย 13. อัญมณี 14. น้ำมันเชื้อเพลิง 15. ก๊าซธรรมชาติ 16. บริการต่างๆ ไม่สามารถเข้าร่วมได้
เงินดิจิทัล 10,000 บาท ซื้อสมาร์ตโฟน ซื้อมือถือได้ไหม? กระทรวงการคลัง ยืนยันแล้วว่าเงินดิจิทัล 10,000 บาท สามารถใช้ซื้อสมาร์ตโฟนได้ แม้ว่าจะเป็นสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ แต่ตามเงื่อนไข ไม่ได้กำหนดข้อห้ามไว้ เพราะมีสินค้านำเข้าหลายรายการเป็นสิ่งของจำเป็น เช่น สมาร์ตโฟน เป็นต้น ที่มา : กระทรวงการคลัง ณ วันที่ 17 พ.ค.67/
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี