วันอังคาร ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
‘อิศรา’แพร่บทความ การสรรหา‘เลขาฯพระปกเกล้า’ ระวังซ้ำรอย‘คดีฮั้ว สว.’

‘อิศรา’แพร่บทความ การสรรหา‘เลขาฯพระปกเกล้า’ ระวังซ้ำรอย‘คดีฮั้ว สว.’

วันจันทร์ ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2568, 20.49 น.
Tag : แนวหน้าออนไลน์ การเมืองวันนี้ สถาบันพระปกเกล้า ฮั้วสว ฮั้วเลือกสว ประสงค์เลิศรัตนวิสุทธิ์
  •  

เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2568 สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้เผยแพร่บทความเรื่อง การสรรหาเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า ระวังซ้ำรอย 'คดีฮั้ว สว.' โดย ประสงค์ เลิศรัตนวิสุทธิ์ มีเนื้อหาดังนี้

"...ประเด็นของประกาศดังกล่าว ที่ทำให้ถูกมองว่าเป็นการ 'ล็อกสเปค' เพราะผู้ที่มีคุณสมบัติและความรู้ความสามารถเหมาะสมไม่สามารถยื่นสมัครเข้าชิงตำแหน่งเลขาธิการฯ ได้ด้วยตัวเองหรือให้องค์กรอื่นๆ เสนอชื่อได้ แต่ให้กรรมการสภาสถาบันพระปกเกล้าซึ่งมีจำนวน 16  คนเป็นผู้เสนอชื่อได้เท่านั้น และ กรรมการสภาสภาฯ แต่ละคนเสนอชื่อผู้ชิงตำแหน่งได้เพียงหนึ่งคนเท่านั้น..."


ในวันที่ 20 พฤษภาคม 2568 คณะกรรมการสรรหาเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้าที่มีนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา เป็นประธาน กำหนดให้ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงตำแหน่งเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้าซึ่งมีจำนวน 3 คนเข้าแสดงวิสัยทัศน์ต่อคณะกรรมการสรรหา

การสรรหาเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้าแทนนายวิทวัส ชัยภาคภูมิ (จะพ้นตำแหน่งในวันที่ 23 สิงหาคม 2568 ) ในครั้งนี้ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมากโดยเฉพาะ มีการกล่าวหาว่า ประกาศคณะกรรมการสรรหาเรื่องการเสนอชื่อผู้มีคุณสมบัติเหมาะสมในการดำรงตำแหน่งเลขาธิการฯ ที่ออกโดยที่ประชุมสภาสถาบันพระปกเกล้า มีการ ‘ล็อกสเปค’ ให้กับคนใกล้ชิดของกรรมการ สภาสถาบันพระปกเกล้าบางกลุ่มหรือคนที่อิทธิพลในแวดวงการเมือง

ประเด็นของประกาศดังกล่าว ที่ทำให้ถูกมองว่าเป็นการ 'ล็อกสเปค' เพราะผู้ที่มีคุณสมบัติและความรู้ความสามารถเหมาะสมไม่สามารถยื่นสมัครเข้าชิงตำแหน่งเลขาธิการฯ ได้ด้วยตัวเองหรือให้องค์กรอื่นๆ เสนอชื่อได้ แต่ให้กรรมการสภาสถาบันพระปกเกล้าซึ่งมีจำนวน 16  คนเป็นผู้เสนอชื่อได้เท่านั้น และ กรรมการสภาสภาฯ แต่ละคนเสนอชื่อผู้ชิงตำแหน่งได้เพียงหนึ่งคนเท่านั้น

ทั้งนี้ ประกาศ ข้อ 1.ระบุว่า “กรรมการสภาสถาบันพระปกเกล้ามีสิทธิในการเสนอชื่อผู้มีคุณสมบัติเหมาะสมเป็นเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า โดยสามารถเสนอชื่อได้เพียง 1 คนเท่านั้น”

จากประกาศดังกล่าว ถ้ากรรมการสภาสถาบันพระปกเกล้าทุกคนเสนอชื่อบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสมคนละ 1 ชื่อเพื่อชิงตำแหน่งเลขาธิการฯ ก็จะมีบุคคลให้คัดเลือกจำนวน 16 คน ซึ่งถือเป็นจำนวนที่ไม่มาก หรือน้อยเกินไป

แต่ในความเป็นจริงแล้วมีผู้สมัครเข้าชิงตำแหน่งเลขาธิการฯ รายหนึ่ง ต้องการตัดคู่แข่งให้เหลือน้อยที่สุดจึงใช้วิธีวิ่งเต้นให้กรรมการสภาสถาบันฯ หลายคนเซ็นรับรองเสนอชื่อตนเอง โดยที่กรรมการสภาสถาบันฯ ต่างไม่ทราบว่า บุคคลผู้นี้ได้ให้กรรมการสภาสถาบันฯ รายอื่น เซ็นรับรองไปแล้ว ทำให้ผู้สมัครรายนี้เพียงคนเดียวมีกรรมการสภาสถาบันฯ เซ็นเสนอชื่อเกือบ 10 คน

ทำให้กรรมการสภาสถาบันฯ เหล่านี้ไม่สามารถเซ็นเสนอชื่อบุคคลอื่นๆ ได้อีก

“กรรมการ สภาสถาบันฯ หลายคนไม่รู้จักผู้สมัครรายนี้ แต่ที่เซ็นรับรองเสนอชื่อให้ก็เพราะเกรงใจผู้ใหญ่ในแวดวงการเมืองที่ขอร้องมา” กรรมการสภาสถาบันฯ รายหนึ่งกล่าว

นอกจากประเด็นการใช้เล่ห์กล ในการตัดคู่แข่งข้างต้นแล้ว

นายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สมัยรัฐบาลพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ และอดีตประธานสภาพัฒนาการเมือง ยังตั้งข้อสังเกตว่า การกำหนดให้ผู้สมัครฯจะต้องให้กรรมการสภาสถาบันฯเเซ็นรับรองเพื่อเสนอชื่อนั้น เป็นการปิดกั้นผู้มีความรู้ความสามารถหรือผู้มีคุณสมบัติเหมาะสมอื่นๆ เพราะบุคคลเหล่านั้นอาจจะไม่รู้จักกรรมการสภาสถาบันฯ จึงไม่สามารถ หรือไม่กล้าให้ไปเซ็นรับรอง

ขณะที่กรรมการสภาสถาบันฯก็ไม่รู้จักผู้ที่ต้องการสมัครฯก็ไม่กล้าเซ็นรับรองเช่นกัน เพราะอาจเกิดความเสียหายขึ้นในภายหลังได้

นอกจากนั้นกรรมการสภาสถาบัฯอาจจะกังวลว่าจะเกิดความขัดแย้ง หากจะเสนอผู้สมัครฯคนอื่นไปแข่งกับกรรมการสภาสถาบันฯคนอื่น จึงอาจจะปฏิเสธการลงชื่อรับรองผู้ต้องการสมัคร

“อาจจะมีกลุ่มคนบางกลุ่มตกลงกันภายในเพื่อสนับสนุนผู้สมัครคนใดคนหนึ่ง อาจจะกลายเป็นการล็อกสเปค” นายธีรภัทร์ กล่าว

เมื่อพิจารณาจาก ปรากฏการณ์เกิดขึ้นจะเห็นว่าข้อสังเกตของนายธีรภัทร์ เกิดขึ้นจริงโดยเฉพาะประเด็นที่มีผู้สมัครรายหนึ่งวิ่งเต้นให้กรรมการสภาสถาบันฯ หลายคนเซ็นรับรองเสนอชื่อตนเองเข้าสมัคร เพื่อตัดคู่แข่งให้เหลือน้อยที่สุด

ที่สำคัญคือ ถ้าผู้สมัครรายนี้ผ่านการคัดเลือกของคณะกรรมการสรรหาเข้าสู่การพิจารณาของกรรมการสภาสถาบันฯ

คำถามคือกรรมการสภาสถาบันฯ ที่เซ็นรับรองเสนอชื่อผู้สมัครรายนี้ จะยกมือไม่ให้ความเห็นชอบหรือไม่เพราะเป็นผู้เซ็นรับรองเสนอชื่อเอง

ถ้าผู้เซ็นรับรองเสนอชื่อไม่ยกมือให้ความเห็นชอบก็เท่ากับการเซ็นรับรอง ที่ผ่านมาเป็นการเซ็นส่งเดชไปเท่านั้น

ดังนั้น การกำหนดให้กรรมการสภาสถาบันฯเป็นผู้เซ็นรับรองเสนอชื่อผู้สมัครในลักษณะดังกล่าวข้างต้น เท่ากับเป็นการ ‘ล็อกสเปค’ ล่วงหน้าหรือไม่

ขณะเดียวกันเป็นการจำกัดผู้ที่มีความรู้ความสามารถเข้าสมัครชิงตำแหน่งเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้าซึ่งเป็นองค์กรที่มีความสำคัญด้านวิชาการและการพัฒนาบุคลากรให้กับแวดวงการเมือง และสังคมมานานเกือบ 30 ปี

การจำกัดมิให้ผู้มีความรู้ความสามารถเข้าสมัครชิงตำแหน่งเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า อาจทำให้ ผู้สมัครเข้าชิงตำแหน่งดังกล่าวมีคุณภาพและศักยภาพด้อยกว่าที่ควรจะเป็นโดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับอดีตเลขาธิการฯในอดีต เช่น นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ นายนรนิติ เศรษฐบุตร นายวุฒิสาร ตันไชย

เมื่อกระบวนการสรรหาเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้าครั้งนี้ มีจุดด่างพร้อยและมีผู้ตั้งข้อสงสัยว่ามีการ “ล็อกสเปค” แล้ว ผู้มีอำนาจที่เกี่ยวข้องตั้งแต่กรรมการสภาสถาบันฯ คณะกรรมการสรรหาฯ ควรยกเลิกการสรรหาครั้งนี้และแก้ไขประกาศให้มีการเปิดกว้างให้ผู้มีความรู้ความสามารถเข้าสมัครชิงตำแหน่งได้มากกว่าที่เป็นอยู่

ถ้าหากยังดื้อดึงเดินหน้าต่อไประวังจะซ้ำรอย 'คดีฮั้วเลือก ส.ว.' จนทำลายความน่าเชื่อถือและนำไปสู่ความเสื่อมศรัทธาต่อสถาบันพระปกเกล้าอีกด้วย

ประสงค์ เลิศรัตนวิสุทธิ์

ขอบคุณที่มาจาก : https://www.isranews.org/article/isranews-article/137914-prasong-4.html

- 006

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'วิโรจน์\'ลุยชายแดนสังขละบุรี ถกปัญหา\'ที่ดิน\'ระหว่าง\'กองทัพบก-ปชช.\' 'วิโรจน์'ลุยชายแดนสังขละบุรี ถกปัญหา'ที่ดิน'ระหว่าง'กองทัพบก-ปชช.'
  • \'สนธิรัตน์\'เบิกเนตร! ประเทศไทยติดหล่ม...ใครจะช่วยดัน? 'สนธิรัตน์'เบิกเนตร! ประเทศไทยติดหล่ม...ใครจะช่วยดัน?
  • \'ไทกร\'เปิดลับ 3 กลุ่ม โผล่บงการ\'ทักษิณ\'หนีนอกประเทศ ปูแผน\'ลูก\'ยุบสภา? 'ไทกร'เปิดลับ 3 กลุ่ม โผล่บงการ'ทักษิณ'หนีนอกประเทศ ปูแผน'ลูก'ยุบสภา?
  • \'สุวัจน์-เทวัญ\'ขอบคุณชาวโคราช ไว้วางใจเลือก\'หมอวรรณรัตน์\'เป็นนายกเทศมนตรี 'สุวัจน์-เทวัญ'ขอบคุณชาวโคราช ไว้วางใจเลือก'หมอวรรณรัตน์'เป็นนายกเทศมนตรี
  • \'เจิมศักดิ์\'แนะยกเลิกฟรีวีซ่า ให้แต่เฉพาะ\'คนจีนสีขาว\'เข้าไทย 'เจิมศักดิ์'แนะยกเลิกฟรีวีซ่า ให้แต่เฉพาะ'คนจีนสีขาว'เข้าไทย
  • ‘พท.’ยันไม่ยุบสภาฯ ย้ำทุกพรรคยังทำงานร่วมกันได้ ชี้เป็นธรรมดามีเกมการเมือง ‘พท.’ยันไม่ยุบสภาฯ ย้ำทุกพรรคยังทำงานร่วมกันได้ ชี้เป็นธรรมดามีเกมการเมือง
  •  

Breaking News

อากาศแปรปรวน! เครื่องบินโดยสารลงจอด'อู่ตะเภา' 8 ลำ

‘สหรัฐฯ-จีน’ลดภาษี115%พักรบ90วันดีต่อศก.โลก ห่วงเสถียรภาพการเมืองทำไทยเสียเปรียบเจรจา

'วิโรจน์'ลุยชายแดนสังขละบุรี ถกปัญหา'ที่ดิน'ระหว่าง'กองทัพบก-ปชช.'

(คลิป) แนวหน้าTAlk : 'ปิยะ' ชำแหละ! 'กาสิโน' แบบหมดเปลือก!!

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved