กมธ.การเมืองฯ เดินหน้าสางงบรีโนเวตรัฐสภา พันล้านบาท ชี้ไม่สมเหตุสมผล ด้าน “ฝั่งรัฐบาล” วิจารณ์สนั่นเสนอโครงการใช้งบสูงในภาวะวิกฤตเศรษฐกิจซ้ำเติมปัญหาประเทศ ไม่เห็นหัวประชาชน
เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงาน ถึงกรณีที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้เสนอของบประมาณ ในร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 มูลค่าเกือบพันล้านบาท เพื่อใช้ในโครงการเพื่อปรับปรุงพื้นที่ในรัฐสภาจำนวนหลายโครงการ อาทิ ปรับปรุงพิพิธภัณฑ์รัฐสภา 120 ล้านบาท ทำระบบเสียงห้องประชุมสัมมนา ขนาด 1,500 ที่นั่ง มูลค่า 99 ล้านบาท ปรับปรุงห้องประชุม CB406 มูลค่า 118 ล้านบาทท ปรับปรุงไฟห้องสัมมนาชั้น B1 และ B2 มูลค่า 118 ล้านบาท ปรับปรุงห้องสารนิเทศ มูลค่า 180 ล้านบาท ปรับปรุงศาลาแก้ว 123 ล้านบาท ปรับปรุงครัวรัฐสภา 117 ล้านบาท
ซึ่งเรื่องดังกล่าวถูกวิจารณ์ในวงงานรัฐสภาว่าถึงความเหมาะสม โดยแหล่งข่าวจากพรรครัฐบาล ระบุว่ารัฐสภาแห่งใหม่ที่ใช้ปัจจุบันนั้นถูกใช้งาน มาเพียง 6 ปี เท่านั้น และได้รับการส่งมอบอาคารที่ก่อสร้างแล้วเสรร็จ 100% ไปเมื่อ 4 ก.ค.2567 ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันการเสนอของบประมาณเพื่อปรับปรุงในช่วงที่ประเทศเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจ อาจเป็นการซ้ำเติมปัญหาประเทศและกระทบต่อความเชื่อถือศรัทธาจากประชาชน ที่ต้องการให้สภา ที่ประกอบด้วย สส. และ สว. ช่วยเหลือในการแก้ปัญหาความทุกข์ร้อน แต่กลับมีการเสนอของบประมาณเพื่อปรับปรุงพื้นที่ในช่วงเวลานี้อาจถูกมองได้ว่าเป็นการเสนอโครงการที่ไม่เห็นหัวประชาชน และทำไปเพื่อต้องการเงินทอนหรือไม่
อย่างไรก็ดีในการตรวจสอบการเสนอของบประมาณของสภาผู้แทนราษฎรนั้น พบว่า คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชนและการมีส่วนร่วมของประชาชน ที่มีนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เป็นประธานกมธ. ได้เรียกผู้แทนสำนักงานเลขาธิการสภาฯ เข้าร่วมประชุมในวันที่ 8 พ.ค. เพื่อพิจาณาผลดำเนินงานและการบริหารจัดการงบประมาณของสำนักงาน ซึ่งถือเป็นการเชิญหารือรอบที่2 โดยรอบแรกเกิดขึ้นเมื่อ 1 พ.ค. ซึ่งพบว่ามีการของบประมาณเพื่อปรับปรุงพื้นที่รัฐสภาหลายรายการ
โดย น.ส.ภคมน หนุนอนันต์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ฐานะกมธ.การเมืองฯ ให้สัมภาษณ์ว่าในการพิจารณาของกมธ.เมื่อวันที่ 1 พ.ค. นั้น มีเจ้าหน้าที่ระดับแผนและนโยบายเข้าชี้แจง แต่ไม่สามารถให้รายละเอียดเชิงลึกได้ ดังนั้นกมธ.จึงนัดประชุมอีกครั้ง โดยเชิญฝ่ายนโยบายเข้าชี้แจง
เมื่อถามถึงกรณีที่มีการอ้างว่างบประมาณที่เสนอขอผ่านความเห็นชอบเบื้องต้นจากกมธ.กิจการสภาฯ น.ส.ภคมน ฐานะกมธ.กิจการสภาฯ กล่าวว่า ในกมธ.กิจการสภาฯ มีการตรวจสอบด้วยเช่นกัน แต่จะเป็นบรรยากาศการพูดคุยที่คนละแบบกับกมธ.การพัฒนาการเมือง เพราะประธานกมธ. และรองประธานสภาฯ มาจากพรรคการเมืองเดียวกัน แต่ที่ได้ข้อมูลคือเขามีความต้องการเดินหน้าโครงการโรงภาพยนตร์สี่มิติ ซึ่งกมธ.ในฝั่งที่มาจากพรรคประชาชนมองว่าสิ้นเปลือง แม้ระดับนโยบายต้องการให้พื้นที่รัฐสภาเป็นพื้นที่สาธารณะประชาชนเข้ามาใช้ประโยชน์ได้ แต่กลับพบว่าระบบรักษาความปลอดภัยนั้นเข้มงวด ประชาชนไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้ง่าย ซึ่งถือว่าเป็นการคิดคนละกรอบ
“ในกมธ.กิจการสภาฯ อาจยับยั้งไม่ได้ เพราะคนที่ทำหน้าที่ตรวจสอบและเสนอขอเป็นคนมาจากพรรคเดียวกัน ทำให้ 4สส.พรรคประชาชนที่เป็นกมธ. ขอบันทึกต่อที่ประชุมว่าจะไม่ร่วมลงมติหรืออนุมัติใดๆ นอกจากนั้นแล้วยังพบว่ายังมีไอเดียที่จะทำให้พิพิธภัณฑ์รัฐสภา 2 แห่ง ด้วย ดังนั้นการพิจารณาปรับลดต่างๆ นั้นต้องรอให้ร่างกฎหมายงบประมาณฯ ปี69 เข้าสภาฯ และวาระสองจะได้พิจารณาปรับลดเพราะคิดว่าไม่สมเหตุสมผล” น.ส.ภคมน กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี