'รมว.ยุติธรรม' ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการแก้ปัญหายาเสพติดในพื้นที่ จ.นราธิวาส ชื่นชม'องค์ การบริหารส่วนตำบลดุซงญอ'สร้างศูนย์เฝ้าระวังยาเสพติดชุมชน และกลไกแจ้งเตือนภัยล่วงหน้าโดยประชาชนมีส่วนร่วม
วันที่ 24 พฤษภาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดนราธิวาส ว่า พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เดินทางลงพื้นที่เพื่อติดตามความคืบหน้าการแก้ปัญหายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ที่สถานีตำรวจภูธรจะแนะ อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส จากนั้นเดินทางต่อไปที่องค์การบริหารส่วนตำบลดุซงญอ อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส เพื่อติดตามความคืบหน้าการแก้ปัญหายาเสพติดพร้อมรับฟังการบรรยายสรุป และรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ พร้อมทั้งเป็นประธานเปิดโครงการส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่น องค์การบริหารส่วนตำบลดุซงญอ โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ผู้นำศาสนา ผู้นำชุมชน และประชาชนในพื้นที่ร่วมให้การต้อนรับ
รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า โครงการส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่น ซึ่งจัดขึ้นโดยองค์การบริหารส่วนตำบลดุซงญอ เป็นการสืบสานองค์ความรู้ท้องถิ่น อัตลักษณ์วัฒนธรรม และวิถีชีวิตที่ทรงคุณค่าของประชาชนในพื้นที่ คำว่า “ดุซงญอ” เป็นมากกว่าชื่อของตำบลหรือหมู่บ้าน หากคือเรื่องราวของผู้คน ความผูกพัน ความรุ่งเรือง และความหวัง นักเขียนท้องถิ่นผู้เป็นบุตรหลานของดุซงญอ อย่างคุณชุมศักดิ์ นรารัตน์วงค์ นักเขียนและสื่อสารมวลชน เคยบรรยายความทรงจำอันจับใจว่า'ดุซงญอ'ในสมัยก่อนเจริญมาก มีโรงหนัง 2 แห่ง มีโรงไฟฟ้าเอง มีประปาหมู่บ้าน โรงแรม โรงเรียนจีน ฯลฯ พ่อเป็นคนแรกในหมู่บ้านที่มีรถจิ๊ปขับ มีคนขับรถให้เป็นชาวไทยมุสลิม การค้าขายส่วนใหญ่ติดต่อกันระหว่างคนไทยพุทธ มุสลิม และคนไทยเชื้อสายจีน โดยไม่เคยมีปัญหาใดๆเกิดขึ้นด้วยความเอื้ออารี บ้านของเราจะเต็มไปด้วย'ตูปะ' และของกินในช่วงฮารีรายอจากเพื่อนบ้านมุสลิม ส่วนในตรุษจีน พ่อจะนำขนมเข่งและผลไม้ไปมอบให้พี่น้องมุสลิมฉันญาติมิตร” นี่คือภาพแทนของสังคมที่เคยเติบโตบนพื้นฐานของความไว้วางใจ ความเข้าใจ และความหลากหลาย ซึ่งถือเป็น“ทุนทางสังคม” ที่มีค่าที่สุดของพื้นที่ชาย แดนใต้ และเป็นรากฐานของชุมชนที่เข้มแข็ง
รมว.ยุติธรรม กล่าวด้วยว่า เราไม่อาจกล่าวถึงดุซงญอโดยไม่กล่าวถึงเหตุการณ์เดือนเมษายน ปี 2491 บทหนึ่งของประวัติศาสตร์ที่แสดงออกถึงความเจ็บปวด ความไม่เข้าใจ เพื่อการเรียนรู้และก้าวข้ามด้วยสติและสันติ เพราะการพัฒนาที่ยั่งยืน ไม่ได้หมายถึงการลืมอดีต แต่คือการฟังเสียงจากอดีต นำมาออกแบบอนาคตที่เท่าเทียมกว่า เป็นธรรมกว่า และปลอด ภัยสำหรับทุกคน ฉะนั้น“ดุซงญอ” ในวันนี้ จึงไม่ควรเป็นเพียงพิพิธภัณฑ์ของความทรงจำ แต่ควรเป็นเวทีของการพัฒนาคนรุ่นใหม่ด้วย ศาสนา การศึกษา วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และคุณภาพชีวิตที่ดี เพราะการพัฒนาคน คือหัวใจของการพัฒนาอย่างยั่งยืน ต้องทำให้เยาวชนมีพื้นที่ปลอดภัย มีทักษะชีวิต มีเวทีสร้างสรรค์ และได้รับการยอมรับในฐานะ“เจ้าของอนาคตของชุมชน” อย่างไรก็ตาม ขณะที่เราร่วมกันอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น เราก็ไม่อาจละเลยภัยคุกคามจากยาเสพติดที่กำลังรุกคืบเข้าสู่ชุมชน โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลและชายแดน ปัจจัยเชิงโครงสร้าง เช่น ความยากจน ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา และครอบครัวที่เปราะบาง ล้วนทำให้เยาวชนตกเป็นเหยื่อของเครือข่ายค้ายาเสพติดได้ง่ายขึ้น
“ผมเชื่อว่าการแก้ไขปัญหายาเสพติดต้องอาศัยพลังจากชุมชน ศาสนา และครอบครัว อย่างแท้จริง เราต้องส่งเสริมการให้ความรู้ ทักษะชีวิต เปิดพื้นที่สร้างสรรค์ให้เยาวชนได้มีส่วนร่วมสร้างศูนย์เฝ้าระวังชุมชน และกลไกแจ้งเตือนภัยล่วงหน้า โดยชาวบ้านมีส่วนร่วมเป็นเจ้าของ และขอแสดงความชื่นชมต่อองค์การบริหารส่วนตำบลดุซงญอ ที่ไม่เพียงอนุรักษ์ภูมิปัญญา แต่ยังเป็นเวทีรวมพลังของชุมชนเพื่อรับมือกับปัญหาอย่างรอบด้าน ซึ่งสะท้อนถึงแนวทางของการพัฒนาที่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางอย่างแท้จริง“ พันตำรวจเอกทวี กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า วันพรุ่งนี้(25 พฤษภาคม 2568) พันตำรวจเอกทวี มีกำหนดการเปิดกิจกรรมเดิน-วิ่งการกุศล Run For Relife ของกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมในการให้โอกาสเริ่มต้นชีวิตใหม่ของผู้ก้าวพลาด และสร้างการยอมรับว่าการกลับคืนสู่สังคมให้อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข ณ กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม จังหวัดนนทบุรี ในเวลา 05.00 น.
.-008
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี