เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2568 ที่โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึง กรณีที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา มีนโยบายตัดเงินช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลของผู้อพยพในประเทศต่าง ๆ รวมถึงประเทศไทย ซึ่งส่งผลกระทบถึงค่ายของผู้อพยพตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา ว่า ได้มีการพูดคุยกับทางมาเลเซียในวันนี้ ถึงนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ ที่เป็นความท้าทายของอาเซียนในการนำเรื่องนี้ไปพิจารณาร่วมกัน ว่าจะรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในอาเซียนอย่างไร

เมื่อถามว่า ในส่วนของประเทศไทยจะแก้ไขปัญหาใน 9 ศูนย์อพยพตามแนวชายแดนไทยเมียนมาอย่างไร หลังถูกตัดงบด้านสาธารณสุขจากสหรัฐฯ อย่างน้อย 90 วัน นายภูมิธรรม กล่าวว่า สิ่งไหนที่เป็นเรื่องของการช่วยเหลือทางมนุษยธรรม ก็จะต้องมีการหารือกันเพื่อแก้ปัญหา

ที่กระทรวงมหาดไทย (มท.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา จะหยุดให้เงินช่วยเหลือโรงพยาบาลผู้ลี้ภัยตามแนวชายแดน ทางกระทรวงมหาดไทย จะมีการดูแลหน่วยพยาบาล เพื่อเตรียมการรับมือเรื่องนี้อย่างไร ว่า ตนเป็นรมว.สาธารณสุขเก่า และการให้ความช่วยเหลือของประเทศไทยอยู่ในลำดับ 5 ของโลก และเรื่องมนุษยธรรมก็ไม่มีใครใส่ใจดีเท่ากับประเทศไทย ในการดูแลผู้ที่ตกทุกข์ได้ยาก ทาง สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) มีงบประมาณที่ตั้งเอาไว้ในกรณีที่คนที่ไม่ใช่คนไทยแล้วประสบสภาวะบ้านแตกสาแหรกขาด สภาวะที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และไม่มีทางเลือกอื่น เราก็ให้การดูแลอย่างเต็มที่ สหรัฐอเมริกาจะประกาศอะไรก็เป็นเรื่องของนโยบายเขา แต่ถ้าระบบสาธารณสุขไทยจะไม่มีการปล่อยให้ใครต้องมาเสียชีวิตในประเทศของเรา โดยที่เราสามารถช่วยเหลือเขาได้ ยืนยันว่าสิ่งเหล่านี้ไม่เคยเกิดขึ้นในประเทศของเรา

เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ ว่าผู้ลี้ภัยสงครามจะทะลักเข้ามายังประเทศไทย จนทำให้การดูแลคนไทยในประเทศเสียสมดุล นายอนุทิน กล่าวว่า เรามีการซีลป้องกันชายแดนไว้อยู่แล้ว มีเข้า และออกไปก็เยอะ แล้วคนที่เข้ามาก็ไม่ใช่แค่มีสงครามเท่านั้น ถ้าเขามาหลบระเบิด หรือความรุนแรง เราก็จะขีดเส้นว่าเขาสามารถอยู่ได้ในบริเวณที่กำหนด และสถานการณ์เปิดความปลอดภัยก็จะส่งตัวกลับประเทศไป