‘ภัณฑิล’ โร่แจงไม่ทัวร์สภาร่วม ‘พิเชษฐ์’ อ้างไม่เหมาะ-ต้องแจงต่อสาธารณะ เตรียมยื่น ‘ศาลรธน.’ ตรวจสอบ แปรงบเข้าพื้นที่ตัวเอง ด้าน ‘ภัสริน’ ข้องใจเงิน 87% กองอยู่ ‘เชียงราย’
วันที่ 31 พฤษถาคม 2568 เวลา 10.05 น. ที่รัฐสภา นายภัณฑิล น่วมเจิม สส.กทม. พรรคประชาชน แถลงกรณีที่นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน สส.เชียงราย และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 เชิญตน และนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน เดินสำรวจอาคารรัฐสภาในวันนี้ (31 พ.ค.) หลังจากถูกอภิปรายในร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)งบประมาณรายจ่ายประจำปีประมาณพ.ศ.2569 ในส่วนงบสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ที่มีความฟุ่มเฟือยและพบพิรุธหลายโครงการว่า ได้รับคำเชิญจากนายพิเชษฐ์จริง หลังจากที่ตนอภิปรายเสร็จนายพิเชษฐ์ก็เข้ามาหาตนที่ห้องอาหารเพื่ออยากชี้แจง แต่หลายเรื่องตนอยากให้นายพิเชษฐ์ชี้แจงต่อสาธารณะ แม้ระหว่างการอภิปรายนายพิเชษฐ์จะชี้แจงไปบางส่วน แต่ตนกับนายพิเชษฐ์มีความเห็นแตกต่างกัน เพราะตนไม่เห็นความจำเป็นโครงการเหล่านี้
นายภัณฑิล กล่าวต่อว่า พรรคประชาชนกำลังจะยื่นเรื่องการแปรงบเข้าเขตพื้นที่ของตนเองว่าผิดรัฐธรรมนูญหรือไม่ขณะนี้อยู่ระหว่างการร่างคำร้อง ตนจึงมองว่าไม่เหมาะที่วันนี้จะมาแถลงข่าวร่วมกับนายพิเชษฐ์ เพราะกำลังจะยื่นตรวจสอบนายพิเชษฐ์ต่อศาลรัฐธรรมนูญ และคงไม่ต้องให้นายพิเชษฐ์พาทัวร์สภา ซึ่งตนสามารถพาทุกคนทัวร์สภาได้เองอยู่แล้ว อย่างศาลาแก้วที่เถียงกันไปมาก็ยังไม่เห็นรายละเอียดว่าจะทำอะไร ทั้งที่ใช้งบประมาณกว่า 100 ล้านบาท ตนได้ข่าวมาว่าจะรื้อศาลาแก้วทั้งหมด นายพิเชษฐ์กล้าเถียงหรือไม่ว่าจะไม่รื้อ รวมถึงเสาปฏิมากรรมด้านหน้าอาคารรัฐสภาด้วย เพราะมีโครงการจะนำพระบรมราชนุสาวรีย์รัชกาลที่ 7 มาประดิษฐาน รวมถึงรับรองงานใหญ่ในต้นปีหน้าโดยที่ยังไม่มีการบอกรายละเอียดโครงการ
“นายพิเชษฐ์ชอบพูดคำว่าแค่พันล้าน พูดแบบนี้ดูถูกประชาชน เงินก็คือเงินแม้จะบาทเดียวก็เงิน จะใช้คำว่าแค่ไม่ได้ไม่อยากให้เบี่ยงประเด็นว่าเหมาะสมหรือไม่ ประชาชนได้ตัดสินไปแล้วว่าเป็นการใช้จ่ายงบประมาณที่สุรุ่ยสุร่าย ผมอยากให้สื่อมวลชนติดตามเรื่องการแปรงบประมาณเข้าเขตพื้นที่ตนเอง ซึ่งผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 144 อย่างชัดเจนแม้แต่เจ้าหน้าที่สภายังแซวเลยว่าจะต้องไปอยู่เชียงรายหรือไม่ จึงจะสามารถทำโครงการได้หมด นายพิเชษฐ์พยายามเบี่ยงประเด็นเป็นเรื่องอาคารสถานที่ ซึ่งก็มีปัญหาอยู่แล้ว แต่ประเด็นคือนายพิเชษฐ์กำลังจะใช้งบอบรมสัมมนาอย่างมิชอบ โดยใช้คำว่าสตรี เยาวชน มาบังหน้าอีกด้วย” นายภัณฑิล กล่าว
ขณะที่น.ส.ภัสริน รามวงศ์ สส.กทม. พรรคประชาชน กล่าวว่า เหตุใดงบประมาณ 87% จึงไปกองที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งการเขียนโครงการใช้แบบฟอร์มเดียวกัน แม้แต่ปากกาก็น้ำหมึกเดียวกัน ลงวันที่เดียวกัน ถ้าไม่ไร้เดียงสาจนเกินไปคนเขียนโครงการก็น่าจะเป็นคนเดียวกันหรือไม่ และมีการใช้ว่าคำว่าโครงการสตรี ตนจึงได้ไปสอบถามข้อมูลที่อนุกรรมาธิการสตรี เพื่อขอคำชี้แจงว่าเหตุใดมีโครงการเกี่ยวกับสตรี และโยกย้ายงบไปที่จังหวัดเชียงรายจังหวัดเดียว
จากนั้น นายภัณฑิล กล่าวเสริมว่า โครงการต่างๆ เรียงตามเลขหมู่บ้านเลย เป็นการกระทำที่อุกอาจมาก ซึ่งรายละเอียดโครงการในงบปี 69 ก็ยังทำซ้ำแบบเดิมโดยที่งบประมาณไม่ได้ลดลง ทั้งนี้ ฝ่ายนิติบัญญัติห้ามใช้เงิน เพราะเป็นฝ่ายที่ออกกติกา ถ้ามีการใช้เงินฝ่ายบริหารกับฝ่ายนิติบัญญัติจะแยกกันไม่ออก ถือว่ามีเจตนาตั้งแต่แรก ท่านไม่เคยตอบรายละเอียดโดยอ้างแต่คำว่าศักดิ์ศรี เราจะมีศักดิ์ศรีได้ในฐานะสส. หากมีการตรวจสอบการใช้งบประมาณอย่างเข้มข้นถึงจะภูมิใจในศักดิ์ศรีได้ ทุกวันนี้นายพิเชษฐ์ยังจินตนาการอยากจะใช้เงินต่อ จึงเป็นเหตุผลที่ตนไม่อยากเสียมารยาทมายืนร่วมแถลงข่าวกับนายพิเชษฐ์ เพราะจุดยืนเราต่างกัน
จากนั้น นายภัณฑิล และน.ส.ภัสรินได้พาสื่อมวลชนไปดูพื้นที่ที่ได้ของบประมาณเพื่อปรับปรุง เช่น ศาลาแก้ว โดยตั้งคำถามว่าหากเปลี่ยนเป็นห้องแอร์จะกระทบกับสิ่งแวดล้อม พร้อมตั้งข้อสงสัยถึงประมาณที่จะปรับปรุงสถาปัตยกรรมบริเวณหน้าอาคารรัฐสภาว่ามีความจำเป็นจริงๆหรือ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี