วันพฤหัสบดี ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
‘รมช.กลาโหม’แฉกลางสภา แก๊งขนต่างด้าวเถื่อน-จนท.รัฐ‘สมประโยชน์’

‘รมช.กลาโหม’แฉกลางสภา แก๊งขนต่างด้าวเถื่อน-จนท.รัฐ‘สมประโยชน์’

วันจันทร์ ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2568, 12.36 น.
Tag : ประชุมสภา สภา แรงงานเถื่อน เจ้าหน้าที่รัฐ ชายแดน สมประโยชน์
  •  

‘รมช.กลาโหม’แจงมาตรการสางปัญหา‘หนีเข้าเมือง’ผิดกฎหมายตามแนวชายแดน ย้ำยึดหลักมนุษยธรรม-บังคับใช้กฎหมายเคร่งคัด รับมีการ‘สมประโยชน์’พวกลักลอบแรงงาน-เจ้าหน้าที่รัฐ

เมื่อวันที่ 09.30 น.วันที่ 20 มกราคม 2568 ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ที่มีนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามเป็นหนังสือ เรื่องมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายในบริเวณพื้นที่แนวชายแดน ของนายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล สมาชิกวุฒิสภา(สว.) ถามนายกฯ โดยมอบหมายให้ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม เป็นผู้ตอบกระทู้แทน


นายไชยยงค์ กล่าวว่า ช่วงหลายปีที่ผ่านมา ประเทศไทยต้องเผชญกับ ปัญหาผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายจำนวนมาก ทั้งเมียนมา ลาว กัมพูชา และอื่นๆ ซึ่งมักจะพบในจังหวัดที่มีพรมแดนติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านทั้งทางบกและทางน้ำ เช่น จังหวัดตาก กาญจนบุรี ระนอง สระแก้ว และชายแดนด้านอื่นๆ ทำให้เกิดปัญหาผู้หลบหนี้เข้ามาแรงงานต่างด้าว แรงงานข้ามชาติ การลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย โดยผ่านประเทศไทย เพื่อเดินทางไปประเทศที่ 3 เช่น มาเลเซีย ส่งผลกระทบต่อการเสริมสร้างความมั่นคงของชาติและทิศทางการพัฒนาประเทศในระยะยาวสภาปัญหาดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน ทั้งกระทรวงกลาโหม กระทรวงแรงงาน กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เป็นต้น

นอกจากนี้ยังพบว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งรับผิดชอบบริเวณชายแดนไม่บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด และอาจจะมีผลประโยชน์ทับซ้อน ส่งผลให้มีผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายมากขึ้นเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดปัญหาต่างๆมากมาย จึงอยากถามว่ารัฐบาลมีมาตรการป้องกันและแนวทางแก้ปัญหาเหล่านี้อย่างไร

ด้านพล.อ.ณัฐพล ชี้แจงว่า ข้อมูลจากหน่วยงานความมั่นคง ระบุว่า ปัญหาดังกล่าวเกิดจากการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทยที่ก่อให้เกิดความต้องการแรงงานจากภายนอกประเทศเป็นจำนวนมากประกอบกับประเทศไทยมีพรมแดนมีพรมแดนทางบกที่ติดต่อกับประเทศรอบบ้านถึง 5,671 กิโลเมตร ทำให้เกิดกระบวนการนำแรงงานผิดกฎหมายเข้าเมืองผ่านพื้นที่ชายแดนอย่างต่อเนื่อง บางส่วนถูกนำเข้ามาถึงพื้นที่ชั้นใน จนอาจส่งผลกระทบด้านความมั่นคง ด้านสังคม และด้านสาธารณสุข ตลอดจนภาพลักษณ์ของประเทศไทย ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลได้ตระหนัก และกำหนดนโยบายมาตรการแก้ไขปัญหามาอย่างต่อเนื่อง โดยมอบให้สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.)และกระทรวงมหาดไทย ร่วมกันจัดทำและขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการบริหารชายแดนด้านความมั่นคง พ.ศ.2556-2570 ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง ตลอดจนนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ พ.ศ. 2556-2570 เพื่อเป็นแนวทางให้กับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องใช้ในการดูแลชายแดนร่วมกันอย่างสมดุลระหว่างการรักษาความมั่นคง กับการเสริมสร้างความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจในพื้นที่ชายแดน ซึ่งมีหลายหน่วยงานร่วมกันรับผิดชอบ

“ชี้ให้เห็นว่า รัฐบาลมีนโยบายแผนและกลไกที่ชัดเจนเป็นระบบและมีเอกภาพในการบริหารจัดการพื้นที่ชายแดนรวมถึงมาตรการป้องกันและแนวทางการแก้ปัญหาซึ่งมาตรการป้องกัน ประกอบไปด้วยการ เชื่อมโยงข้อมูลการสัญจรข้ามแดนระหว่างหน่วยงานเพื่อให้เจ้าหน้าที่ที่มีข้อมูลในการตรวจสอบติดตามการผ่านเข้าออก ตลอดจนตรวจจับและสกัดกั้นเคลื่อนย้ายคนและสิ่งของข้ามแดนที่ผิดกฎหมาย และนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพมาปรับใช้ให้สอดคล้องกับสถานการณ์และสภาพของพื้นที่ชายแดน อาทิการใช้โดรน หุ่นยนต์ลาดตระเวน กล้องวงจรปิดแบบตรวจจับความร้อน หรือการสร้างรั้วป้องกันชายแดนในพื้นที่เสี่ยง” รมช.กลาโหม กล่าว

รมช.กลาโหม กล่าวว่า สำหรับแนวทางแก้ไขประกอบด้วย 1.การใช้กลไกการจัดการชายแดนที่มีอยู่กับประเทศรอบบ้านเป็นเวทีในการหารือร่วมกันในการแก้ไขปัญหา โดยมีคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ซึ่งมีแม่ทัพภาค เป็นประธาน และคณะกรรมการชายแดนทั่วไป มีรมว.กลาโหม เป็นประธาน2.เพิ่มความเข้มข้นในการตรวจสอบสกัดกั้นการข้ามแดนอย่างผิดกฎหมาย การตั้งจุดตรวจและจุดสกัดทางบก มีการลาดตระเวนทั้งทางบกและทางน้ำโดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยง ที่เป็นท่าข้ามหรือช่องทางธรรมชาติ และติดตามตรวจสอบกลุ่มเป้าหมายหรือขบวนการลักลอบอย่างใกล้ชิด

พล.อ.ณัฐพล กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายเดินทางไปยังประเทศที่ 3 รัฐบาลมีแนวทางจัดการกับผู้หลบหนีเข้าเมือง ให้สอดคล้องกับบริบทด้านความมั่นคงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและหลักสิทธิมนุษยชนโดยมีมาตรการและป้องกันแก้ไข คือ 1.การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างเคร่งครัด 2. แสวงหาความร่วมมือ ระดับภูมิภาคและระดับประเทศ 3. บริหารจัดการของภาครัฐเช่นระบบบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวจำแนกประเภทแรงงานต่างด้าว และ4. สนับสนุนการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนเช่นส่งกลับประเทศต้นทาง หรือส่งไปยังถิ่นฐานประเทศที่3

“การแก้ไขปัญหาดังกล่าวรัฐบาลให้ความสำคัญกับหลักปฏิบัติมนุษยธรรมและพันธะกรณีระหว่างประเทศ ซึ่งผู้หลบหนีเข้าเมืองทุกกลุ่มจะได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกันภายใต้เงื่อนไขทางกายภาพศาสนาและวัฒนธรรมควบคู่กับกฎหมายที่เกี่ยวข้องรวมถึงพันธะกรณีระหว่างประเทศ โดยคำนึงถึงหลักความมั่นคงของรัฐความปลอดภัยและหลักมนุษย์ชยธรรม รวมถึงหลักการที่ไม่ผลักดันไปสู่อันตราย” พล.อ.ณัฐพล กล่าว

รมช.กลาโหม กล่าวต่อว่า มีการแบ่งแนวทาง3 กรณี 1.เป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ จะดำเนินการตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์พ.ศ. 2551 โดยมีกลไกส่งต่อระดับชาติ 2.ลักลอบเข้าไทยให้ถือเป็นผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมืองปี 2522 โดยไทยมีอำนาจในการดำเนินคดีตาม แต่รัฐบาลจะดูแลตามหลักมนุษยธรรมอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับวิถีชีวิต ซึ่งเด็กผู้หญิงจะได้รับการดูแลจากบ้านพักเด็กและครอบครัว และ3.อพยพทางทะเลไปประเทศอื่นโดยมีไทยเป็นทางผ่าน เจ้าหน้าที่จะมาบังคับใช้กฎหมายภายในและคำนึงถึงมนุษยธรรมควบคู่กัน และไทยได้ดำเนินการตามบันทึกความเข้าใจการกำหนดมาตรการและแนวทางการกักตัวเด็กไว้ในสถานที่กักตัวคนต่างด้าวเพื่อรอการส่งกลับอย่างเคร่งครัด และองค์การยูนิเซฟได้ทำขั้นตอนการช่วยเหลือแม่และเด็กโรฮิงญา ส่วนการแก้ไขปัญหากรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือผู้ที่มีหน้าที่ไปเกี่ยวข้องผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายบริเวณชายแดนนั้น รัฐบาลได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด

นายไชยยงค์ ถามเพิ่มเติมว่า เกี่ยวกับการกำหนดยุทธศาสตร์ของ สมช.เพื่อให้หน่วยงานนำไปปฏิบัติ เช่นยุทธศาสตร์ดับไฟใต้ ที่สถานการณ์คุกรุ่นมาเป็นเวลากว่า 20 ปี แต่ รมว.กลาโหม สั่งยกร่างยุทธศาสตร์การดับไฟใต้ใหม่ ทั้งนี้เห็นว่ากว่า 20 ปีที่ผ่านมา หากยุทธศาสตร์ถูกต้อง ไฟใต้ต้องดับไปนานแล้ว เช่นเดียวกันกับยุทธศาสตร์ปัญหาความมั่นคงในชายแดน เห็นว่ายิ่งมีหน่วยงานเข้ามาบูรณาการแก้ไขปัญหาแรงงานเถื่อนมากเท่าไหร่ แต่ปัญหาการลักลอบค้ามนุษย์กลับยิ่งเพิ่มขึ้น ดังนั้นเหตุใดรัฐบาลไม่หารือกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น มาเลเซีย เพื่อสกัดการลักลอบเข้าเมือง เพราะในพื้นที่ภาคใต้สถานการณ์แรงแรงงานเถื่อนยังเป็นไปโดยปกติและเพิ่มมากขึ้น

“ผมขอยกตัวอย่างให้ฟังรีสอร์ทในพื้นที่อำเภอแว้ง จ.นราธิวาส ที่ถูกตั้งขึ้น ไม่ได้ตั้งขึ้นเพื่อรับนักท่องเที่ยว แต่ตั้งขึ้นเพื่อจะให้แรงงานเถื่อนทั้งหมดไปนำพักก่อนที่จะเดินทางข้ามประเทศไปยังมาเลเซีย สิ่งเหล่านี้เห็นอยู่ทุกวัน แต่ไม่ได้รับการแก้ปัญหา ตั้งข้อสังเกตว่าเรื่องนี้เจ้าหน้าที่รัฐมีผลประโยชน์ทับซ้อนในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นหรือไม่” นายไชยยงค์ กล่าว

นายไชยยงค์ กล่าวต่อว่า ตนเห็นว่าการแก้ปัญหาความมั่นคงของรัฐมาจากการบูรณาการที่ไม่เป็นจริง และล้มเหลวเพราะจากการลงพื้นที่ของกมธ.ทหารฯ วุฒิสภา ติดตามปัญหาการบุกรุกด้านจ.แม่ฮ่องสอน ของว้าแดงที่ตั้งฐานทัพในชายแดนไทย สิ่งที่เราพบ พบว่าไม่มีถนนด้านความมั่นคง หรือถนนที่จะอำนวยความสะดวกในการทำให้เจ้าที่รัฐมีประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาและการปกปักรักษาอธิปไตยชายแดนไทย แม้กระทั่งฐานของทหารบางฐานยังต้องใช้ม้า ล่อ ในการส่งกำลังบำรุง

รมช.กลาโหม ชี้แจงว่า การเจรจาระหว่างประเทศได้มีการดำเนินการแล้ว เกี่ยวกับแรงงานในระบบ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นแรงงานนอกระบบ รัฐบาลก็พบว่าเป็นการสมประโยชน์ของผู้ประกอบการบางส่วน และผู้ลักลอบแรงงานเข้ามาในบางส่วน และกระบวนการลักลอบและเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนที่เอื้อประโยชน์ เพราะฉะนั้นทำให้รัฐบาลต้องมีการเร่งรัดการแก้ไขปัญหาต่อไป ส่วนเรื่องการทำถนนในบริเวณชายแดนไปยังฐานทัพ จะพยายามดำเนินการและให้กระทบต่อพื้นที่ป่าไม้น้อยที่สุด

-005

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ‘หมอจุฬา’นำทีมผู้ได้รับผลกระทบ‘วัคซีนโควิด’ร้องสภาฯตั้งทีมสอบ หลัง‘ผู้ป่วย’ตายเฉียบพลัน ‘หมอจุฬา’นำทีมผู้ได้รับผลกระทบ‘วัคซีนโควิด’ร้องสภาฯตั้งทีมสอบ หลัง‘ผู้ป่วย’ตายเฉียบพลัน
  • พิพาท‘ไทย-กัมพูชา’มีเบื้องหลัง? ‘เสธ.โหน่ง’ย้ำต้องแสดงอธิปไตยเหนือดินแดนให้มั่นคง พิพาท‘ไทย-กัมพูชา’มีเบื้องหลัง? ‘เสธ.โหน่ง’ย้ำต้องแสดงอธิปไตยเหนือดินแดนให้มั่นคง
  • \'วิโรจน์\'ลุยชายแดนสังขละบุรี ถกปัญหา\'ที่ดิน\'ระหว่าง\'กองทัพบก-ปชช.\' 'วิโรจน์'ลุยชายแดนสังขละบุรี ถกปัญหา'ที่ดิน'ระหว่าง'กองทัพบก-ปชช.'
  • ‘สว.พันธุ์ใหม่’รุมสับงบรีโนเวทสภาฯ ‘ตัวแม่นันทนา’ ซัดพิศวง ไร้ป้ายบอกทางต้องเชื่อมจิตหาเอง ‘สว.พันธุ์ใหม่’รุมสับงบรีโนเวทสภาฯ ‘ตัวแม่นันทนา’ ซัดพิศวง ไร้ป้ายบอกทางต้องเชื่อมจิตหาเอง
  • ดันสุดตัว!‘เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์’จ่อเข้าคิวแรกหลังเปิดสภา รัฐบาลพร้อมดีเบต ดันสุดตัว!‘เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์’จ่อเข้าคิวแรกหลังเปิดสภา รัฐบาลพร้อมดีเบต
  • ชำแหละงบรีโนเวตสภา! ‘ปชน.’คลี่แบบแฉยับ ฟาด‘ฝ่ายนิติบัญญัติ’ไม่ควรแปรงบเข้าตัวเอง ชำแหละงบรีโนเวตสภา! ‘ปชน.’คลี่แบบแฉยับ ฟาด‘ฝ่ายนิติบัญญัติ’ไม่ควรแปรงบเข้าตัวเอง
  •  

Breaking News

‘สส.เดียร์’ยังเชื่อมั่น! 'อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์'ไม่ใช่ผู้ทุจริต

'ภูมิธรรม'เชื่อทนายเตรียมใช้หลักฐานใหม่สมัยนั่ง'พณ.'ระบายข้าว ต่อสู้คดียิ่งลักษณ์

เปิดเหตุผล‘เสียงข้างน้อย’ศาลปค.สูงสุด เพิกถอนคำสั่งคลัง‘ยิ่งลักษณ์’ลอยตัว ไม่ต้องชดใช้เงิน

ยาไอซ์ทะลัก! ทหารเรือบึงกาฬสกัดยึด 344 กิโลพร้อมผู้ต้องหาคาด่านมูลค่า 344 ล้าน

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved