วันพุธ ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
เปิดมติ‘ศาลรธน.’!7 : 2 ไม่รับคำร้อง‘ทักษิณ-พท.’ล้มล้างฯ ชี้ไม่มีน้ำหนักหลักฐานเพียงพอ

เปิดมติ‘ศาลรธน.’!7 : 2 ไม่รับคำร้อง‘ทักษิณ-พท.’ล้มล้างฯ ชี้ไม่มีน้ำหนักหลักฐานเพียงพอ

วันศุกร์ ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567, 12.53 น.
Tag : ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลรธน. มติศาลรัฐธรรมนูญ ทักษิณ เพื่อไทย ล้มล้างการปกครอง
  •  

เปิดมติ‘ศาลรธน.’!7 : 2 ไม่รับคำร้อง‘ทักษิณ-พท.’ล้มล้างฯ ชี้ไม่มีน้ำหนักหลักฐานเพียงพอ

22 พฤศจิกายน 2567 ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติไม่รับคำร้องไว้วินิจฉัยในคดีที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร  ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 48 โดยกล่าวอ้างว่า นายทักษิณ ชินวัตร ผู้ถูกร้องที่ 1 และพรรคเพื่อไทย ผู้ถูกร้องที่ 2 ร่วมกันกระทำการ อันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขใน 6 ประเด็น คือ


1. ผู้ถูกร้องที่ 1 สั่งการรัฐบาลผ่านกระทรวงยุติธรรม กรมราชทัณฑ์ และโรงพยาบาล ตำรวจ ให้เอื้อประโยชน์แก่ผู้ถูกร้องที่ 1 ให้พักอาศัยอยู่ห้องพัก ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ในระหว่างรับโทษ จำคุก เพื่อให้ไม่ต้องรับโทษในเรือนจำ ทั้งที่ไม่พบว่ามีอาการป่วยขั้นวิกฤต

2. ผู้ถูกร้องที่ 1 สั่งการรัฐบาลให้เอื้อประโยชน์แก่อดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศกัมพูชา ให้มีการเจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลเพื่อแบ่งผลประโยชน์ก๊าซธรรมชาติและทรัพยากรใต้ทะเลในเขตอธิปไตย ทางทะเลของประเทศไทยให้แก่ประเทศกัมพูชา

ประเด็นที่ 3 ผู้ถูกร้องที่ 1สั่งการให้ผู้ถูกร้องที่ 2 ร่วมมือเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญกับพรรคประชาชน ซึ่งเป็นพรรคที่ก่อตั้งโดยกลุ่มการเมืองของพรรคก้าวไกลเดิมที่ต้องคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญว่ามีพฤติการณ์ล้มล้าง การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ประเด็นที่ 4 ผู้ถูกร้องที่ 1 สั่งการแทนผู้ถูกร้องที่ 2 โดยเจรจากับแกนนำของพรรคการเมืองอื่น ที่ร่วมรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อหารือการเสนอชื่อบุคคลผู้สมควรเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ที่บ้านพักส่วนตัวของผู้ถูกร้องที่ 1

ประเด็นที่ 5 ผู้ถูกร้องที่ 1 สั่งการให้ผู้ถูกร้องที่ 2 มีมติขับพรรคพลังประชารัฐออกจากพรรคร่วมรัฐบาล

ประเด็นที่ 6 ผู้ถูกร้องที่ 1 สั่งการให้ผู้ถูกร้องที่ 2 นำนโยบายของผู้ถูกร้องที่ 1 ที่แสดงวิสัยทัศน์ไว้ ไปดำเนินการให้เป็นนโยบายของคณะรัฐมนตรีที่แถลงต่อรัฐสภา จึง ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้ผู้ถูกร้องที่ 1 เลิกกระทำการดังกล่าว และให้ผู้ถูกร้องที่ 2เลิกยินยอมให้ผู้ถูกร้องที่ 1 ใช้เป็นเครื่องมือกระทำการดังกล่าว 

และเมื่อวันอังคารที่ 22 ต.ค.67 ศาลรัฐธรรมนูญได้มีมติให้มีหนังสือถึงอัยการสูงสุดเพื่อขอทราบ ว่าได้ดำเนินการตามคำร้องของผู้ร้องไปแล้วอย่างไร และรวบรวมพยานหลักฐานได้เพียงใด โดยให้จัดส่งต่อ ศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ ซึ่งอัยการสูงสุดได้รับหนังสือเมื่อวันศุกร์ที่ 25 ต.ค. 67 ต่อมาเมื่อวันศุกร์ที่ 8พ.ย.67 และวันจันทร์ที่ 11 พ.ย.67 สำนักงาน ศาลรัฐธรรมนูญได้รับหนังสือสำนักงานอัยการสูงสุด ลับ ด่วนที่สุด ที่ อส 0033.3/18980 ลงวันที่ 7 พ.ย. 67 และหนังสือสำนักงานอัยการสูงสุด ลับ ด่วนที่สุด ที่ อส 0033.3/19100 ลงวันที่ 11 พ.ย. 67 ส่งเอกสารตามหนังสือเรียกเอกสาร หลักฐาน หรือบุคคลของศาลรัฐธรรมนูญแล้วนั้น

ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วเห็นว่า คดีนี้แม้นายธีรยุทธจะใช้สิทธิยื่นคำร้องต่ออัยการ สูงสุดแล้วและอัยการสูงสุดไม่ดำเนินการภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำร้องขอ อันทำให้นายธีรยุทธมีสิทธิยื่นคำร้อง โดยตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ก็ตาม แต่การพิจารณาว่าบุคคลใดจะใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง จะต้องปรากฏ ข้อเท็จจริงชัดเจนเพียงพอที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งหมายและความประสงค์ระดับที่วิญญูชนคาดเห็นได้ว่าน่าจะทำให้ เกิดผลเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยการกระทำนั้นจะต้องกำลังดำเนินอยู่และไม่ห่างไกลเกินกว่าเหตุ

ข้อกล่าวอ้างในประเด็นที่ 1 และประเด็นที่ 3 ถึงประเด็นที่ 6 ยังไม่มีน้ำหนักพยานหลักฐาน เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่าการกระทำของผู้ถูกร้องทั้งสองน่าจะทำให้เกิดผลเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้าง การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง ดังนั้น กรณีไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา49 วรรคหนึ่ง ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเอกฉันท์ไม่รับไว้พิจารณาวินิจฉัยในประเด็นที่ 1 และประเด็นที่ 3 ถึงประเด็นที่ 5

สำหรับประเด็นที่ 2 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติโดยเสียงข้างมาก7 ต่อ 2 มีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้ พิจารณาวินิจฉัยโดย

ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมาก จำนวน 7 คน คือ นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ นายปัญญา อุดชาชน นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม นายวิรุฬห์ แสงเทียน นายบรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์ นายอุดม รัฐอมฤต และนายสุเมธ รอยกุลเจริญ เห็นว่า ยังไม่มีน้ำหนักพยานหลักฐานเพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่าการกระทำ ของผู้ถูกร้องทั้งสองน่าจะทำให้เกิดผลเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมี พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง

ส่วนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างน้อย จำนวน 2 คน คือ นายจิรนิติ หะวานนท์ และนายนภดล เทพพิทักษ์ เห็นว่า มีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่าการกระทำของผู้ถูกร้องทั้งสองน่าจะทำให้เกิดผล เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะรับไว้พิจารณาวินิจฉัยได้

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ‘สรวงศ์’ปัดไม่ใช่คนดีลสลับกระทรวง‘เพื่อไทย-ภูมิใจไทย’ ‘สรวงศ์’ปัดไม่ใช่คนดีลสลับกระทรวง‘เพื่อไทย-ภูมิใจไทย’
  • ‘เสรีพิศุทธ์’จัดหนัก  เชื่อ13มิ.ย.‘แม้ว’ไม่ไปศาล  กลัวถูกล็อกตัวเข้าเรือนจำ ‘เสรีพิศุทธ์’จัดหนัก เชื่อ13มิ.ย.‘แม้ว’ไม่ไปศาล กลัวถูกล็อกตัวเข้าเรือนจำ
  • \'แพทย์ศิริราช รุ่น 87\' แสดงจุดยืนสนับสนุน \'มติแพทยสภา\' 'แพทย์ศิริราช รุ่น 87' แสดงจุดยืนสนับสนุน 'มติแพทยสภา'
  • จากมิตรภาพ 50 ปี สู่จุดแตกหัก! ‘เสรีพิศุทธ์’เผยเหตุเปิดหน้าชน‘ทักษิณ’ เชื่อ 13 มิถุนานี้ไม่ไปศาลแน่ จากมิตรภาพ 50 ปี สู่จุดแตกหัก! ‘เสรีพิศุทธ์’เผยเหตุเปิดหน้าชน‘ทักษิณ’ เชื่อ 13 มิถุนานี้ไม่ไปศาลแน่
  • ภท.แบะท่าคุย! หากเพื่อไทยอยากได้\'มท.\' ยื่นข้อเสนอกลับ ขอปรับใหญ่ รื้อใหม่ทุกกระทรวง ภท.แบะท่าคุย! หากเพื่อไทยอยากได้'มท.' ยื่นข้อเสนอกลับ ขอปรับใหญ่ รื้อใหม่ทุกกระทรวง
  • แนวหน้าวิเคราะห์: รัฐบาล‘เพื่อไทย’ล้มเหลว แก้ไขวิกฤติเศรษฐกิจและปากท้องประชาชน แนวหน้าวิเคราะห์: รัฐบาล‘เพื่อไทย’ล้มเหลว แก้ไขวิกฤติเศรษฐกิจและปากท้องประชาชน
  •  

Breaking News

‘สว.ล็อต 4’ทยอยรับทราบข้อกล่าวหา‘ฮั้ว’ ยังไม่พบ‘หมอเกศ’

'เสก โลโซ'ไม่ได้ออกนอกเรือนจำ เล่นคอนเสิร์ต 4 มิ.ย. ราชทัณฑ์เปิดเกณฑ์ชี้แจง

'ทวี'ย้ำหน้าที่ดูแลชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นของ'กลาโหม-มหาดไทย'ขอประชาชนมั่นใจ

‘สว.’แถลงอัด‘สมศักดิ์’วีโต้ ‘แพทยสภา’ จวกอย่าใช้เกียรติ‘สภานายกพิเศษ’ทำลายวิชาชีพแพทย์

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved