เพจดังโพสต์บทความ 'ทุจริตเชิงนโยบาย' จาก 'รุ่นพ่อ' อย่าส่งต่อถึง 'รุ่นลูก'

เพจดังโพสต์บทความ 'ทุจริตเชิงนโยบาย' จาก 'รุ่นพ่อ' อย่าส่งต่อถึง 'รุ่นลูก'

วันเสาร์ ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2567, 13.56 น.

เพจดังโพสต์บทความ 'ทุจริตเชิงนโยบาย' จาก 'รุ่นพ่อ' อย่าส่งต่อถึง 'รุ่นลูก' 

วันนี้ (19 ต.ค.67) เพจ The Publisher ได้โพสต์บทความหัวข้อ "ทุจริตเชิงนโยบายจาก “รุ่นพ่อ” อย่าส่งต่อถึง “รุ่นลูก” โดยมีเนื้องหาดังนี้ 


คำว่า "ทุจริตเชิงนโยบาย" เป็นที่รู้จักในยุคนายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งเต็มไปด้วยข้อครหาออกนโยบายเอื้อประโยชน์ให้ตัวเองและครอบครัว จนกลายเป็นคดีที่ศาลฎีกาฯ พิพากษามีความผิดติดคุกไปหลายคดี รวมถึงยึดทรัพย์ด้วย

ตัวละครที่เกี่ยวพันกับการร่วมด้วยช่วยเหลือ “รับใช้นาย” กลับมาวนเวียนเกี่ยวพันกับการบริหารในยุคลูกสาว แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกฯ ด้วย โดยเฉพาะคดีเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทชินคอร์ปฯ ซึ่ง น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีต รมว.ไอซีที ถูกพิพากษาติดคุก 1 ปี ไม่รอลงอาญา พ้นคุกออกมายังโลดแล่นในแวดวงการเมือง ล่าสุดได้รับการแต่งตั้งจากนางสาวแพทองธาร ให้เป็นที่ปรึกษานโยบายของนายกฯ และเป็นประธานบอร์ดพัฒนาซอฟพาวเวอร์แห่งชาติ และกลายเป็นประเด็นที่ทำให้นางสาวแพทองธาร ถูกร้องว่า อาจเข้าข่ายผิดจริยธรรมร้ายแรง หลังตั้งคนเคยติดคุกมาช่วยงานบริหารบ้านเมือง

ตัวละครสำคัญที่เกี่ยวพันกับการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทชินคอร์ปฯ ในยุคทักษิณ คือ นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธ์ อดีตปลัดกระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ็ดบอร์ดองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย หรือ ทศท. ที่ต้องร่วมชดใช้เงินกว่า 66,060 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ตามคำพิพากษาศาลฎีกาจากคดีแก้ไขสัมปทาน เพื่อลดอัตราส่วนแบ่งรายได้จากการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบใช้บัตรจ่ายเงินล่วงหน้า (Prepaid Card) ให้เอไอเอส ซึ่งขณะนั้นเป็นของนายทักษิณ โดยมิชอบ

ชื่อ “สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธ์” ยังพัวพันกับคดีที่นพ.สุรพงษ์ สมัยเป็นรมว.คลัง ถูกตัดสินจำคุกหนึ่งปีแต่รอลงอาญา จากกรณีตั้งบอร์ดแบงก์ชาติโดยมิชอบด้วยกฎหมาย โดยมีการตั้งกรรมการคัดเลือกสามรายที่มีปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อน หนึ่งในนั้นคือ “สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์” ซึ่งขณะนั้นเป็นกรรมการบริหารธนาคารทหารไทย ซึ่งศาลฯ เห็นว่าธนาคารดังกล่าวอยู่ภายใต้การกำกับของ ธปท. ขณะที่กรรมการ ธปท.มีบทบาทสำคัญดูแลเสถียรภาพด้านการเงินของประเทศ การแต่งตั้งครั้งนั้นจึงขัด พ.ร.บ. ธนาคารแห่งประเทศไทย มาตรา 28/1 วรรคสาม และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2551 มาตรา 9 ถือว่าทั้ง 3 ราย เป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการคัดเลือก จึงพิพากษาว่า นพ.สุรพงษ์ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ให้จำคุก 1 ปี ปรับ 2 หมื่นบาท แต่โทษจำคุกรอลงอาญา 1 ปี

ในวังวนคนรับใช้ หรือคนที่ถูกเลือกมาใช้งานดูเหมือนจะอยู่ในอ่างแคบ ๆ วกกลับมาหาคนเดิมอีกครั้งในบทบาทแบบเดิม รัฐบาลแพทองธาร โดยรมว.คลัง ตั้ง สถิตย์ เป็นคณะกรรมการคัดเลือกประธทานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในบอร์ดแบงก์ชาติ รั้งตำแหน่งประธานฯ ชุดนี้ด้วย ท่ามกลางความพยายามผลักดันคนจากฝ่ายการเมืองคือ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ไปเป็นประธานบอร์ดแบงก์ชาติ

ประวัติความเป็นมาแบบนี้ การคัดเลือกประธานบอร์ดแบงก์ชาติ จึงถูกจับตาจากหลายฝ่ายเรื่องความโปร่งใสในการปฏิบัติหน้าที่ การเลือกประธานบอร์ดแบงก์ชาติที่จะมีขึ้นในวันที่ 4 พ.ย.จะจบแบบไหนต้องรอดู เพราะ “กิตติรัตน์” ยังมีคดีระบายข้าวในยุคยิ่งลักษณ์ ที่ป.ป.ช. ให้ อสส. ยื่นอุทธรณ์คดีต่อ

คนที่การเมืองอยากผลักดันยังไม่พ้นมลทิน คนที่มีอำนาจคัดเลือกเกี่ยวพันกับการทุจริตเชิงนโยบายตั้งแต่รุ่นพ่อ มาถึงรุ่นลูก ก็ได้แต่หวังว่าจะไม่มีการส่งต่อมรดกบาปที่จะทำให้ประเทศชาติเสียหายอีก

ขอบคุณ The Publisher 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top