'สภาวัฒนธรรมฯ' ยื่น 'วันนอร์' ค้าน 'กาสิโน' เรียกร้อง 'รัฐบาล-สส.' ถอน 'ร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์' ให้ความสำคัญความอยู่ดีมีสุข ปชช.ระยะยาว มากกว่า ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจระยะสั้น

เมื่อวันที่ 8 เมษายน  ที่รัฐสภา สภาวัฒนธรรมแห่งประเทศไทย  นำโดย  นายประยงค์  แก่นลา รองประธานสภาวัฒนธรรมแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย ภาคีเครือข่ายสภาวัฒนธรรมทั่วประเทศ รวมเข้ายื่นหนังสือต่อนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อคัดค้านร่างพระราชบัญญัติ การประกอบสถานบันเทิงครบวงจร หรือ เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ที่มีกาสิโนเป็นส่วนประกอบ ซึ่งจะเข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 9 เมษายนนี้  โดยมีนายเจษ อนุกูลโภคารัตน์ ผู้บังคับบัญชากลุ่มงานประสานการเมืองและรับเรื่องราวร้องทุกข์ สำนักงานประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นตัวแทนรับยื่นหนังสือนายประยงค์ กล่าวว่า สภาวัฒนธรรมฯ มีมติร่วมกันคัดค้านร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว ตามแถลงการณ์ ดังนี้ ตามที่รัฐบาลกำลังผลักดันร่างพระราชบัญญัติ เพื่อให้มีการจัดตั้งเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ซึ่งมีการอนุญาตให้มีการตั้งบ่อนกาสิโนในสัดส่วนร้อยละ 10 โดยให้เหตุผลว่า จะเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวเป็นแหล่งรายได้ใหม่ของประเทศนั้น

นายประยงค์ กล่าวต่อว่า สภาวัฒนธรรมฯ ซึ่งมีหน้าที่ดูแลอนุรักษ์ และส่งเสริมคุณค่าทางศิลปวัฒนธรรม คุณธรรม และจริยธรรรมของสังคม ขอแสดงจุดยืนคัดค้านร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวอย่างชัดเจน ด้วยเหตุผลต่อไปนี้     1.ผลกระทบต่อคุณธรรมและจริยธรรมของสังคม การอนุญาตให้เปิดบ่อนกาสิโนอย่างถูกกฎหมาย จะส่งเสริมวัฒนธรรมการเสี่ยงโชค ซึ่งขัดต่อหลักศีลธรรม  ของสังคมไทย และจะส่งผลให้พฤติกรรมการพนันแพร่กระจายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชน ซึ่งเป็นทรัพยากรที่สำคัญของชาติ

2.การเพิ่มขึ้นของปัญหาสังคมและอาชญากรรม ประสบการณ์จากหลายประเทศพบว่า เมื่อเปิดบ่อนกาสิโนอย่างเสรี มักเกิดปัญหาหนี้สิน การฟอกเงิน การทุจริต และอาชญากรรมที่เกี่ยวเนื่องตามมา รวมถึงปัญหาความรุนแรง และความขัดแย้งภายในครอบครัวที่เพิ่มขึ้น

3.ผลกระทบต่อเยาวชนและโครงสร้างครอบครัว การติดการพนันส่งผลร้ายต่อการเลี้ยงดูเยาวชน ทำให้ครอบครัวขาดเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและอารมณ์ เยาวชนอาจกลายเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อพฤติกรรมไม่เหมาะสม และอาชญากรรม

4.การบิดเบือนโครงสร้างเศรษฐกิจ แม้ในระยะสั้นอาจสร้างรายได้ แต่ในระยะยาวจะส่งผลเสียต่อประชาชนรายได้น้อยและปานกลาง ซึ่งมักตกเป็นเหยื่อของพฤติกรรมเสพติดการพนัน ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำที่รุนแรงขึ้น

5.การพนันเป็นบ่อเกิดของความหายนะ ทุกศาสนาสอนให้หลีกเลี่ยงการพนัน เพราะถือเป็นอบายมุข เป็นสิ่งที่ขัดต่อศีลธรรมและวัฒนธรรมอันดีงามของสังคม ดังคำกล่าวที่ว่า "ไฟไหม้สิบครั้ง ไม่เท่าติดการพนันครั้งเดียว" การเปิดกาสิโนจึงเป็นการกระทำที่สวนทางกับหลักคำสอนของทุกศาสนา

6.ผลกระทบต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิต การติดการพนันอาจส่งผลให้เกิดความเครียด วิตกกังวล นำไปสู่โรคซึมเศร้า หรือพฤติกรรมรุนแรง  นอกจากนี้ สภาพแวดล้อมของสถานบันเทิงแบบกาสิโนมักไม่ส่งเสริมสุขลักษณะที่ดี และอาจก่อให้เกิดพฤติกรรมเสพติดอื่นๆ ร่วมด้วย

“ด้วยเหตุผลข้างต้น สภาวัฒนธรรมฯ จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาล และ สส.พิจารณาถอนร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว และหันมาให้ความสำคัญกับการส่งเสริมศีลธรรม วัฒนธรรม และความอยู่ดีมีสุขของประชาชนในระยะยาว มากกว่าผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจในระยะสั้น ”นายประยงค์ กล่าว

014