‘อ้วน’ซัดคนทำผิดก.ม.
คดีฮั้วสว.ไม่ใช่สงครามตัวแทน
อย่าขัดขวางDSIทำงาน
ส่งคำชี้แจงศาลรธน.แล้ว
ปมถูก‘สว.’ยื่นถอดถอน
หากนัดไต่สวนพร้อมไป
“ภูมิธรรม” เผยส่งคำชี้แจงให้ศาลรธน.แล้ว ปมถูกสว.ยื่นถอดถอนคดีฮั้วสว.ยันเจตนาบริสุทธิ์-ตามก.ม.หากศาลจะไต่สวนก็พร้อมไป ยังไม่มีแจ้งวันนัดพูดชัดเต็มปาก คดีฮั้วสว.ไม่ใช่สงครามตัวแทน”แดง-น้ำเงิน”ชี้เป็นเรื่องคนทำผิดก.ม.กับคนดำเนินการตามก.ม.ลั่นไม่ควรมาขวางการทำงานDSIส่วนที่กกต.ยังเงียบ!ไร้วี่แววสว.มารับทราบข้อกล่าวหาหลังลือสะพัดจ่อลงดาบ60สว.ชี้ยังอยู่ในขั้นตอนแรกไต่สวน ข่าวที่ออกมาคลาดเคลื่อน
เมื่อวันที่ 8 พฤษภคม2568นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมให้สัมภาษณ์ถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญได้รับคำร้องจากสว.พิจารณาความเป็นรัฐมนตรีของนายภูมิธรรมและศาลได้สั่งให้ส่งคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ชี้แจงไปอย่างไรบ้างว่าก็พูดในสิ่งที่เป็นจริง ยืนยันตามสิ่งที่ได้กระทำไป
‘อ้วน’ส่งคำชี้แจงศาลปมสว.ยื่นถอด
ทั้งนี้ ตนเข้าไปในเรื่องนี้ในฐานะประธานคณะกรรมการคดีพิเศษซึ่งได้มีการเรียกประชุมและมีข้อโต้แย้งเกิดขึ้นในที่ประชุมจึงได้ทบทวนและให้รับข้อโต้แย้งมาพิจารณาว่าหากคดีเรื่องฮั้วสว.มีการซ้อนกันก็ควรจะแยกคดี ต่างคนต่างทำ และหลังจากนั้นก็ให้ปฏิบัติตามกฎหมายก็เท่านั้นเอง ทำในส่วนอำนาจหน้าที่ของตนเอง
เมื่อถามว่าขณะนี้กระบวนการของศาลถึงไหนแล้ว ได้มีการเรียกมาไต่สวนหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่มี เมื่อศาลได้พิจารณาแล้วก็ตัดสินใจ แต่หากศาลจะไต่สวน ตนก็พร้อมไป แต่ขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งวันนัด
ยันทำด้วยเจตนาบริสุทธิ์-ตามหน้าที่
“ยืนยันว่าผมมีความบริสุทธิ์ใจและปฏิบัติหน้าที่ตามที่มีอำนาจหน้าที่มอบหมายก็ดำเนินการไปและผมไม่เชื่อว่ากระบวนการที่ดำเนินการไปจะเป็นปัญหาในการปฏิบัติหน้าที่ ถ้าคิดว่าเนื้อหาที่ผมทำไปมีปัญหา ศาลก็คงวินิจฉัยและพิจารณา”นายภูมิธรรม ย้ำ
เมื่อถามว่าศาลได้มีการเรียกหลักฐานเพิ่มเติมหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่าไม่มีอะไรก็แสดงในสิ่งที่เป็นวาระการประชุมและพูดถึงเจตนารมณ์ รวมถึงสิทธิหน้าที่ ไม่ได้ทำโดยพลการเมื่อถามถึงกรณีที่สว.ยื่นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ให้ตรวจสอบนายภูมิธรรมรวมถึงบอร์ดคณะกรรมการคดีพิเศษ(กพค.)ได้มีการเชิญไปชี้แจงหรือไม่นายภูมิธรรมกล่าวว่าไม่มีเลย แต่ถ้ามีข้อสงสัยในทางกฎหมาย หากเรียกมาก็ยินดีไปเจออยู่แล้ว
ย้ำไม่ใช่สงครามตัวแทน‘แดง-น้ำเงิน’
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ยังกล่าวถึงกรณีมีการวิจารณ์ว่าคดีฮั้วการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.)เป็นสงครามตัวแทนของฝ่ายสีแดง และสีน้ำเงินว่า เราไม่ได้คำนึงถึงแดงหรือน้ำเงินเพราะเวลาเราพิจารณาปัญหาจะพิจารณาว่าถูกหรือผิด และเจ้าหน้าที่รัฐมีหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมาย ไปสู้ในกระบวนการยุติธรรมและศาล ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ จึงไม่ควรมีอะไรไปขัดขวางหรือทำให้กระทบกระเทือน แต่ต้องใช้อำนาจโดยชอบซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI)ตอนนี้มีอำนาจเขาทำงานของเขาอยู่
“ไม่ใช่แดง น้ำเงินหรอกครับ มันเป็นเรื่องคนทำผิดกฎหมาย กับคนดำเนินการตามกฎหมาย เรื่องนี้สุดท้ายต้องดูว่าจบแบบไหน แต่ต้องเป็นไปตามกฎหมาย โดยดูว่าหากมีความผิดชัดเจนก็ว่าไปตามกฎหมาย แต่หากเรายังหาหลักฐานไม่ได้เพียงพอ ก็เป็นอำนาจศาลพิจารณา” นายภูมิธรรม กล่าว
ไร้วี่แววสว.มารับทราบข้อกล่าวหา
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ ไม่พบว่ามีสว.คนใดเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาภายหลังมีข่าวว่ากกต.เตรียมลงดาบ60สว.ที่ทุจริตฮั้วเลือกสว.และเตรียมยื่นศาลฎีกาเพิกถอนสิทธิ์ มีเพียงนายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ ทนายอั๋นบุรีรัมย์ ที่มายื่นข้อมูลเพิ่มเติม
สำหรับการพิจารณากรณีดังกล่าวอยู่ระหว่างการดำเนินการไต่สวนของคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน คณะที่ 26ที่ กกต.ตั้งขึ้น ซึ่งประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ กกต.กับเจ้าหน้าที่DSIร่วมเป็นกรรมการโดยมี ร.ต.อ.ชนินทร์ น้อยเล็ก รองเลขาธิการกกต.เป็นประธาน ขั้นตอนนี้ถือเป็นเป็นขั้น 1 ใน 4 ขั้นตอน ของกระบวนการสอบสวนปกติในการพิจารณาเรื่องร้องเรียน ร้องคัดค้านสำนวนทุจริตการเลือกตั้ง ตามระเบียบ กกต. ถ้าดำเนินการไต่สวนแล้วมีมูลหรือหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าอาจมีการกระทำความผิดตามข้อกล่าวหา จะมีการดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ถูกกล่าวหาตามระเบียบ
ข่าวที่ออกมาคลาดเคลื่อนจากขั้นตอนกกต.
เมื่อผู้ถูกกล่าวหาได้ชี้แจงข้อกล่าวหาแล้วคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ก็ต้องนำข้อมูลดังกล่าวมาพิจารณาร่วมกับพยานหลักฐานที่มีก่อนสรุปและมีความเห็น เพื่อเสนอสู่ขั้นตอนที่ 2 คือขั้นของสำนักงาน กกต.ซึ่งพนักงานสืบสวน และไต่สวนผู้รับผิดชอบสำนวน จะดำเนินการวิเคราะห์สำนวนและจัดทำความเห็นเสนอผ่านผู้อำนวยการฝ่าย รองผู้อำนวยการสำนัก ผู้อำนวยการสำนัก มาถึงเลขาธิการ หรือรองเลขาธิการที่ได้รับมอบหมาย เพื่อมีความเห็น ก่อนที่จะส่งต่อไปยังขั้นตอนที่ 3 คือคณะอนุกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาหรือข้อโต้แย้ง
เมื่อคณะอนุกรรมการวินิจฉัยชี้ขาด ปัญหาหรือข้อโต้แย้งได้พิจารณาแล้วจะทำความเห็นเพื่อเสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ 4 เพื่อวินิจฉัยชี้ขาดหรือสั่งการ ดังนั้นข่าวที่ปรากฏ จึงคลาดเคลื่อนจากขั้นตอนตามระเบียบ กกต.
และในสัปดาห์นี้ กกต.ต่างทยอยลงพื้นที่ ตรวจความพร้อมการอบรม กปน. และเตรียมการเลือกตั้งเทศบาล ที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 11 พ.ค.นี้ โดยช่วงเช้าที่ผ่านมานายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกกต. ได้ลงพื้นที่สังเกตการณ์การอบรมเจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรีเมืองชะอำ
กมธ.ป.ป.ช.สภาฯลุยสอบปมฮั้วสว.
ที่รัฐสภา นายฉลาด ขามช่วง สส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ(กมธ.ปปช.)สภาผู้แทนราษฎรกล่าวถึงกระแสข่าวการตรวจสอบการอั้วเลือก ส.ว.ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)และคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)กำลังตรวจสอบอยู่ว่า กระแสวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการฮั้วเลือกส.ว.เป็นเรื่องที่กระทบโดยตรงต่อฝ่ายนิติบัญญัติหากเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงมีความพยายามที่จะยึดวุฒิสภาด้วยการจัดตั้งให้พรรคพวกตัวเองเข้ามาเป็นส.ว.จำนวนมากเพื่อหวังผลประโยชน์ในทางการเมืองนั้นไม่เพียงไม่เคารพกฎหมายเท่านั้นแต่ยังเป็นการสร้างความเสียหายต่อฝ่ายนิติบัญญัติและทำลายประชาธิปไตย
เรียก‘ผู้ร้อง-กกต.’ให้ข้อมูล15พ.ค.นี้
นายฉลาดกล่าวว่าตนในฐานะประธานกมธ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ เห็นว่าการทุจริตการเลือกส.ว.เป็นเรื่องใหญ่ ดังนั้นจึงเชิญผู้ร้องในพื้นที่จังหวัดต่างๆอาทิจังหวัดอำนาจเจริญรวมไปถึงกกต.มาให้ข้อมูลกับคณะกมธ.ในวันที่ 15 พ.ค.นี้เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง โดยเฉพาะกระบวนการและขั้นตอนที่นำไปสู่การทุจริต รวมไปถึงช่องว่างช่องโหว่ทางกฎหมายที่ถูกนำไปใช้ประโยชน์ของบุคคลบางกลุ่มซึ่งจะเป็นบทสรุปสำคัญในการที่เราจะนำไปสู่การปรับแก้ไขปิดช่องว่างเหล่านั้น เพื่อทำให้ประเทศเป็นประชาธิปไตยมากขึ้นได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี