วันเสาร์ ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
‘ทักษิณ’สติแตก กลัวบ่วงรัดคอ ‘จตุพร’แฉสู้ให้จนติดคุก 5 ครั้ง‘เนรคุณ’ตรงไหน

‘ทักษิณ’สติแตก กลัวบ่วงรัดคอ ‘จตุพร’แฉสู้ให้จนติดคุก 5 ครั้ง‘เนรคุณ’ตรงไหน

วันพุธ ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2567, 09.58 น.
Tag : ทักษิณ จตุพร การเมือง
  •  

‘จตุพร’ฉะ‘ทักษิณ’พูดกราดเกรี้ยวดุดัน เป็นพ่อไม่ไว้หน้านายกฯลูกสาว จวกปราศรัยเหวี่ยงแห ดุด่าสองแง่สามง่าม ยัดเยียดสารพัดเนรคุณ ย้อนแสบทดแทนบุญคุณนักสู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บหรือยัง ลั่น‘ผมเป็นหนี้อะไรนักหนา สู้ให้จนติดคุก 5 ครั้ง’ ชีวิตผจญชะตากรรมไม่รู้จบ บ้านรอถูกยึด คงทดแทนกันพอแล้วมั้ง

25 ธันวาคม 2567 นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์กรณีทักษิณ ชินวัตร ปราศรัยหาเสียงนายก อบจ. เชียงใหม่ ด้วยอารมณ์กราดเกรี้ยว ว่า เป็นอาการสติแตกของคนมีความอึดอัดคับแน่นอก จึงตอบโต้แบบตาต่อตา ฟันต่อฟันเพื่อเอาคืนเสมือนต้องการแก้แค้น ดังนั้น การอ้างกลับไทยมาเลี้ยงหลานจึงสวนทางกับพฤติกรรมเป็นผู้ช่วยหาเสียงที่พูดดุด่าไม่เหมาะสมกับสถานะพ่อของนายกฯ


นายจตุพร กล่าวว่า ทักษิณ พูดแดกดันถึงบางคนไม่มีอาชีพแต่ซื้อที่ดินริมทะเล ซึ่งคงไม่ได้หมายถึงตนเพราะไม่มีที่ดินริมทะเลสักตารางนิ้ว อย่างไรก็ตาม ก็ไม่ควรพูดเหวี่ยงแห สื่อความสองแง่สามง่ามให้เกิดจินตนาการไปกว้างไกล ต้องพูดออกมาให้ชัดเจน เพราะมีสะดุ้งกันหลายคน ดังนั้นการเน้นพูดถึงคนไม่มีอาชีพแต่มีที่ดินริมทะเลนั้น กลับไม่แตะต้องคนมีอาชีพแล้วทุจริตซึ่งน่ากลัวที่สุด แม้ศาลพิพากษาให้ยึดทรัพย์ และบางคดีให้ชดใช้ แต่อยู่ระหว่างขั้นตอนตามกระบวนพิจารณาจำนวนเงินให้ชดใช้ และสืบหาทรัพย์ต้องยึด คาดคงตามหาไม่ยาก การมีอาชีพไม่ได้หมายความว่าจะใช้ชีวิตสุดจริตแบบปกติทั่วไป เพราะบ้านเมืองหายนะจากการทุจริตคอร์รัปชันก็มาจากมือพวกมีอาชีพทั้งนั้น อาชีพคอร์รัปชันเป็นอาชีพที่น่ากลัว เพราะเป็นอาชีพโกงบ้านกินเมือง

“ปฏิกิริยาของทักษิณที่พูดสารพัดลำเลิกบุญคุณ ถ้าเป็นในส่วนของตนแล้ว เคยบอกไปแล้วว่า แม้ในการต่อสู้ตนไม่มีเงินไปลงขันด้วย แต่ต้องแลกด้วยอิสรภาพและเอาชีวิตไปต่อสู้ให้ จนติดคุกมา 5 ครั้ง มีอีก 2 คดีกำลังจ่อโทษมาถึง และกำลังถูกยึดบ้านไปชดใช้ความเสียหายจากคดีไม่เป็นธรรมที่ได้จากการต่อสู้ นอกจากนี้ทักษิณยังพูดลำเลิกบุญคุณโดยนำเรื่องกินข้าวที่พรรคจัดเลี้ยงให้หนึ่งมื้อมาเป็นการเนรคุณคน ปัญหามีอยู่ว่า ถ้าคนรู้จักบุญคุณคนแล้วต้องรู้ว่าการต่อสู้มีคนตายเป็นร้อย บาดเจ็บสองพัน สูญสิ้นอิสรภาพนับไม่ถ้วน สิ่งนี้ต่างหากที่ต้องไม่เนรคุณต่อพวกเขา”

นายจตุพร ถามว่า ที่ผ่านมาทักษิณได้ทดแทนบุญคุณหรือเนรคุณพวกเขา ถ้าจะทดแทนบุญคุณควรให้กับคนที่ตาย คนบาดเจ็บ คนถูกคุมขังในคุกจนสิ้นอิสรภาพและคนไปต่อสู้ให้จนสิ้นเนื้อประดาตัวซึ่งมีจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ไม่เคยมีใครพูดถึงการทดแทนบุญคุณคน กลับพูดแต่ยัดเยียดการเนรคุณให้คนอื่นไปทั่วบ้านเมือง

“การต่อสู้ในหลากหลายสมรภูมิ ผมเป็นหนี้อะไรกับทักษิณกันนักหนา และติดคุก 5 ครั้ง มีคดีกำลังมาอีก ทั้งชะตากรรมต่างๆ นั้น ผมบอกว่ามันชดใช้กันพอแล้วมั้ง แต่พฤติกรรมทักษิณเมื่อไม่เป็นไปตามที่พูดบอกเหตุผลในการต่อสู้กับประชาชน แล้วทำไมผมต้องปฏิบัติตามกับสิ่งที่ไม่รักษาคำพูดที่เรียกว่า เสียสัตย์หรือตระบัดสัตย์ก็ตาม”

นายจตุพร กล่าวว่า ถ้าเราคิดอยากจะอยู่อย่างมีเกียรติในชีวิตนี้แล้ว มันไม่ใช่เรื่องจะต้องซื่อสัตย์กับคนที่ไม่ซื่อสัตย์ เพราะในการต่อสู้มีคนตาย คนเจ็บ คนสูญสิ้นอิสรภาพนั้น มันเป็นเลือดท่วมปาก และตลอด 2 ปีผ่านมาตนได้อธิบายทุกอย่างแล้ว ดังนั้น อยากจะลำเลิกอะไรและจากใครก็ได้ เอาตามสบาย

นายจตุพร กล่าวว่า ถ้าทักษิณมาเลี้ยงหลานตามการขออนุญาตกลับบ้าน และรับโทษตามกระบวนการยุติธรรม แล้วใช้ชีวิตอย่างปกติสุข คงไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องไปพูดวิจารณ์ทักษิณ แต่พฤติกรรมวันนี้มันไม่ใช่ แล้วยังจะพาให้บ้านเมืองลามไปสู่ปัญหาต่างๆ อีกมากมาย ทั้ง mou 44 ที่ประกาศจะแบ่งผลประโยชน์ 50:50 กับกัมพูชา ประชาชนจะใช้สิทธิวิจารณ์ไม่ได้หรืออย่างไร เพราะเป็นสิทธิของพลเมืองไทยต้องปกป้องผลประโยชน์บ้านเมือง

นายจตุพร กล่าวว่า เมื่อทักษิณกลับมาเป็นคนสาธารณะ จะไม่ให้ใครแตะต้องเลยคงไม่ได้ ส่วนการพูดให้พม่า กะเหรี่ยง และกัมพูชาจัดการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ถ้าทำไม่ได้จะใช้กำลังไทยเข้าไปจัดการเอง ทักษิณพูดแบบนี้ใช้สถานะอะไร เพราะคำพูดเช่นนี้ต้องเป็นนายกฯ อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวคนสุดท้องพูดคงเหมาะสมกว่า

นอกจากนี้ เมื่อทักษิณ เป็นพ่อของนายกฯ แต่พูดหาเสียงหลุดคำดุด่าแบบโคตร ๆ มันเหมาะสมหรือเปล่า อีกอย่างการพูดด้วยอารมณ์เกรี้ยวกราดในหลายเรื่องนั้น กำลังเข้าใจผิดในสถานะของตัวเองหรือไม่ ว่า ตัวเองเป็นบุคคลต้องห้ามทางการเมืองและถูกตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต

“เมื่อ 4 ปีที่แล้วการหาเสียงนายก อบจ. เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทยกล่าวหารูปที่ถ่ายกับผู้กองธรรมนัส พรหมเผ่า (เมื่อครั้งไปเปิดสาขา พปชร.) และยังบิดเบือนคดีบอสขับรถชนตำรวจเสียชีวิตเพื่อช่วยคนบางคนในทางการเมือง ซึ่งวันนี้มันเป็นความจริงหรือไม่ ซึ่งควรขอโทษตระกูลบูรณุปกรณ์ เสียด้วยซ้ำ เพราะพรรคเพื่อไทยกล่าวหาด้วยข้อความเป็นเท็จในกรณีเรื่องรูปถ่ายกับผู้กองธรรมนัส”

นายจตุพร กล่าวว่า การหาเสียงเลือกนายก อบจ. ยังมีอีกหลายพื้นที่กำลังเริ่มขึ้น ดังนั้น จะได้เห็นอารมณ์ด่ากราดแบบคนคิดเป็นพ่อทุกสถาบันจากทักษิณก้นอีก แค่เริ่มพูดหาเสียงยังเกรี้ยวกราดแบบนี้ เวลาอีกยาวไกลจะดุดันหนักกว่านี้เป็นทวีเท่า

“การเกรี้ยวกราดของทักษิณ ใช้สารพัดคำมาดุด่า ประจาน ด้อยค่า มีทั้งโคตร ทั้งเห่าหอน ขิงฮาภาษาคำเมือง หรือตาต่อตาฟันต่อฟัน ไม่ว่าเป็นภาษาไทยหรืออังกฤษงัดออกมาพูดขยี้ทิ่มแทงเต็มที่ ด้วยอารมณ์แข็งกร้าวแบบนี้แสดงถึงความไม่มั่นใจ เพราะถ้าคนมั่นใจจะสุขุมในการพูดและการแสดงออกต่อสาธารณะ”

อีกกรณีหนึ่งที่แสดงถึงความไม่มั่นใจคือ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกฯ มาเลเซีย นัดทักษิณในฐานะที่ปรึกษาส่วนตัวประธานอาเซียน โดยไปคุยที่เกาะลังกาวี แต่ต้องเปลี่ยนมาคุยในพื้นที่ไทย เพราะทักษิณคงไม่มั่นใจว่า ศาลจะอนุญาตให้ออกนอกประเทศ

นอกจากนี้ยังมีความไม่มั่นใจกับปรากฏการณ์ของชั้น 14 ซึ่ง ป.ป.ช.และแพทยสภาอยู่ระหว่างการตรวจสอบ รวมทั้งกรณีของนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ถูกคณะกรรมการกฤษฎีการะบุคุณสมบัติต้องห้ามเป็นประธานบอร์ดแบงก์ชาติ โดยกรณีดังกล่าวมานี้จะเห็นถึงการขยับเห็นผลในปี 68 ทั้งสิ้น

“คนการเมืองย่อมมองเห็นความไม่มั่นใจในกรณีดังกล่าวผ่านอารมณ์เกรี้ยวกราด ด่าตวาดลั่นเวทีหาเสียง ซึ่งถ้าเป็นคนสุขุมมีความสุขแล้ว จะมีชีวิตอีกแบบหนึ่งในการปราศรัย ดังนั้น ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับทักษิณจึงมีความกังวลภายใต้เวลาจำกัด หากคิดจะมีการเปลี่ยนผลอะไรให้เป็นคุณต่อทักษิณแล้ว คงไม่ใช่จะทำกันได้ง่ายๆ โดยพิจารณาจากการตรวจสอบจริยธรรมแพทย์ของแพทยสภา”

นายจตุพร กล่าวว่า กรณีนายกิตติรัตน์ มีคุณสมบัติต้องห้ามในตำแหน่งประธานบอร์ดแบงก์ชาติแล้ว สิ่งต้องจับตาว่า จะลุกลามไปสู่นายกฯ แต่งตั้งตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกฯ หรือไม่ ซึ่งมีบางคนเป็นบุคคลต้องห้ามไม่ให้มีตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งจะเกิดปัญหาว่า จะดำรงตำแหน่งได้หรือไม่

อีกทั้งในต้นปี 68 จะมีหลากหลายปัญหาที่ทักษิณและรัฐบาลเพื่อไทยจะหวั่นไหวจนเกิดความไม่มั่นใจ โดยเฉพาะเรื่องบ่อนคาสิโนต้องผ่านมติ ครม.และออกเป็นกฎหมาย ทั้งการตั้งคณะกรรมการ เจทีซี ไปเจรจา mou 44 เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์เฉพาะกลุ่มกับกัมพูชา

อย่างไรก็ตาม การขายคอนโดฯ โดยขยายเวลาให้ต่างชาติอยู่นานได้ 99 ปี หรือแลนด์บริดจ์ให้นักลงทุนมีสิทธิเช่าที่ดิน 3 แสนไร่นาน 99 ปี รวมถึงรถไฟฟ้าความเร็วสูงและการขนส่งระบบรางที่ต้องยกที่ดินสองข้างทางให้เอกชนไปยึดครองหาประโยชน์

ส่วนโครงการบ้านเพื่อคนไทย จะถูกวิจารณ์อย่างหนัก เพราะมีคำถามว่า บ้านเอื้ออาทรยังเหลือเป็นบ้านร้างอีกเท่าไร และจำเป็นต้องสร้างเพิ่มใหม่อีกหรือ? ดังนั้น ในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนเหล่านี้และการออกมาคัดค้านของประชาชน ล้วนทำให้ทักษิณกับพรรคเพื่อไทยเกิดหวั่นไหวในความไม่มั่นใจทั้งสิ้น

“สิ่งเหล่านี้รอทำให้บ้านเมืองเกิดหายนะอยู่แล้ว ถ้าวันนี้รัฐบาลเพื่อไทยได้ทำในสิ่งที่ดีงาม ประชาชนคงไม่เหนื่อยยากอีก แต่การทำเรื่องสุ่มเสี่ยงเข้าข่ายผลประโยชน์ทับซ้อนและแต่ละเรื่องยังหาอนาคตของประเทศไม่เจอ”

ส่วนสถานการณ์พรรคร่วมรัฐบาลนั้น นายจตุพร คาดว่า บางพรรคจะสุ่มเสี่ยงถูกปรับตำแหน่ง โดยเฉพาะ รมว.พลังงาน จากพรรครวมไทยสร้างชาติ ขณะที่พรรคภูมิใจไทยมีเกราะกำบังและมีเอกภาพภายในพรรคเข้มข้น แล้วยังรู้เท่าทันเกมตวาด ตบจูบของทักษิณและพรรคเพื่อไทยคงต้องอยู่กันไปกับปัญหาทับถมได้เรื่อยๆ ซึ่งเวลาอีกนานจะระเบิดขึ้น

กรณีชั้น 14 ซึ่ง ป.ป.ช.ตั้งคณะกรรมการชุดใหญ่เต็มคณะสอบสวน 12 เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติมิชอบ คาดว่า บุคคลทั้ง 12 คนจะให้การไม่เหมือนกัน เพราะบางคนไม่มีผลประโยชน์มาเกี่ยวข้องด้วย ดังนั้น เชื่อว่าจะมีบางคนถูกกันไว้เป็นพยานเพื่อไม่ต้องสุ่มเสี่ยงกับถูกฟ้องในศาลอาญาทุจริตและประพฤตมิชอบที่มีโทษรุนแรง

“สำหรับฝ่ายประชาชนนั้น คาดว่าคงไม่รีบลงถนน แต่รอให้สถานการณ์พาไป เพราะวันข้างหน้ายังมีเรื่องราวเป็นชนวนเกิดขึ้นอีกมาก ยิ่งเป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับคนชั้น 14 จะถูกกระชับปมตามลำดับ จึงไม่มีใครรู้ดีกว่าเจ้าตัว ดังนั้นอาการกราดเกรี้ยวต่างๆ ที่เชียงใหม่จึงไม่น่ากลัว กลับเห็นแต่ความหวาดกลัวของคนแสดงอาการใหญ่คับบ้านเมืองเสียมากกว่า”

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • อุดมการณ์สิ้นสูญ! \'สหายใหญ่\'โดนชาวเน็ตเขียนกลอนแขวะแรง อุดมการณ์สิ้นสูญ! 'สหายใหญ่'โดนชาวเน็ตเขียนกลอนแขวะแรง
  • หักหน้า‘สมศักดิ์’ ‘แพทยสภา’ยันไม่ส่งเอกสารเพิ่ม ชี้มติฟัน3หมอชั้น14ครบถ้วนแล้ว หักหน้า‘สมศักดิ์’ ‘แพทยสภา’ยันไม่ส่งเอกสารเพิ่ม ชี้มติฟัน3หมอชั้น14ครบถ้วนแล้ว
  • ให้ไปครบแล้ว!!! ‘แพทยสภา’ปัดส่งเอกสาร‘ชั้น 14’เพิ่ม บอกเพียงพอที่จะตัดสินใจ ให้ไปครบแล้ว!!! ‘แพทยสภา’ปัดส่งเอกสาร‘ชั้น 14’เพิ่ม บอกเพียงพอที่จะตัดสินใจ
  • ทำผิดต้องชดใช้! ‘อดีตบิ๊กข่าวกรอง’แนะจับตารอ 13 มิ.ย.มีข่าวดีแน่นอน ทำผิดต้องชดใช้! ‘อดีตบิ๊กข่าวกรอง’แนะจับตารอ 13 มิ.ย.มีข่าวดีแน่นอน
  • ‘ไพศาล’งัดนายกสมาคมทนายฯ ‘กม.ราชทัณฑ์’ลบล้าง พรป.วิธีพิจารณาความอาญาฯไม่ได้ ‘ไพศาล’งัดนายกสมาคมทนายฯ ‘กม.ราชทัณฑ์’ลบล้าง พรป.วิธีพิจารณาความอาญาฯไม่ได้
  • ปูด! 12 มิ.ย.นี้ \'สภาวิชาชีพ\'ล็อบบี้เดือด แข่งกัน 2 ฝั่ง ทั้งเร่งให้มา-ให้ขาดประชุม ปูด! 12 มิ.ย.นี้ 'สภาวิชาชีพ'ล็อบบี้เดือด แข่งกัน 2 ฝั่ง ทั้งเร่งให้มา-ให้ขาดประชุม
  •  

Breaking News

'นฤมล'แจ้งข่าวดี ไทยถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม 'Low Risk' ตามกฎ EUDR เอื้อส่งออกสินค้าเกษตรไปยุโรปง่ายขึ้น

‘วรวัจน์‘ พึ่ง ChatGPT ป้อง 'ยิ่งลักษณ์' อ้างนโยบายรัฐใช้คำว่าขาดทุนไม่ได้

'ตั้ม วราวุธ'ออกจากห้องไอซียูแล้ว ผู้จัดการโพสต์ภาพยกมือไหว้ขอบคุณกำลังใจ

โชคดีที่สุด! 'ปฐม อินทโรดม' ทึ่ง 'กรมสมเด็จพระเทพฯ'ทรงงานหนัก แม้บังเอิญเจอในสนามบินถึง 5 ครั้ง

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved