เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์! ‘ทักษิณ’ขายฝันพี่น้อง 3 จชต. คุยคืนสันติสุขสัญญาณดี

เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์! ‘ทักษิณ’ขายฝันพี่น้อง 3 จชต. คุยคืนสันติสุขสัญญาณดี

วันอาทิตย์ ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568, 17.14 น.

'ทักษิณ' วาดฝันเห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์ ‘สันติภาพชายแดนใต้’ หลายประเทศพร้อมร่วมมือ เชื่อภายในปีนี้สัญญานดี ปีหน้าน่าจะจบ ถ่อมตัวไม่ขออยู่ในคณะพูดคุยฯ ขอแค่ให้คำแนะนำ ลั่น ‘แก่แล้ว’

วันที่23กุมพาพันธ์2568 เมื่อเวลา 13.00 น. ที่โรงเรียนสัมพันธ์วิทยา อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่ปรึกษาประธานอาเซียน ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในครั้งนี้ ว่า มีความตั้งใจที่อยากเห็นสันติสุขเกิดขึ้น ซึ่งจากบทบาทที่ปรึกษาประธานอาเซียน นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ตนอยากเห็นความร่วมมือในพื้นที่และความร่วมมือประเทศเพื่อนบ้านเป็นหัวใจสำคัญ ในการคืนสันติสุขให้กับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้  ซึ่งในพื้นที่เราต้องมีการพูดคุยกันให้เข้าใจ ตนได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากผู้นำประเทศเพื่อนบ้านทั้งหลาย ก็ได้มีการพูดคุยกันอย่างต่อเนื่อง ทุกคนอยากเห็นประเทศไทยและอยากเห็นอาเซียนเป็นที่มีความสงบสุข ทุกคนร่วมมือกันหมด ตนมีความรู้สึกว่าเป็นการร่วมมือที่ไม่เคยได้รับมาก่อนเหมือนครั้งนี้ เชื่อมั่นว่าเราน่าจะแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ดีกว่าจากความร่วมมือทั้งในประเทศและต่างประเทศ


เมื่อถามว่าเรื่องที่จะนำไปหารือกับในประเทศอาเซียนนั้นมีเรื่องใดบ้าง  นายทักษิณ กล่าวว่า ส่วนใหญ่คือเรื่องของการที่บุคคล 2 สัญชาติ ซึ่งไม่ผิดอะไรเป็นการข้ามไปข้ามมา เพื่อทำมาหากิน และไปเยี่ยมเยียนกัน แต่การข้ามไปข้ามมาในเชิงของ เพื่อก่อการร้ายในประเทศได้แล้วไปหลบซ่อนนั้นเราได้รับการร่วมมือเป็นอย่างดี

เมื่อถามถึงเรื่องของการนิรโทษกรรม นายทักษิณ กล่าวว่า เราต้องคุยกันก่อน หากเราคุยกันจบแล้วทุกสิ่งทุกอย่างสามารถปรับได้หมดว่าเราจะทำอย่างไรถึงจะให้คนที่มีความผิดไปแล้วและสำนึกผิดได้กลับมาประเทศไทยอย่างเดิม แต่ก็ต้องมีการพูดคุยกันอยู่อีกหลายขั้นตอนอยู่

เมื่อถามต่อว่ามองอย่างไรกับการที่รัฐบาลมีการทบทวนที่จะใช้นโยบาย 66/2523 นายทักษิณ กล่าวว่า เป็นแนวที่เคยใช้สมัยก่อนก็ได้ผลดี แต่วันนี้อาจจะมีการพูดคุยกันในหลายๆ ฝ่ายแล้วก็ปรับให้เป็นไปได้ทุกอย่างเป็นไปได้

เมื่อถามอีกว่าหลังจากไม่ได้ลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มานานมีเป้าหมายอย่างไร นายทักษิณ กล่าวว่า 20 กว่าปีก็อยากจะกลับมาเห็นว่าความรู้สึกของคนที่นี่เป็นอย่างไรทัศนคติที่จะเห็นความปรองดองสันติสุขเกิดขึ้นจะเป็นอย่างไร วันนี้เท่าที่ดูแล้วมันฟูขึ้นเยอะ ยิ่งตนไปประสานงานกับต่างประเทศด้วยมั่นใจว่ามันเป็นสิ่งที่หาข้อยุติได้ และรู้สึกดีใจเหมือนเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์

เมื่อถามด้วยว่า พี่น้อง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มองว่านายทักษิณเป็นแสงสว่างสุดท้าย และต้องรออีกนานแค่ไหน นายทักษิณ กล่าวว่า ไม่ต้องรอ ภายในปีนี้มันจะเห็นสัญลักษณ์ที่ดีขึ้นเยอะ และปีหน้าน่าจะจบ

นายทักษิณ กล่าวอีกว่า การเดินทางมาครั้งนี้ตนมาใน 3 บทบาท ทั้งเป็นที่ปรึกษาประธานอาเซียน อดีตนายกรัฐมนตรี และผู้สนับสนุนรัฐบาลเพื่อไทยที่มีลูกสาวเป็นนายกรัฐมนตรี ตนมีความรู้สึกว่ายังทำงานไม่จบ ก็อยากจะเห็นสันติสุขใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อยากจะเห็นตรงนี้ให้จบ โดยการเอาประสบการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสมัยก่อนที่เคยทำไปมาแชร์กันว่าเราควรปรับอย่างไร เพราะวันนี้ทัศนคติของคนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เบาลงเยอะ เข้าใจขึ้นเยอะ

เมื่อถามย้ำว่าหลังจากนี้จะเห็นความชัดเจนในการตั้งคณะพูดคุยหรือการเดินหน้าต่อในการดำเนินการคืนสันติสุขให้กับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นายทักษิณ กล่าวว่า ภายในปีนี้ทุกอย่างคงเห็นได้ชัดขึ้นเพราะอดีตรองประธานาธิบดีของประเทศอินโดนีเซีย นายยูซูฟ คัลลา ก็อาสามาช่วย และมีคนอาสาเข้ามาช่วยจากหลายๆ ที่ด้วย

เมื่อถามต่อว่าส่วนตัวจะมีการเข้าพูดคุยด้วยตนเองหรือไม่นั้น นายทักษิณ กล่าวว่า แน่นอน ตนจะพยายามอยู่ห่างๆ และให้คำแนะนำ แต่ว่าเจ้าหน้าที่เขาก็ต้องทำงานของเขาโดยตรง

เมื่อถามว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ว่าตัวเองจะเข้าไปอยู่ในคณะการพูดคุย นายทักษิณ กล่าวว่า “ไม่ครับ ผมแก่แล้ว” ส่วนจะมีการถอนกำลังทหารออกหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า เราอย่าเพิ่งพูดไปไกล หลังจากวันนี้ที่มีการพูดคุยกันอะไรที่จำเป็นก็อยู่ต่อไป อะไรไม่จำเป็นก็ไม่ควรอยู่

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top