‘วิโรจน์’อย่างเซ็งรัฐสภาตีตก‘ร่างกฎหมายป.ป.ช.’ อัด‘เพื่อไทย’ไม่อายตัวเอง ลืมบุญคุณ‘คนเสื้อแดง’ไปหมดแล้วหรือ

17 มีนาคม 2568 ที่รัฐสภา นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การทหาร สภาผู้แทนราษฎร และนายเอกราช อุดมอำนวย สส.กทม. พรรคประชาชน ในฐานะเลขานุการ กมธ. ร่วมแถลงภายหลังที่ประชุมรัฐสภา มีมติตีตกร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่. ...พ.ศ. ...) ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว ในการโอนคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ของทหารไปศาลคดีทุจริต

นายเอกราช กล่าวว่า สะท้อนว่า เรื่องนี้คือเรื่องทางการเมือง รัฐบาลถูกค้ำยันโดยทหาร และรัฐบาลนี้ไม่กล้าปฏิรูปกองทัพแม้แต่นิดเดียว เรียกร้องว่า หากรัฐบาลมีความจริงใจ และเพื่อนสมาชิกฝ่ายรัฐบาลมีความต้องการเห็นการปฏิรูปกองทัพ อยากให้เริ่มนับหนึ่ง ร่างนี้ไม่เป็นไร ยังเหล่าอีก 2 ร่างในวาระการประชุม อยากให้พิจารณาผ่านไปด้วยกัน และแม้ว่าร่างของ ครม.จะไม่มีประเด็นที่เราแก้ไขเลย แต่หวังว่า สส.จะดำรงไว้ซึ่งอำนาจนิติบัญญัติที่ยืนยันว่า ทหารต้องกลับเข้ากรมกอง คดีทุจริตต้องขึ้นศาลพลเรือน ไม่ใช่ศาลทหาร

ด้านนายวิโรจน์ กล่าวว่า เท่าที่ได้สอบถามท่าทีใน กมธ. ดูเหมือนจะไม่มีปัญหา คิดว่าคงไม่ต้องคุยกันเยอะ เพราะถ้าพรรคเพื่อไทยยังมีความเป็นคนเสื้อแดงอยู่ในหัวใจ จะรู้ถึงความอยุติธรรมของศาลทหารอยู่แล้ว เราไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์วันนี้ขึ้น

“ไม่มีเหตุการณ์ไหนจะชี้ชัดเท่ากับเหตุการณ์วันนี้แล้วว่า พรรคเพื่อไทยไม่มีความจริงใจที่จะเปลี่ยนผ่านให้บ้านเมืองกลับสู่ระบอบประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์ หลุดจากเงื้อมมือลายพราง ยังคงหงอกับอำนาจมืดลายพรางที่อยู่เบื้องหลัง แล้วถ้าเกิดจะกล่าวหากันแบบไม่เกินไปคือ มีดีลอะไรบางอย่างที่คุณต้องสยบยอมกับอำนาจลายพราง เพื่อให้พ่อของแพทองธาร ชินวัตร อาจจะพ่วงถึงอา ได้กลับบ้านมาเสวยสุข” นายวิโรจน์ กล่าว

นายวิโจน์ กล่าวต่อว่า ทำไมต้องสร้างสภาวะรัฐซ้อนรัฐ สร้างระบบยุติธรรม เพื่อค้ำยันตัวเอง ทำไปเพื่ออะไร พรรคเพื่อไทยยอมได้หรือ พร้อมถามไปยังนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธาน กมธ.พิจารณาร่างนี้ ว่า “มีหน้าไปตอบไปอธิบายคนเสื้อแดงหรือ หากย้อนดูเทปการอภิปราย คุณไม่อายตัวเองหรือ บอกว่าต้องค่อยๆ ทำ นี่แหละ คือการค่อยๆ ทำ เริ่มต้นจาก พ.ร.บ.ป.ป.ช. เริ่มต้นจากคดีทุจริต เราเห็นไม่ตรงกันหรือ ผมไม่รู้ว่าพรรคเพื่อไทยกินอะไรเข้าไป ไปกินตัวไหนมา ผมไม่รู้ เกิดอะไรขึ้นกับเขา”

นายวิโรจน์ กล่าวอีกว่า ส่วนการชี้แจงของผู้อภิปรายบางคน ที่ระบุอาจขัดกับรัฐธรรมนูญนั้น รัฐธรรมนูญอนุญาตไว้แล้วในท่อนสุดท้าย นี่จึงเป็นร่องรอยความหวาดกลัว หากในอนาคตทหารกระทำการย่ำยีประชาชน กระทำการคดโกงต่อประเทศชาติบ้านเมือง ทุจริตคอร์รัปชั่น คุณกลัวที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแบบตรงไปตรงมาโดยศาลอาญาคดีทุจริต ไม่มีคำตอบเป็นอย่างอื่น โดยที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นนั่งร้านให้กับอำนาจลายพรางเหล่านั้น

“ลืมความเสียสละ ลืมการต่อสู้ ลืมผนังทองแดงกำแพงเหล็ก ของประชาชนคนเสื้อแดงไปหมดสิ้นแล้ว วันนี้ยิ่งกว่าตระบัดสัตย์ คือไม่รู้คุณคน เนรคุณเสื้อแดง ไปถามแกนนำด้วยว่า คนเสื้อแดงรู้สึกอย่างไร กับการตัดสินใจของพรรคเพื่อไทยในวันนี้ ไม่รู้บุญคุณข้าวแดงแกงร้อนของคนเสื้อแดง เสียข้าวสุกที่คนเสื้อแดงเอามาป้อน อดสูที่สุด ผมต้องการคำตอบจากนายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ จากนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว จาก สส.ที่เคยต่อสู้กับคนเสื้อแดง ว่าวันนี้คุณไม่รู้สึกสมเพช และอดสูตัวเองหรือ น่าผิดหวังมาก คงไม่มีอะไรที่แย่ไปกว่าวันนี้อีกแล้ว” นายวิโรจน์ กล่าว

-005