บินถกภาษีสหรัฐไม่เกินสงกรานต์นี้
‘จุลพันธ์’โวแหลก
คุยไม่หมดหวังจีดีพีโต3%
กต.ยืนยันมีบทบาทสำคัญ
ช่วยประสานเจรจามะกัน
‘อิ๊งค์’เชื่อมั่นทีมไทยแลนด์
นายกฯมั่นใจทีมไทยแลนด์ เจรจาภาษีสหรัฐฯ ด้านรมว.กต.เผย รอกำหนดวันเจรจา ยืนยัน ก.การต่างประเทศ มีบทบาทสำคัญประสานหน่วยงานสหรัฐฯเปิดเจรจาให้สำเร็จ ย้ำรัฐบาลไม่นิ่งนอนใจ ขณะที่“จุลพันธ์”คาด ไม่เกินสงกรานต์นี้ เห็นไทยลัดฟ้าเจรจาสหรัฐแน่ ชี้ไม่หมดหวังเห็นจีดีพีโต3% หอค้าไทยจี้รัฐตั้งทีมไทยแลนด์ แก้ปัญหาภาษีค้าโลก ผู้ส่งออกกังวลสินค้าซื้อล่วงหน้า ใครจะจ่ายภาษี36% ชี้ส่งออกไทยเสียโอกาส ห่วงสินค้าล้นสตอกจากการชะลอสั่งซื้อ
เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2568 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงมาตรการรับมือกับนโยบายกำแพงภาษีสหรัฐอเมริกา มั่นใจว่าทีมไทยแลนด์จะดำเนินการได้ใช่หรือไม่ ว่า ก็เต็มที่ เพราะมีหลายๆ เรื่องที่ต้องเคลียร์และพูดคุยกัน เพราะอยู่ตรงนี้ต้องประสานความเข้าใจ และดันเรื่องให้เกิดขึ้น ซึ่งทุกเรื่องก็ผลักดันไปข้างหน้าอย่างเต็มที่ เมื่อถามว่า ได้นัดหมายวันเวลาแล้วหรือยัง นายกฯ ไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าว พร้อมกล่าวว่า ขออนุญาตดูก่อนเพราะตอนนี้เราอยู่ที่ ททท.ไม่มีใครถามเรื่องท่องเที่ยวเลย
ด้าน นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ ย้ำถึงการเตรียมพร้อมรับมือมาตรการกำแพงภาษีของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา หรือtariff ว่า กระทรวงการต่างประเทศ มีบทบาทในกระบวนการเจรจาตั้งแต่ต้น ก่อนที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะประกาศมาตรการทางภาษี เนื่องจากมาตรการดังกล่าวได้ส่งผลกระทบไปทั่วโลก ดังนั้นจึงให้คำยืนยันได้ว่า รัฐบาลและนายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก ส่วนบทบาทของกระทรวงการต่างประเทศนั้น นายมาริษ ชี้แจงว่า ได้มอบหมายให้ นางใจไทย อุปการนิติเกษตร รักษาการอธิบดีกรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้ ร่วมคณะทำงานของรัฐบาล ที่มี นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน ในการเจรจากับสหรัฐฯพร้อมย้ำว่า รัฐบาลมีการเตรียมพร้อม สำหรับมาตรการรับมือต่างๆรวมถึงการคาดการณ์ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นไว้ก่อนแล้ว
นายมาริษ ยังเปิดเผยว่า กระทรวงการต่างประเทศ ยังมี นายสุริยา จินดาวงษ์ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.