วันศุกร์ ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
เทียบ 5 ข้อ‘ตัดไฟ’แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้คุ้มเสียหรือไม่?

เทียบ 5 ข้อ‘ตัดไฟ’แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้คุ้มเสียหรือไม่?

วันศุกร์ ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568, 07.58 น.
Tag : แนวหน้าออนไลน์ ตัดไฟเมียนมา แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตัดไฟ เทพไท
  •  

เทียบ 5 ข้อ‘ตัดไฟ’แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้คุ้มเสียหรือไม่?

7 กุมภาพันธ์ 2568 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์คลิปพร้อมเนื้อหาบนเฟซบุ๊ก “เทพไท – คุยการเมือง” หัวข้อ “ตัดไฟพม่า:ได้-คุ้มเสียหรือไม่?” ระบุว่า...


ตัดไฟพม่า : ได้-คุ้มเสียหรือไม่?

หลังจากรัฐบาลมีมาตรการตัดไฟฟ้าที่ส่งไปยังประเทศเมียนมา ทำให้หลายฝ่ายเฝ้ามองว่าจะประสบความสำเร็จในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้หรือไม่ แม้แต่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ลงพื้นที่ไปดูสถานการณ์ด้วยตนเอง

ผมในฐานะผู้สังเกตการณ์ทางการเมือง ได้เฝ้าดูผลที่เกิดขึ้นหลังจากการตัดไฟส่งไปประเทศเมียนมา แล้ว เห็นว่ามีผลอยู่บ้าง แต่ยังไม่เห็นผลที่ชัดเจน จึงเห็นว่ามาตรการตัดไฟของรัฐบาลครั้งนี้ แม้จะมีประโยชน์บ้าง แต่เมื่อชั่งน้ำหนักแล้ว น่าจะเกิดผลเสียมากกว่า ซึ่งพอจะแยกผลได้กับผลเสีย คือ

สำหรับผลได้ มีอยู่ 5 ข้อ ดังนี้

1.ได้ภาพทางการเมือง ว่ารัฐบาลเอาจริงเอาจังกับการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์

2.ได้ภาพความร่วมมือกับรัฐจีน ที่ส่งระดับผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ มาปักหลักบัญชาการอยู่ที่เมืองไทยหลายวัน ไปดูสถานการณ์ชายแดนที่แม่สอดด้วย

3.ได้ผลทางจิตวิทยา ทำให้ผู้ถูกคุกคามจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มีความสบายใจขึ้น ไม่ต้องหวาดระแวงกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์อีก

4.ได้มีประเด็นให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นำไปคุยกับรัฐบาลจีน ระหว่างการเดินทางเยือนประเทศจีน

5.ได้รับคำชมจากนายสี จิ้นผิง และได้กล่าวขอบคุณรัฐบาลไทย ที่ตัดไฟเพื่อตัดวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์

ส่วนผลเสียที่ได้รับ มีอยู่ 5 ข้อ ดังนี้

1.เกิดความเสียหายทางธุรกิจ และเศรษฐกิจการค้าชายแดน ระหว่างไทยกับเมียนมา

2.ทำให้ประชาชนผู้ไม่มีส่วนได้เสีย หรือเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้รับความเดือดร้อนในการใช้ชีวิตประจำวัน บ้านอยู่อาศัยไม่มีไฟฟ้าใช้

3.หน่วยงานราชการของเมียนมา และโรงพยาบาล มีผลกระทบต่อผู้ป่วย ห้องผ่าตัด ห้องICU

4.รัฐบาลสูญเสียรายได้ปีละ 600 ล้านบาท ตามข้อมูลของนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

5.รัฐบาลเสี่ยงถูกบริษัทเอกชน ซึ่งเป็นคู่สัญญา และเป็นบุคคลภายนอก ไม่ได้ทำผิดสัญญา เมื่อถูกตัดกระแสไฟฟ้าย่อมกระทบต่อธุรกิจ ซึ่งอาจจะมีการฟ้องร้องเรียกค่าโง่จากรัฐบาลได้

ถ้าถามว่าการที่รัฐบาลมีมาตรการตัดไฟครั้งนี้ มีผลต่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือไม่ ก็ต้องยอมรับความจริงว่า มีผลบ้าง แต่ไม่มากนัก

เมื่อชั่งน้ำหนักระหว่างผลได้กับผลเสียแล้ว น่าจะมีผลเสียมากกว่าผลได้ ซึ่งรัฐบาลจะต้องตัดสินใจว่า การแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์จากการตัดไฟฟ้าจะหมดไปจริงหรือไม่

ตอนนี้หลังจากตัดไฟไปแล้ว 2 วัน ยังมีแก๊งคอลเซ็นเตอร์อาละวาดอยู่ แม้แต่ผมก็ยังมีแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรเข้ามาอยู่เหมือนเดิม ไม่ได้เปลี่ยนแปลงใดๆเลย

การตัดไฟน่าจะเป็นการแก้ปัญหาไม่ถูกจุด หรือที่เรียกว่าเกาไม่ถูกที่คัน เพราะต้นเหตุที่แท้จริง น่าจะมาจากการใช้อินเตอร์เน็ตสัญญาณโทรศัพท์ ที่โทรมาหลอกเหยื่อ จึงควรจะตัดสัญญาณโทรศัพท์ ก่อนที่จะตัดกระแสไฟฟ้า

ดังนั้นรัฐบาลควรจะใช้มาตรการอื่นเพิ่มเติม ในการแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ให้ได้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดมากกว่านี้ การแก้ปัญหาควรโฟกัสไปยังแก๊งคอลเซ็นเตอร์โดยตรง เพื่อไม่ให้กระทบกับความเดือดร้อนของประชาชน และสร้างความเสียหายทางด้านเศรษฐกิจ

ฝากไว้ให้คิดครับ

-005

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'อนุสรณ์\'แนะเปิดใจรับฟังเหตุผลงบรีโนเวตสภาฯ ไม่ใช่ตัดสินไปก่อน 'อนุสรณ์'แนะเปิดใจรับฟังเหตุผลงบรีโนเวตสภาฯ ไม่ใช่ตัดสินไปก่อน
  • \'ทวี\'เผย\'กกต.\'ประสาน\'ดีเอสไอ\'แปะหมายเรียกหน้าบ้าน 6 สว. คดีฮั้ว 'ทวี'เผย'กกต.'ประสาน'ดีเอสไอ'แปะหมายเรียกหน้าบ้าน 6 สว. คดีฮั้ว
  • \'ดร.เสรี\' ถาม \'รมว.สธ.\'ตัดสินใจอย่างไร จะยึดความถูกต้องหรือจะยึดการรับใช้? 'ดร.เสรี' ถาม 'รมว.สธ.'ตัดสินใจอย่างไร จะยึดความถูกต้องหรือจะยึดการรับใช้?
  • \'ไพศาล\'ปูด!!! จับตา\'แก๊งไสยศาสตร์\' ส่งมือวางระดับบิ๊กยึด\'สถาบันพระปกเกล้า\' 'ไพศาล'ปูด!!! จับตา'แก๊งไสยศาสตร์' ส่งมือวางระดับบิ๊กยึด'สถาบันพระปกเกล้า'
  • เช็กเลยพื้นที่ไหนบ้าง!! ปลดล็อกวันนี้ขาย‘เหล้า-เบียร์’ 5 วันพระใหญ่ หนุนปีเที่ยวไทย เช็กเลยพื้นที่ไหนบ้าง!! ปลดล็อกวันนี้ขาย‘เหล้า-เบียร์’ 5 วันพระใหญ่ หนุนปีเที่ยวไทย
  • ปูด\'ครูแพทย์\'หลายคน เสียน้ำตากลางที่ประชุม\'แพทยสภา\' เหตุหมอรุ่นลูกศิษย์จบมาใหม่ๆ ทำผิดพลาด ปูด'ครูแพทย์'หลายคน เสียน้ำตากลางที่ประชุม'แพทยสภา' เหตุหมอรุ่นลูกศิษย์จบมาใหม่ๆ ทำผิดพลาด
  •  

Breaking News

แอดมิทด่วน! 'เอ๊ะ จิรากร'เล่าประสบการณ์หัวใจเต้นผิดปกติ

'อนุสรณ์'แนะเปิดใจรับฟังเหตุผลงบรีโนเวตสภาฯ ไม่ใช่ตัดสินไปก่อน

สองผัวเมียอารมณ์ดี! ‘ขายหอยครก 6 ราง’ ทำขายแทบไม่ทัน-ลูกค้าเพียบ

ป่วนใต้หลายจุด! จุดไฟเผากล้อง-แขวนป้าย-วางวัตถุต้องสงสัย 3 อำเภอในยะลา

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved