“สงคราม”ลั่น”รัฐบาล”เร่งตัดวงจรพ่อค้ายาบ้าทุกพื้นที่ เผยยาบ้าราคาถูกจากเม็ดละ 300 ลดเหลือ 3 เม็ด 100 บาท สุดเลวร้ายใช้เยาวชนส่งยาขยายกลุ่มเป้าหมาย

วันที่ 15 กรกฎาคม 2567 นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หนึ่งในนโยบายที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี คือ การแก้ปํญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ เพื่อเดินหน้าในการแก้ปัญหาสังคมอย่างต่อเนื่องทั้งนี้เนื่องมาจากปัญหายาเสพติด คือต้นตอของปัญหาอาชญากรรมในครอบครัวที่รุนแรง และส่งผลกระทบกับพี่น้องประชาชนมากที่สุด  นอกจากนี้ที่ผ่านมาได้รับการร้องเรียนจากประชาชนถึงปัญหายาบ้าระบาดทุกพื้นที่ของประเทศ ขายตั้งแต่ต้นซอยยันท้ายซอย หลายพื้นที่พ่อค้ายาใช้เยาวชนเป็นคนส่งยาบ้า เพราะหากถูกจับโทษจะไม่รุนแรงซึ่งถือเป็นเรื่องที่เลวร้ายมากในสังคมไทย

นายสงคราม กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมารัฐบาลได้ปรึกษาและสั่งการไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานปราบปรามยาเสพติด ฝ่ายความมั่นคงและฝ่ายปกครอง เพื่อหามาตรการป้องกันและแก้ปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง รวมทั้งการบังคับใช้กฎหมายและใช้มาตรการเด็ดขาดในการป้องกันและปราบปรามอย่างเข้มข้น กวดขันให้เจ้าหน้าที่ออกตรวจทุกพื้นที่เพื่อจัดการกับพ่อค้ายาบ้าอย่างเด็ดขาด  โดยจะให้มีการซีลทุกพื้นที่หากพื้นที่ไหนปล่อยปละละเลยปล่อยให้ขบวนการค้ายาเสพติดขายกันในพื้นที่โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย ต้องมีหน่วยงานรับผิดชอบ

"จากการที่ยาบ้าระบาดหนัก เพราะราคาถูกลงมากจากราคาเม็ดละ 200-300 บาทในอดีต แต่ปัจจุบันราคาอยู่ที่ 3 เม็ด 100 บาท หรือบางพื้นที่มีการปล่อยเครดิตเสพก่อนจ่ายทีหลัง จึงส่งผลให้เกิดวงจรซื้อง่ายขายคล่อง สร้างรายได้ให้พ่อค้ายาบ้าหลัก 100 ล้านบาท ในแต่ละเดือน เพราะต้นทุนยาบ้าจากประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นต้นตอการผลิตราคาไม่ถึง 5 บาทต่อเม็ด ดังนั้นในเดือนกันยายนนี้รัฐบาลตั้งเป้าลดทั้งผู้ค้าผู้เสพให้มากที่สุด รวมทั้งใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดกับขบวนการค้ายาเสพติด จับได้นอกจากติดคุกจะต้องยึดทรัพย์พ่อค้ายาทุกรายเพื่อตัดวงจรพ่อค้ายาในประเทศให้หมดไป รัฐบาลพร้อมปกป้องประชาชนทุกคนให้อยู่ในสังคมอย่างเป็นปกติสุข” นายสงคราม กล่าว