ซึ่งเป็นทีมเจรจาและมีบทบาทสำคัญในการประสานและสนับสนุนการเจรจาของรัฐบาลไทยกับสหรัฐฯซึ่งเอกอัครราชทูตไทย มีบทบาทในการดำเนินความสัมพันธ์ในทุกมิติกับสหรัฐฯ ไม่เพียงเรื่องการค้า แต่ยังมีเรื่องของความมั่นคงและการทหาร ที่กระทรวงการต่างประเทศให้ความสำคัญอย่างมาก ซึ่งไทยและสหรัฐฯมีความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกันและมีการพูดคุย รวมถึงเข้าไปโน้มน้าวเจรจาหน่วยงานต่างๆของสหรัฐฯที่มีส่วนเกี่ยวข้องในทุกมิติ บทบาทของกระทรวงการต่างประเทศในการเจรจาเรื่องนี้ จึงไม่ใช่อยู่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังอยู่ในสหรัฐฯด้วย เพราะมาตรการภาษีของสหรัฐฯส่งผลกระทบต่อทุกประเทศทั่วโลก กระทบต่อการค้าและผู้ประกอบการในวงกว้าง
ส่วนมาตรการของไทยที่เตรียมไว้นั้น นายมาริษ ระบุว่า เป็นท่าทีที่สำคัญของรัฐบาล ที่จะใช้ในการต่อรองกับสหรัฐฯดังนั้นจึงไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะแต่ละประเทศ ได้รับผลกระทบแตกต่างกัน ด้วยเหตุนี้ ท่าทีและการเจรจาต่อรองจึงแตกต่างกัน แต่ย้ำว่า นายกฯให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ โดยจะเจรจาต่อรองเพื่อผลประโยชน์ของประเทศให้ได้มากที่สุด ต้นปีที่ผ่านมานายกฯได้ตั้งทีมงานของรัฐบาล เพื่อเตรียมรับมือกับมาตรการดังกล่าว โดยสามารถคาดการณ์แนวโน้มได้ล่วงหน้า ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศ ได้มอบหมายให้รักษาการอธิบดีกรมอเมริกาอยู่ในคณะทำงานดังกล่าวของรัฐบาลในการเตรียมความพร้อมอย่างใกล้ชิด เชื่อว่าประเทศไทยมีความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ ที่ยาวนานและแน่นแฟ้น โดยเฉพาะในด้านความมั่นคงและการทหาร และยังมีความตกลงระหว่างกันมากมาย เช่น สนธิสัญญาไมตรีและพาณิชย์ ที่เป็นรากฐานของความร่วมมือและความสัมพันธ์ จึงมั่นใจว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการเจรจา
ขณะที่ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า กรณีไทยถูกสหรัฐประกาศเก็บภาษีสินค้านำเข้าเพิ่มขึ้นถึง36%นั้น ขณะนี้รัฐบาลได้เตรียมคณะทำงานและเตรียมตัวเดินทางไปเจรจาร่วมกับผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) แล้ว โดยมี นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เป็นหัวหน้าทีมจะนำคณะเดินทางไป ซึ่งเบื้องต้นคาดว่า น่าจะเข้าไปหารือเร็วที่สุด ไม่เกินหลังสงกรานต์นี้ โดยคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจไทย การขึ้นภาษีสหรัฐมีผลกระทบแน่นอน แต่จะโตเพียง1%เหมือนที่สำนักงานด้านเศรษฐกิจมองหรือไม่ ยังตอบไม่ได้ เนื่องจากยังมีกระบวนการเจรจาที่ต้องรอผลอยู่ หากรัฐบาลไม่ทำอะไรเลยอาจเป็นอย่างที่มองกัน แต่เราไม่ได้หยุดนิ่ง จึงยังหวังเห็นจีดีพีโตถึง3%ได้
นายจุลพันธ์ กล่าวอีกว่า กลไกการเจรจาในรูปแบบนี้ จะคุยกันเรื่องอะไรบ้างต้องบอกว่าไม่สามารถตอบได้จริงๆ เพราะบางเรื่องถือเป็นอาวุธของไทย การเจรจาร่วมกันคงไม่ได้เทหมดหน้าตักในครั้งแรก ต้องดูว่าอะไรเป็นสิ่งที่เราต้องปกป้อง หลักคิดของสูตรการคำนวณพูดง่ายๆ คือ ประเทศคุณค้าขายกับผมเล็กน้อยเท่านั้น แต่ทำไมถึงเกินดุลการค้าได้เยอะขนาดนั้น วิธีการแก้ตามหลักคิด ได้แก่ 1.การนำเข้าเพิ่มขึ้น 2.การส่งออกให้มากขึ้นและ3.การเพิ่มปริมาณการค้ามากขึ้น โดยการส่งออกเราลดไม่ได้อยู่แล้ว เพราะเป็นเครื่องยนต์กลไกหลักในการสร้างรายได้ให้ไทย ต้องใช้วิธีเพิ่มปริมาณการค้าและการนำเข้าจากสหรัฐให้มากขึ้นแทน โดยต้องพิจารณาว่าแต่ละเซกเตอร์มีสินค้าใดที่ไทยนำเข้ามาจำเป็นต้องใช้อยู่แล้ว สามารถเปลี่ยนต้นทางจากประเทศอื่นเป็นสหรัฐฯแทนได้บ้าง ส่วนนี้จะเพิ่มปริมาณนำเข้าจากสหรัฐมากขึ้น
นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยว่า การขึ้นภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯส่งผลให้กลุ่มผู้ส่งออกไทย กังวลมากโดยเฉพาะสินค้าที่มีการซื้อ-ขายล่วงหน้าว่าจะยังสามารถส่งมอบได้หรือไม่ หรือหากมาตรการภาษีตอบโต้36% ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ หากผู้นำเข้าต้องจ่ายก็เท่ากับว่า ราคาสินค้าจะถูกส่งไปยังไปยังผู้บริโภคของสหรัฐ และจะต้องมีผลต่อคำสั่งซื้อใหม่ในอนาคต เนื่องจากความไม่ชัดเจนของรายละเอียดต่าง ๆ รวมถึงต้องรอการเจรจาของภาครัฐ ดังนั้นช่วงเมษายน-พฤษภาคม 2568 การส่งออกยังคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด หากยังจบไม่ได้ ส่งออกก็จะพัง ซึ่งแนวทางรับมือนโยบายภาษีสหรัฐฯ5แนวทางที่ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง แถลงออกมาเมื่อวานนี้ ทางหอการค้าไทยเห็นด้วยและพอใจ เนื่องจากเป็นแนวทางที่ได้เสนอรัฐตั้งแต่ต้นปี2568 รวมถึงข้อเสนอต่าง ๆ และสิ่งที่ต้องเข้าไปดู โดยเฉพาะมาตรการที่ไม่ใช่ภาษี เช่น สุขอนามัยในสินค้าเกษตร มาตรการทางกฎหมายที่ยังเป็นอุปสรรค รัฐจำเป็นต้องแก้ไข
อย่างไรก็ดี อยากให้รัฐบาลตั้งทีมไทยแลนด์ ซึ่งประกอบด้วยภาครัฐทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้อง และภาคเอกชน เพื่อศึกษาปัญหาภาษีการค้าโลกและแนวทางรับมือ เพราะปัญหาขณะนี้ไม่ใช่สหรัฐฯ เพียงประเทศเดียว แต่เป็นปัญหาอื่นๆ ทั่วโลกด้วย และนอกจากนี้ยังจะมีปัญหาสินค้าจากจีนล้นทะลักเข้าอาเซียนและไทยมากขึ้น จากกำแพงภาษีสหรัฐฯ ที่เก็บจากสินค้านำเข้าจากจีนพุ่งสูงขึ้นถึง 104% รวมไปถึงการสวมสิทธิสินค้าไทยเพื่อส่งออก หรือ การใช้ถิ่นกำเนิดไทยเพื่อส่งออกไปสหรัฐ เรื่องนี้กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ได้ออกมาดูแลและเข้มงวดมากขึ้น โดยเฉพาะใน 49 หมวดสินค้าสำคัญ
“ความเสียหายจากมาตรการภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ ตอนนี้ยังไม่เห็นภาพที่ชัดเจน เนื่องจากยังไม่มีความแน่นอน แต่สิ่งที่ชัดคือเราเสียโอกาสที่จะส่งมอบสินค้า สตอกสินค้าที่ผลิตจะมีโอกาสส่งออกไหม คำสั่งซื้อใหม่จะเกิดขึ้นเมื่อไรยังไม่สามารถตอบได้ เพราะทุกอย่างยังไม่ชัดเจน” นายพจน์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี