24 ธ.ค.56 ที่พรรคประชาธิปัตย์ น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวถึงกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่ยอมฟังเสียงของประชาชน โดยการลาออกจากการรักษาการนายกรัฐมนตรี ว่า เหตุผลหนึ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีอาญาแผ่นดิน สั่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ให้ออกจากตำแหน่งตามข้อเรียกร้องของประชาชนนั้น แท้จริงคือนั่งทับผลประโยชน์มหาศาล ทั้งหมดกระทำภายใต้อำนาจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เองโดยตรง ในฐานะ ประธานคณะกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจ (กนร.) ประธานคณะกรรมการนโยบายทุนรัฐวิสาหกิจ (กนท.) และล่าสุด ประธานคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ แม้จะมอบให้ใครดูแลแต่ด้วยตามกฎหมายกำกับรัฐวิสาหกิจทุกฉบับ ก็ต้องมารับรองใน ครม.โดยมี น.ส.ยิ่งลักษณ์ นั่งอนุมัติ
น.ส.มัลลิกา กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีผลประโยชน์ทับซ้อนในรัฐวิสาหกิจต่างๆ และมีแผนแปรรูปรัฐวิสาหกิจทุกแห่งก่อน เช่นเดียวกับที่ทำกับ ปตท.และเกือบจะทำได้กับ กฟผ.สมัยรัฐบาลทักษิณ และขณะนี้มีสัญญาณอันตรายต่อทรัพย์สมบัติชาติ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ส่งคนใกล้ชิด สนิท บริวาร หว่านเครือนั่งบริหารทุกรัฐวิสาหกิจมูลค่ามหาศาล เช่น การท่าเรือแห่งประเทศไทย การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย เป็นต้น
"นายกฯ มีคำสั่งให้มีการเอาที่ดินรัฐวิสาหกิจ 8 แห่ง มาจัดสรรประโยชน์ใหม่ โดยของการท่าเรือแห่งประเทศไทย บริเวณท่าเรือกรุงเทพ คลองเตย 1 แปลง 2,353 ไร่ มี พล.ร.อ.เกียรติศักดิ์ ดามาพงศ์ เป็นกรรมการ ซึ่งเป็นพี่ชายต่างมารดาของ คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพ็ชร์ และ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เป็นประธานกรรมการการบริหารจัดการทรัพย์สินของการท่าเรือ ต่อมา การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย บริเวณพระราม 9 ศูนย์ซ่อมบำรุง 1 แปลง 999 ไร่ มูลค่า 8,000 ล้านบาท จากราคาประเมินของกรมที่ดิน มี นายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล กรรมการ ซึ่งมาจากรอง กก.ผู้อำนวยการ บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) และ นายสุนทร ทรัพย์ตันติกุล กรรมการ ทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ
ส่วนคณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติ เกี่ยวกับผลประโยชน์ไทยคม มี ดร.นงลักษณ์ พินัยนิติศาสตร์ เป็นประธานกรรมการ รายนี้มาจากประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้านการตลาด บมจ.ไทยคม ธุรกิจครอบครัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ อีกทั้ง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นกิจการพลังงานที่มีทรัพย์สินรวม 1.69 ล้านล้านบาท ส่ง นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ เป็นกรรมการอิสระ และประธานกรรมการตรวจสอบ โดยรายนี้มาจากอัยการสูงสุด ผลงานในเครือชินวัตรของอัยการรายนี้คือ คดีสั่งไม่อุทธรณ์ภาษี การไม่ต่อสู้คดีในชั้นศาลฎีกาเมื่อปี 2554 ภายหลังศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายกฟ้องคุณพจมาน จากเดิมศาลชั้นต้นมีความเห็นว่าการซื้อขายหุ้น บริษัท ชินวัตรคอมพิวเตอร์ แอนด์คอมมิวนิเคชั่น มูลค่า 546 ล้านบาท มีลักษณะเลี่ยงภาษี , คดีไม่สั่งฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต่อศาลในข้อหาเป็นผู้ก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา โดยเหตุผลของอัยการสูงสุดรายนี้ ที่ให้อดีตนายกฯ ทักษิณไม่ต้องขึ้นศาล คือ การโฟนอินเข้ามาของ พ.ต.ท.ทักษิณ มายังที่ชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ถือเป็นการกระทำนอกราชอาณาจักรไทย กฎหมายของไทยเอาผิดไม่ได้
นอกจากนี้ ยังมี นายวรุณเทพ วัชราภรณ์ กรรมการผู้บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ฯ จำกัด (มหาชน) และนายอินสอน บัวเขียว เป็นกรรมการ คนนี้คือเพื่อน พ.ต.ท.ทักษิณ และนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว เป็นกรรมการ คนนี้เป็นผู้เร่งดำเนินการคืนพาสปอร์ตให้ พ.ต.ท.ทักษิณ" น.ส.มัลลิกา กล่าว
น.ส.มัลลิกา แถลงอีกว่า ทั้งหมดนี้ คือสิ่งที่เคลือบแฝงอยู่เบื้องหลัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ เสมือนวัวสันหลังหวะ การทำท่าทีไม่รู้ไม้ชี้ไร้ความรับผิดชอบของคนเป็นผู้นำ แท้จริงแล้วเป็นการนั่งทับผลประโยชน์ชาติที่ตักตวงเพื่อตัวเองและพวกพ้อง จะเห็นได้ว่าที่สุดแล้วระบอบทักษิณก็ไม่แคล้วแสวงหาเอากับที่ดินอีก โดยต่อจากวันนี้ จะนำเรื่องขุมทรัพย์ของชาติที่ระบอบตักตวงมาแฉรายวันให้ครบทุกรัฐวิสาหกิจ โดยพรุ่งนี้ (25 ธ.ค.) จะเปิดองค์กรที่เหลือ ดังนั้น พนักงาน ข้าราชการใดที่มีเอกสารหลักฐาน ให้เก็บมาส่งให้ตนที่สำนักโฆษกพรรค ระบุถึงตนโดยตรง หรือส่งเข้าทางกล่องข้อความเพจเฟสบุ๊คมัลลิกา บุญมีตระกูล (แฟนเพจ) ได้ทันที
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี